Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระยะครอบครัววัยสูงอายุ, นางสาวกรชนก นนทวงษ์ เลขที่ 25,…
ระยะครอบครัววัยสูงอายุ
จากคลิปวิดีโอ
ลูกๆต้องออกไปทำงานและมีภาระงานที่หนักไม่มีเวลามาคอยดูแลแม่ของตน แม่จึง อยู่บ้านคนเดียว “อยู่กันตามประสาคนแก่” เป็นการอยู่ตามลำพังซึ่งก็จะหมายถึงการอยู่ตามลำพังแบบถาวร ไม่มีลูกหลานอยู่ด้วย และหมายถึงการอยู่ตามลำพังในชีวิตประจำวัน หรือบางวัน บางเวลา ที่ลูกหลานไปทำงาน ซึ่งในกรณีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการอยู่ตามลำพังในเวลากลางวัน คุณยายจึงอยู่บ้านคนเดียว เตรียมอาหารไว้ให้กับลูกชายแต่ลูกชายก็ติดงานและไม่มีเวลามาทานข้าวด้วย เนื่องจากคุณยายต้องการที่จะไปเที่ยวแต่ลูกไม่มีเวลาพาไป จึงทำให้มีปากเสียงกันระหว่างลูกและภรรยาคุณยายเกิดความรู้สึกเสียใจและได้เกิดอุบัติเหตุต่อมา ผู้สูงอายุจำนวนมากไม่สามารถที่จะทำได้ตามที่ใจต้องการ ด้วยสภาพร่างกาย โรคภัยไข้เจ็บ สิ่งแวดล้อม ความพร้อมในด้านต่างๆไม่เอื้ออำนวย เราจึงต้องให้ความสำคัญกับอยู่ตามลำพัง เพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งการที่เราจะป้องกันความเสี่ยงเหล่านี้ ต้องเริ่มจากผู้สูงอายุเองด้วย ลูกหลานคนในครอบครัว :
-
อายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นระยะสร้างความสัมพันธ์และมีบทบาทใหม่กับลูกหลานและชีวิตคู่
ปรับตัวกับความเสื่อมโทรมของร่างกาย ปรับตัวกับการสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองต้องพึ่งพาลูกหลานมากขึ้น ปรับตัวกับการสูญเสียชีวิตคู่,เพื่อน, และสังคมที่ตนเองคุ้นเคย
การแก้ไขปัญหา
- ความรัก ความเอาใจใส่ เรื่องนี้ ผู้สูงอายุเองก็ต้องยอมรับว่า ไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนเดิม แต่ก็อย่างท้อถอย ต้องรักตนเอง เพราะสภาพของแต่ละคนอาจแตกต่างกัน อยากจัดการนั่นนี่ แต่เงื่อนไขไม่เหมือนกัน การเริ่มต้นจากความรัก จะทำให้เราสามารถปรับตัวและ ดูแลเอาใจใส่ตามความเหมาะสม
- หลักธรรมะ และประเพณีวัฒนธรรมของสังคมไทยเรา อันเป็นพื้นฐานของการยึดถือ ให้เป็นเข็มทิศนำทางเรา ตั้งแต่เกิดจนแก่ชรา
3.เข้าใจสภาพของร่างกาย โรคประจำตัว ว่า มีการรักษาอย่างไร อาการเป็นอย่างไร มียาอะไรที่ต้องกิน อาหารประเภทไหน
- ระบบแจ้งข่าว เมื่อมีแหตุการณ์ฉุกเฉิน จะทำได้อย่างไร มีมือถือหรือไม่ กดเลขอะไร แจ้งใคร ซึ่งอาจต้องหลายเบอร์ เช่น เบอร์ลูกหลาน เบอร์ เทศบาล เบอร์ฉุกเฉินเรียกรถพยาบาล 1669 เป็นต้น
- ผู้คนในชุมชน เนื่องจาก ผู้สูงอายุ มีการประชุมหรือมารับค่าตอบแทน ก็จะเป็นช่องทางหนึ่ง ที่จะเป็นจุดกระจายข่าวสารซึ่งกันและกัน ถึงการเตือนภัย การรับทราบสภาพของแต่ละคน ซึ่งจะทำให้ชุมชนได้ช่วยกันตรวจตราดูแลกัน
- สภาพของบ้านเรือน และสภาพแวดล้อม มีความสะดวกหรือมีอะไรที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ มีประตูหน้าต่างมิดชิดอย่างไร มีทางเดิน บันได ห้องน้ำ อย่างไร มีต้นไม้ใหญ่ มีป่ารกร้างใกล้
เสี่ยงไฟไหม้หรือไม่
- ระบบไฟฟ้าภายในบ้าน เรื่องนี้สำคัญมากเรื่องหนึ่ง เนื่องจาก บางบ้าน สร้างมานาน สภาพสายไฟอาจมีการชำรุด ต้องมีการตรวจสอบกัน ว่าจุดไหนมีความเสี่ยงต้องซ่อมแซมอย่างไร
- ปัญหาอาชญากรรม หรือได้ถูกหลอกลวงให้ซื้อของ เรื่องนี้ต้องช่วยกันพูดคุยในครอบครัว ให้คำแนะนำ ช่วยกันสอดส่องดูแล ซึ่งอาชญากรรม อาจมีทั้งเข้าถึงในบ้าน ลัก ขโมย และอาจเป็นการโทรศัพท์ มาขายของ หลอกลวง
- เรื่องจิตใจ ทำอย่างไร ไม่เศร้าซึม ไม่วิตกกังวลจนเกินไป เพราะจากงานวิจัยพบว่า ผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพัง มีโอกาสเสี่ยงมากจากภาวะความเหงา เครียด เรื่องนี้ ก็ควรมีการให้ความรู้ หารูปแบบที่ผ่อนคลายได้ ซึ่งก็ไม่ง่ายนักหากมีภาวะเจ็บป่วยต้องนอนติดเตียง แต่เนื่องจาก ปัจจุบัน มีการทำงานของชุมชน เช่นทีม อสม.เยี่ยมบ้าน ทีมหมอครอบครัว ก็จะช่วยได้มาก นอกจากนี้เพื่อนบ้านใกล้ชิด สังคมเกื้อกูลดูแล พบปะพูดคุย กันก็ช่วยได้มา
- การสื่อสาร นอกจาก เบอร์ฉุกเฉินต่างๆแล้ว การสื่อสาร ทักทายกันเป็นประจำ ไม่ว่า จะทางรูปแบบออนไลน์ หรือ การพูดคุยไถ่ถามในชีวิตประจำวัน ล้วนเป็นเรื่องสำคัญ การเรียนรู้การใช้มือถือของผู้สูงอายุ ก็เป็นทางออกที่ดี ตื่นขึ้นมาก็ส่งไลน์ให้กัน
ภารกิจและวิธีการปฏิบัติ
-
วิธีปฏิบัติ
- ปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายตาม สังขารความเจ็บป่วยของตนและคู่ครอง
- ปรับตัวกับการสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองโดย ต้องพึ่งพาลูกหลานมากขึ้น
- ปรับตัวกับการสูญเสียคู่ชีวิต เพื่อนและสังคมที่ ตนเองเคยคุ่นเคยมาตลอดชีวิตเหมือนถูกทิ้งให้อยู่ใน โลกใหม่
- แสวงหาบทบาทที่เหมาะสมของวัยชรา และเตรียม
สําหรับวาระสุดท้าย
- นางสาวกรชนก นนทวงษ์ เลขที่ 25
- นางสาวสุภามณี ราชวงษ์อุระ เลขที่ 27
- นางสาวนาถตยา คำหงศ์สา เลขที่ 29
- นางสาวกิตติยาภรณ์ แสนอุบล เลขที่ 30
- นางสาวธนวรรณ นิมานบูรณวิจิตร เลขที่ 31
- นางสาวกานต์ชนก ชมศรีหาราช เลขที่ 32
- นางสาวธัญญภรณ์ ไพกะเพศ เลขที่ 33
- นางสาววลัยลักษณ์ วารินทรา เลขที่ 35
- นางสาวนารีรัตน์ บูระพิน เลขที่ 67
- นางสาวศรันย์พร ขันตี เลขที่ 68