Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 แนวคิดหลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัย, นางสาว…
บทที่ 5
แนวคิดหลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉินและสาธารณภัย
แนวคิด หลักการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
แนวคิด
Anglo-American Model (AAM)
ประเทศไทย
Franco-German Model. (FGM)
หลักการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
หลักในการพยาบาล
ให้การรักษาพยาบาลภายใต้นโยบายของโรงพยาบาล และภายในเขตการรับรองของกฎหมาย
ให้การช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกต้อง
คัดกรองผู้ป่วยอย่างรวดเร็วแม่นยำ
ดูแลจิตใจของผู้ป่วยและญาติ
ชักประวัติการเจ็บป่วยและอาการสำคัญอย่างละเอียด
ในเวลาที่รวดเร็ว
มีการนัดหมายผู้ป่วยที่ไม่ได้นอนโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาต่อเนื่อง
เคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากยานพาหนะไปยังห้องพยาบาล อย่างนุ่มนวล รวดเร็วปลอดภัย
มีการส่งต่อเพื่อการรักษาทั้งในหอผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนัก และภายนอกโรงพยาบาล
หลักทั่วไปในการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
การป้องกันและบรรเทาไม่ให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นวิกฤต
การบันทึกเหตุการณ์อาการและการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เพื่อช่วยชีวิต
การส่งต่อรักษา หลังจากให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
หลักการพยาบาลของ
สภาการพยาบาล 2552
ค้นหาสาเหตุและ/หรือปัญหาที่ทำให้เกิดภาวะฉุกเฉิน แล้วดำเนินการแก้ไข
ดูแลและรักษาสภาวะของผู้ป่วยให้อยู่ระดับปลอดภัย และใกล้ชิด
แก้ใขปัญหาที่กำลังคุกคามชีวิตผู้ป่วย
รักษาหน้าที่ต่างๆ ของอวัยวะสำคัญของร่างกายให้คงไว้
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและติดเชื้อ
ประคับประคองจิตใจและอารมณ์ของผู้ป่วยและญาติ
หลักการดูแลผู้บาดเจ็บ (Trauma life support)
ระบบการดูแลผู้บาดเจ็บ (Trauma care system)ู
การเข้าถึงหรือรับรู้ว่ามีเหตุเกิดขึ้น (Access)
การเข้าถึงช่องทางสำหรับการติดต่อในการแจ้งเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น
การดูแลในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล
(Prehospital care)
การจัดให้มีการดูแลผู้บาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุ ให้การรักษาเบื้องต้น
โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก
การดูแลในระยะที่อยู่โรงพยาบาล (Hospital care)
การดูแลรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่การ คัดแยก ระบบทางด่วนฉุกเฉิน การวินิจฉัย การรักษาตามความเร่งด่วน รวมถึงการดูแลในหอผู้ป่วยวิกฤต
การฟื้นฟูสภาพ และการส่งต่อ
(Rehabiltation & transfer)
การดูแลต่อเนื่องในรายที่พบ
ปัญหาหรือต้องได้รับการฟื้นฟู
การดูแลผู้บาดเจ็บขั้นต้น
การกู้ชีพ (Resuscitation)
การช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตที่อาจทำให้เสียชีวิตได้
การประเมินเป็นลำดับของ ABC และสามารถทำไปพร้อมๆกับการประเมิน
Breathing ผู้บาดเจ็บทุกรายควรได้รับออกชิเจนเสริม
Circulation การห้ามเลือด ทำร่วมกับการให้สารน้ำทดแทน
Airway ภายหลังจากการประเมิน การทำ Deinitive airway
secondary survey
การประเมินสภาพผู้ป่วยอย่างละเอียด หลังจากผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตแล้ว
การประเมินผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น
(Primary Survey)
การตรวจประเมินพยาธิสภาพต้องเรียงลำดับความสำคัญของการบาดเจ็บและภาวะคุกคามแก่ชีวิตให้ดีจากนั้นให้การรักษา
ประเมินเป็นระบบ ตามลำดับขั้นตอน
B : Breathing and ventilation
เป็นการประเมิน การช่วยหายใจและการระบายอากาศ
เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนอากาศ เพื่อให้ได้
ออกซิเจนและขับคาร์บอนไดออกไซด์
C : Circulation with hemorrhagic control
เป็นการประเมินระบบไหลเวียนและการห้ามเลือด
A : Airway maintenance with cervical spine protection
เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง
โดยใช้วิธีการ Head-tilt Chin-lift
กรณีผู้ป่วยที่สงสัยหรือได้รับอุบัติเหตุ ให้
ทำการเปิดทางเดินหายใจด้วยวิธี jaw-thrust maneuver, modified jaw thrust, Triple airway maneuver
ป้องกันการบาตเจ็บของ Cervical spine ตลอดเวลา
ได้แก่ ผู้ป่วยที่ไม่รู้สึกตัว ผู้ป่วยที่บ่นปวดคอ ผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวคอได้เอง ผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บศีรษะ การบาดเจ็บคอ
D : Disability(Neurologic Status)
เป็นการประเมินระบบประสาทต่อว่าสมองหรือไขสันหลังได้รับบาดเจ็บหรือไม่
E : Exposure/environmental control
ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ควรถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเพื่อค้นหาการบาดเจ็บต่างๆ ขณะตรวจในห้องควรจะอบอุ่น เพื่อป้องกันภาวะ Hypothermia จำเป็นต้องทำการพลิกตะแคงตัวผู้แบบท่อนซุง (Log roll) ที่ต้องอาศัยผู้ช่วย 3-4 คนในการจัดให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง
Definitive care
เป็นการรักษาหลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้นแล้ว
เป็นการรักษาอย่างจริงจังหลังจากได้ทำ secondary survey เรียบร้อยแล้ว เพื่อแก้ไขพยาธิสภาพโดยตรง
ระบบทางด่วน (Fast track/Pathway system)
สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
ความหมาย
เป็นแนวทางของระบบบริการสุขภาพที่ช่วยนำผู้ป่วยให้เข้าถึงบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างทันเวลา
หลักการ
จัดทำรายการตรวจสอบ สำหรับการลงข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ
ฝึกอบรมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีความรู้และสามารถ
จัดทำแนวปฏิบัติ สำดับการปฏิบัติในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
แผนการปฏิบัติต้องเน้นย้ำเวลาเป็นสำคัญ
กำหนด clinical indicatorเพื่อการติดตามและประเมินผล
จัดทำแผนภูมิการดูแลผู้ป่วย พร้อมกำหนดลักษณะผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
การจัดทำควรเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพ ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆ
บทบาทพยาบาลกับระบบทางด่วน (Fast track)
ประสานงานทั้งภายในและภายนอกองค์กร
จัดการและดูแลขณะส่งต่อ
ให้การดูแลตามแผนการรักษาภายใต้ระยะเวลาที่จำกัต
ติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
รายงานแพทย์ผู้รักษา
ให้ความช่วยเหลือเมื่อมีความผิดปกติ
ประเมินเบื้องต้นโดยใช้ความรู้ ความสามารถเฉพาะโรค
ดำเนินงานเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในภาพรวม
จัดระบบให้มีการทบทวนและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
นางสาว พรพิมล อุตมติง 6101210712 Sec B เลขที่ 33