แนวคิดเกี่ยวกับบัญชีต้นทุน image

ต้นทุน COST หมายถึง มูลค่าของทรัพยากรที่สูญเสียไปเพื่อให้ได้สินค้าหรือบริการ โดยมูลค่านั้นจะต้องสามารถวัดได้เป็นหน่วยเงินตรา ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของการลดลงในสินทรัพย์หรือเพิ่มขึ้นในหนี้สิน ต้นทุนที่เกิดขึ้นอาจจะให้ประโยชน์ในปัจจุบันหรือในอนาคตก็ได้ ต้นทุนใดที่เกิดขึ้นแล้วและกิจการได้ใช้ประโยชน์ไปทั้งสิ้นแล้วต้นทุนนั้นจะถือเป็นค่าใช้จ่าย สำหรับต้นทุนที่กิจการสูญเสียไป แต่จะให้ประโยชน์แก่กิจการในอนาคตเรียกว่าสินทรัพย์

ต้นทุนผลิต Cost of Manufacturing หรือ Cost of Production หมายถึง ต้นทุนที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องในการแปรสภาพของสิ่งของอย่างหนึ่งเป็นสิ่งของอย่างหนึ่ง ต้นทุนการผลิตประกอบด้วย วัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าใช้จ่ายการผลิต

ส่วนประกอบของต้นทุนผลิต


4.การจำแนกต้นทุนตามความสัมพันธ์กับหน่วยต้นทุนพิจารณาตามความสามารถที่จะระบุได้ว่าต้นทุนใดเป็นต้นทุนของงานใด แบ่งได้ 2 ชนิด ต้นทุนทางตรง Direct costsและต้นทุนทางอ้อม Indirect costs

2.การจำแนกต้นทุนตามความสำคัญและลักษณะของต้นทุนผลิต

การจำแนกเพื่อการวางแผนและควบคุมมากกว่าจะคำนวณต้นทุนของสินค้า แบ่งได้ 2 ชนิด คือ

ต้นทุนแปรสภาพ Conversion Costs หมายถึง ต้นทุนที่เกี่ยวกับการแปรสภาพและเปลี่ยนรูปแบบจากวัตถุดิบทางตรงให้กลายเป็นสินค้าสำเร็จรูป ต้นทุนแปรสภาพ ประกอบด้วยค่าแรงงานทางตรง และค่าใช้จ่ายในการผลิต

ต้นทุนขั้นต้น Prime Costs หมายถึง ต้นทุนของวัตถุดิบทางตรงและค่าแรงงานทางตรง โดยถือว่ามีความสัมพันธ์โดยตรงกับการผลิต

  1. การจำแนกต้นทุนตามพฤติกรรมของต้นทุน มีลักษณะที่สำคัญคือเป็นการวิเคราะห์จำนวนของต้นทุนที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามปริมาณการผลิต หรือระดับการผลิต Cost Driver เป็นแนวคิวในการจำแนกต้นทุนเพื่อประโยชน์ในการวางแผนตัดสินใจ สามารถแบ่งได้ 3 ชนิด

ต้นทุนคงที่ Fixed costs หมายถึง ต้นทุนที่มีพฤติกรรมคงที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตามระดับปริมาณการผลิต

ต้นทุนผันแปร Variable costs
หมายถึงต้นทุนจะเปลี่ยนแปลงไปตามสัดส่วนของการเปลี่ยนแปลงในระดับปริมาณการผลิต ในขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยจะคงที่เท่ากันทุกหน่วย

ต้นทุนผสม Mixed costs หมายถึง ต้นทุนที่มีทั้งลักษณะคงที่และผันแปรรวมอยู่ด้วยกัน

  1. การจำแนกต้นทุนตามลักษณะส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ แบ่งส่วนประกอบต้นทุนผลิตดังนี้


    DM หมายถึง วัตถุดิบที่เป็นส่วนสำคัญที่ถูกใช้โดยตรงในการแปรสภาพให้วัตถุดิบ เป็นสินค้าสำเร็จรูป และสามารถคิดเข้าเป็นต้นทุนของหน่วยที่ผลิตได้โดยง่าย เช่น กิจการผลิตไข่เค็ม ไข่เป็ดถือเป็นวัตถุดิบทางตรงได้



    DLหมายถึง ค่าแรงงานของคนงานที่ใช้ในการแปรสภาพให้วัตถุดิบนั้นเป็นสินค้าสำเร็จรูปโดยตรง สามารถคิดเข้าเป็นต้นทุนของหน่วยที่ผลิตได้โดยง่าย


    OH หมายถึง ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ นอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรงและค่าแรงงานทางตรง หรือต้นทุนทั้งหมดทุกรายการในการแปรสภาพจากวัตถุดิบเป็นสินค้าสำเร็จรูป นอกเหนือจากวัตถุดิบทางตรงและค่าแรงทางตรง


    ต้นทุนผลิต = วัตถุดิบทางตรง + ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใช้จ่ายในการผลิต

  1. การจำแนกต้นทุนตามหน้าที่งานในสายการผลิต แบ่งได้ 2 ชนิดต้นทุนแผนกผลิต หมายถึง ต้นทุนต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทำงาน ของเครื่องจักร คนงาน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นในแผนกผลิตสินค้าของกิจการ เช่น แผนกตัด แผนกเชื่อมและต้นทุนแผนกบริการหมายถึง ต้นทุนต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตโดยตรง ซึ่งเกิดจากแผนกอื่นที่ทำหน้าที่ด้านการบริการให้แก่แผนกอื่น ๆ เช่น แผนกคลังวัตถุดิบ แผนกซ่อมบำรุง แผนกบัญชี
  1. การจำแนกต้นทุนตามหน้าที่งานในกิจการ

ต้นทุนที่เกี่ยวกับการผลิต

ต้นทุนที่เกี่ยวกับการตลาด

ต้นทุนทางการเงิน

ต้นทุนที่เกี่ยวกับการบริหาร

  1. การจำแนกต้นทุนโดยพิจารณาจากช่วงเวลาในการคำนวณกำไร

ต้นทุนผลิตภัณฑ์ Product costs ได้แก่ต้นทุนที่เกิดขึ้นโดยตรงหรือโดยอ้อมในการผลิตสินค้า

ต้นทุนงวดเวลา Period costs ได้แก่ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต (นอกเหนือจากต้นทุนขาย ) ปกติจะเป็นต้นทุนที่เกิดขึ้นและได้ให้ประโยชน์แก่กิจการสิ้นสุดลงในงวดบัญชีนั้น ๆ

  1. การจำแนกต้นทุนตามความสัมพันธ์กับเวลา

ต้นทุนทดแทน

ต้นทุนในอนาคต

ต้นทุนในอดีต

  1. การจำแนกต้นทุนตามลักษณะของการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อตัดสินใจ
  1. การจำแนกต้นทุนตามลักษณะของความรับผิดชอบ

ต้นทุนควบคุมได้

ต้นทุนควบคุมไม่ได้

ต้นทุนจม

ต้นทุนที่หลีกเลี่ยงได้

ต้นทุนเสียโอกาส

ต้นทุนส่วนที่แตกต่าง

ต้นทุนส่วนเพิ่มต่อหน่วย

ประเภทระบบการผลิต

  1. ระบบการผลิตแบบผสม Dual Systemเป็นลักษณะการผลิตของกิจการที่ผลิตสินค้าหลายชนิดแต่ละชนิดผลิตเป็นจำนวนมากเพื่อเก็บไว้ขาย หรือเป็นลักษณะการผลิตของกิจการที่ผลิตส่วนประกอบที่เป็นมาตรฐาน หรือส่วนประกอบย่อยในระบบต่อเนื่องกัน เพื่อนำไปประกอบเป็นสินค้าสำเร็จรูปตามคำสั่งของลูกค้า
  1. ระบบการผลิตกระบวนการ Process Systemเป็นลักษณะการผลิตของกิจการที่ผลิตสินค้าเป็นจำนวนมากเพื่อเก็บไว้ขายไม่ได้ผลิตตามคำสั่งของลูกค้าแต่ละราย ใช้ระบบบัญชีต้นทุนตอน หรือระบบต้นทุนกระบวนการ สินค้าที่ผลิตทุกหน่วยมีลักษณะเหมือนกัน โดยผ่านการผลิตเป็นขั้นตอนต่อเนื่องกันไป และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ส่วนประกอบของต้นทุนจึงเหมือนกันทุกอย่าง
  1. ระบบการผลิตงานสั่งทำ Job Order Systemเป็นลักษณะการผลิตของกิจการที่ผลิตสินค้าตามคำสั่งของลูกค้า และใช้ระบบต้นทุนงานสั่งทำ สินค้าที่ผลิตจะมีลักษณะแตกต่างกัน เป็นลักษณะเฉพาะอย่างที่ลูกค้าต้องการ

ลำดับขั้นของการบัญชีต้นทุน

1.ขั้นเตรียมการผลิต

4.ขั้นการจัดจำหน่าย

3.ขั้นผลิตเสร็จ

2.ขั้นดำเนินการผลิต

ประโยชน์ของบัญชีต้นทุน

  1. เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับการตัดสินใจในการวางแผนและควบคุม ทำให้ผู้บริหารสามารถดำเนินธุรกิจไปอย่างมีแบบแผน และบรรลุเป้าหมายตามความต้องการ และหาทางกำหนดวิธีการปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างทันเวลา
  1. เพื่อใช้ในการตีราคาสินค้าคงเหลือ อย่างถูกต้องหรือใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด
  1. เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ปัญหาเพื่อการตัดสินใจ เพราะในการดำเนินธุรกิจ
  1. เพื่อให้ทราบถึงต้นทุนการผลิต และต้นทุนขายประจำงวดบัญชี ผู้บริหารสามารถทราบผลการดำเนินงานของกิจการได้

สรุปสูตรที่ใช้ในการคำนวณ

ต้นทุนสินค้าสำเร็จรูป = ต้นทุนผลิต + สินค้าระหว่างผลิตต้นงวด – สินค้าระหว่างผลิตปลายงวด

ต้นทุนขาย = ต้นทุนสินค้าสำเร็จรูป + สินค้าสำเร็จรูปต้นงวด – สินค้าสำเร็จรูปปลายงวด

ซื้อสุทธิ = ซื้อวัตถุดิบ + ค่าขนส่งเข้า – ส่งคืน – ส่วนลดรับ

กำไรขั้นต้น = ขายสุทธิ – ต้นทุนขาย

วัตถุดิบใช้ไปในการผลิต = วัตถุดิบต้นงวด + ซื้อสุทธิ – วัตถุดิบปลายงวด

กำไรสุทธิ = ขายสุทธิ – ต้นทุนขาย – ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

ต้นทุนผลิต = วัตถุดิบทางตรงใช้ไปในการผลิต + ค่าแรงงานทางตรง + ค่าใช้จ่ายในการผลิต

แนวคิดเกี่ยวกับบัญชีต้นทุน

เป็นส่วนหนึ่งทั้งการบัญชีการเงินและการบัญชีการบริหาร

พฤติกรรมต้นทุนมีประโยชน์ต่อกาตัดสินใจ

การตั้งค่าและการบริหารต้นทุน

ต้นทุนธุรกิจให้บริการ

ต้นทุนธุรกิจจำหน่ายสินค้า

ต้นทุนธุรกิจอุตสาหกรรม

ค่าแรงงาน

ต้นทุนบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการผลิต

ต้นทุนในการซื้อสินค้า

ต้นทุนขาย

ต้นทุนการผลิต

ต้นทุนขาย

image

image

image

image

image

image

image

image

image

image