การพยาบาลงานอนามัยสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง
กับสหสาขาวิชาชีพ

การจัดหาน้ำเพื่อบริโภคและอุปโภค

คุณลักษณะทางกายภาพ : วิเคราะห์ได้โดยใช้ ประสาทสัมผัส เช่น ความขุ่น สี กลิ่น อุณหภูมิ

คุณลักษณะทางเคมี : สารประกอบต่างๆทั้งสารอินทรีย์ เช่น ไซยาในด์ ตะกั่ว ปรอท

คุณลักษณะทางชีวภาพ : จุลินทรีย์เป็นตัวกำหนดคุณลักษณะทางชีวภาพของน้ำ

แหล่งน้้าเพื่อการอุปโภคบริโภค มี 3 แหล่ง

1 น้ำฝน เป็นน้้าบริสุทธิ์แต่หากที่กักเก็บน้้าไม่สะอาดทำให้น้้าปนเปื้อน และไม่เหมาะที่จะนำมาอุปโภคโดยไม่ผ่าน กระบวนการปรับปรุงคุณภาพน้้า

2 น้ำผิวดิน มีทั้งที่เกิดขึ้นเองและ มนุษย์สร้างขึ้น น้้าผิวดินไหลไปตามที่ต่างๆ จึงท้าให้น้้าผิวดินมีคุณภาพทางกายภาพไม่ดี และมีจุลินทรีย์ปนเปื้อนสูง

3 น้ำใต้ดิน มีคุณภาพด้านกายภาพและชีวภาพดี เนื่องจากผ่านการกรองโดยชั้นตัวกลางธรรมชาติขณะซึมลึกลงใต้ดิน แต่น้้ามักมีความกระด้าง

จัดทำบ่อน้ำให้ถูกหลักสุขาภิบาล

1 สถานที่ตั้งของบ่อควรเป็นที่สูง

2 บ่อต้องลึกกว่า 3 เมตร

3 มีวงขอบบ่อเพื่อป้องกันดินพัง

4 ท้าชานซีเมนต์รอบปากบ่อ รัศมีไม่น้อยกว่า 2 ฟุต

5 มีรางระบายน้้าห่างจากบ่อไม่น้อยกว่า 5 ฟุต

6 มีฝาปิดบ่อ

การผลิตน้ำสะอาด

การปรับปรุงคุณภาพน้ำทางกายภาพ

1 การต้ม การต้มน้้าให้เดือดประมาณ 20 นาที

2 การใช้ตะแกรง เพื่อป้องกันการอุดตันและ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบ

3 การกรอง มีวัตถุประสงค์เพื่อก้าจัดสารแขวนลอยออกจากน้้า

4 การตกตะกอน เพื่อแยกอนุภาคของแข็งออกจากน้้าโดย อาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก

5 การกลั่น การต้มน้้าให้เดือด เป็นไอน้้าแล้วให้ไอน้้าผ่านท่อที่เย็น

6 การเติมอากาศและการลดอากาศ จะทำให้น้้าเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน ทำให้เหล็กและแมงกานีสที่อยู่ในรูปสารละลายเปลี่ยนรูปเป็น ของแข็งจึงแยกตัวออกจากน้้าได้ง่ายขึ้น

การปรับปรุงคุณภาพน้ำทางเคมี

1 การสร้างตะกอน เพื่อกำาจัดความขุ่น สี และจุลชีพ ต่างๆในน้้า

2 การดูดซับ การกำจัดสารละลายอินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของ กลิ่น สี และรสในน้้า

3 การฆ่าเชื้อโรคในน้ำโดยใช้สารเคมี เช่น โบรมีน ไอโอดีน คลอรีน เพื่อผลิตน้้าให้สะอาดปลอดภัย

การบำบัดน้ำเสียและการควบคุมมลพิษทางน้ า

ลักษณะทางกายภาพ

ลักษณะทางเคมี

1 สารอินทรีย์ส่วนใหญ่มาจากพืชและสัตว์ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน

2 สารอนินทรีย์พารามิเตอร์สำคัญของการตรวจวัดสารอนินทรีย์ในน้้า ได้แก่ ในโตรเจน คลอไรด์

3 ก๊าซ ก๊าซที่ทำให้เกิดมลพิษ คือ ไฮโดรเจนซัลไฟด์และมีเทน

ลักษณะทางชีวภาพ

1 ปริมาณโคลิฟอร์มทั้งหมด โคลิฟอร์มเป็นกลุ่มของแบคทีเรีย ที่มีอยู่ในลำใส้ของสัตว์เลือดอุ่น

2 แบคทีเรียกลุ่มฟิคอลโคลิฟอร์ม อี.โคไล ซึ่งมีความทนทานต่อคลอรีนมากกว่าจุลินทรีย์ชนิดอื่น

การบำบัดน้ำเสีย

1 การบำบัดทางกายภาพ : แยกเอาสิ่งเจือปน ออกจากน้้าเสีย เช่น ของแข็งขนาดใหญ่ กระดาษ พลาสติก

2 การบำบัดทางเคมี : วิธีนี้ใช้สำหรับน้้าเสียที่มีส่วนประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งคือ ค่า pH สูง หรือต่้าเกินไป มีสารพิษ มีโลหะหนัก

3 การบำบัดทางชีวภาพ : การกำจัด สิ่งเจือปนในน้้าเสียโดยเฉพาะสารคาร์บอนอินทรีย์ ไนโตรเจน และ ฟอสฟอรัส

กรรมวิธีกำจัดน้้าเสีย

ของแข็งหรือสารที่แขวนลอยละลายในน้้า ความขุ่น น้้าเสียมีอุณหภูมิสูง กว่าน้้าธรรมดาเล็กน้อย มีสีเทาปนน้้าตาลอ่อนๆ

การกำจัดโดยไม่ใช้กรรมวิธี

การกำจัดโดยใช้กรรมวิธี

1 การทำให้เจือจาง : นำน้ำเสียปล่อยทิ้งในแม่น้้าล้าคลอง ต้องพิจารณา ให้มีอัตราส่วนของน้้าเสียต่อน้้าอย่างน้อย 1 ต่อ 50 ส่วน

2 การปล่อยทิ้งบนพื้นดิน : ปล่อยให้ระเหยไปในอากาศและ ซึมลงไปในดิน ใน ชนบทนิยมปล่อยน้้าที่ใช้แล้วให้ไหลไปตามสวน ท้องนา

1 การปรับปรุงสภาพขั้นแรก :การใช้ตะแกรงเหล็กเพื่อแยกของแข็งที่มีขนาดใหญ่

2 การปรับปรุงสภาพขั้นที่สอง : เป็นการปรับปรุงทางชีววิทยาโดยใช้จุลินทรีย์ท้าลาย สารอินทรีย์ที่ละลายในน้้าทิ้ง

3 การกำจัดตะกอน : เป็นกระบวนการย่อยโดยไม่ใช้อากาศ ภายใต้การควบคุมอุณหภูมิและความเป็นกรดด่างอย่างเหมาะสม

การกำจัดขยะมูลฝอย

สุขาภิบาลอาหาร

สถานที่ประกอบและจำหน่ายอาหาร

ต้องสะอาด

โต๊ะและผนังเตาไฟต้องท้าด้วยวัสดุที่ท้าความสะอาดง่าย

มีการระบายอากาศ กลิ่น และควัน

อาหาร น้ำแข็ง เครื่องดื่ม

ล้างให้สะอาดก่อนน้ามาปรุงหรือเก็บ

เก็บอาหารในภาชนะที่สะอาดมีการปกปิด วางสูงจากพื้น

อาหารและเครื่องดื่มต้องอยู่ในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท

น้้าแข็งที่ใช้บริโภคต้องสะอาด

ภาชนะอุปกรณ์

จาน ชาม ช้อม ส้อม ต้องท้าด้วยวัสดุที่ไม่เป็นอันตราย

ภาชนะใส่เครื่องปรุงต้องทำด้วยแก้วหรือกระเบื้องเคลือบขาว

เขียงและมีดต้องมีสภาพดี

ล้างภาชนะโดยใช้น้้ายาล้างภาชนะ แล้วล้างด้วยน้้าสะอาด 2 ครั้ง

การรวบรวมขยะและน้ำใช้แล้ว

ใช้ถังขยะที่ไม่รั่วซึม และมีฝาปิด

มีท่อหรือรางระบายน้้าที่มีสภาพดีไม่แตกร้าว

มีบ่อดักเศษอาหารและดักไขมัน

ห้องน้ำ ห้องส้วม

สะอาด ไม่มีกลิ่นเหม็น

แยกเป็นสัดส่วน

ผู้สัมผัสอาหาร

มีสุขนิสัยที่ดี เช่น ตัดเล็บให้สั้น แต่งกายสะอาด

ล้างมือให้สะอาดก่อนเตรียม-ปรุงอาหาร

การควบคุมสัตว์อาร์โทรปอดและสัตว์กัดแทะ

แมลงและสัตว์นำโรค 2 ลักษณะ

1 นำโรคโดยตรง : เกิดขึ้นเมื่อถูกกัดหรือต่อยจะมีการถ่ายเชื้อโรคเข้าสู่มนุษย์

2 การนำโรคโดยการเป็นสื่อสัมผัส : แมลงมีขนเมื่อหากินในที่สกปรกจะเป็นสื่อน้าเชื้อโรคทำให้แพร่โรคได้

ยุง

การควบคุมแหล่งเพาะพันธุ์

1 การระบายน้้า

2 ไม่ปล่อยให้หญ้าบริเวณบ้านรก

การควบคุมยุงตามระยะต่างๆของวงจรชีวิตยุง

1 ระยะไข่ ทำได้โดยการขัดล้างตามผิวภาชนะที่น้้าขังต่างๆ

2 ระยะลูกน้้าและตัวโม่ง ปิดฝาภาชนะเก็บน้้าให้มิดชิด โดยปิดปากภาชนะด้วยผ้ามุ่ง ตาข่ายไนลอน ชนิดตาถี่ก่อนชั้นหนึ่งแล้วจึงปิดฝาด้านนอก

3 ใช้สารเคมีกำจัดลูกน้้า เช่น น้้ามันก๊าด น้้ามันดีเซล ดีดีที

ระยะตัวเต็มวัยหรือยุง

การพ่นสารเคมี การใช้กับดักยุง

แมลงวัน

การควบคุมแมลงวันตามที่พักอาศัย

1 กำจัดขยะมูลฝอยและสิ่งปฎิกูลอย่างเหมาะสม

2 ใช้วิธีทางกลและทางกายภาพ เช่น ประตูหน้าต่างต้องมีตะแกรงหรือมุ่ง

การป้องกันและควบคุมแมลงวันในชุมชน

1 หลุมเก็บกักสิ่งปฏิกูลต้องปิดมิดชิดหรือมีน้้าหล่อที่หัวส้วม ท่อ ระบายอากาศควรมี ตะแกรงครอบเพื่อไม่ให้แมลงวันเข้าสู่หลุมส้วมได้

2 จัดให้มีการบำบัดและกำจัดน้้าเสียในชุมชนที่ถูกต้องและเหมาะสม

ขยะมูลฝอยมี 3 ประเภท

1 ขยะมูลฝอยเปียก ได้แก่ เศษอาหาร พืชผัก

2 ขยะมูลฝอยแห้ง ได้แก่ เศษกระดาษ เศษผ้า แก้ว โลหะ

3 ขยะมูลฝอยอันตราย ได้แก่ ของเสียที่เป็นพิษมีฤทธิ์กัดกร่อนและระเบิดได้ง่าย

วิธีการกำจัดขยะมูลฝอย

การทิ้งหรือถมที่

1 การทิ้งบนดิน ได้แก่ มูลฝอยที่เก็บกวาดจากถนน ควบคุมยาก

2 การทิ้งทะเล ทำได้เฉพาะเมืองชายทะเล เป็นวิธีที่ไม่ถูกสุขลักษณะ

การเผา

1 การเผากลางแจ้ง เหมาะส้าหรับก้าจัดขยะแห้ง

2 การเผาในเตาที่ถูกวิธี วิธีนี้มีข้อดีคือ ใช้พื้นที่น้อย เหมาะส้าหรับขยะที่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค

การฝัง

1 การฝังธรรมดา ทำได้โดยขุด หลุมขนาด กว้าง-ยาวประมาณ 4-5 ฟุต ลึกประมาณ 2 เมตร

2 การฝังกลบที่ถูกหลักสุขาภิบาล จะต้องไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อ สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเหตุรำคาญอื่นๆ เช่น กลิ่นเหม็น ควัน

สุขาภิบาลที่พักอาศัย

ความต้องการพื้นฐานทางด้านร่างกาย

1 การระบายอากาศ : ระบายอากาศที่ดีจะท้าให้ มีความชื้นที่ เหมาะสม อากาศเย็นพอเหมาะตามความต้องการของร่างกาย ท้าให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกสบาย

2 เสียงรบกวน : ไม่ควรดังเกิน 60 เดซิเบล

3 แสงสว่าง : ควรมีพื้นที่รับแสงสว่างอย่างเพียงพอ ไม่มีสิ่งกีดปิดกั้นแสงสว่างจากภายนอก

ความต้องการพื้นฐานทางด้านจิตใจและสังคม

1 การทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความปลอดภัย

2 มีพื้นที่ว่างพอที่จะใช้อยู่อาศัย พักผ่อน

3 มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

การป้องกันโรคติดต่อ : จัดให้มีน้้าสะอาด เพื่อป้องกัน ไม่ให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสกับตัวการที่ท้าให้เกิดโรคหรือพาหะน้าโรคติดต่อ ต่างๆ

นางสาวนภวรรณ ภาระตะวัตร รหัสนักศึกษา 624N46136