Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย - Coggle…
บทที่ 5 แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย
แนวคิดหลักของรูปแบบการแพทย์ฉุกเฉิน
Anglo-American Model
(AAM)
ลำเลียงผู้ปู่วยส่งตรงห้องฉุกเฉิน
ระบบการแพทย์ฉุกเฉินเป็นส่วนหนึ่งของ องค์การความปลอดภัยสาธารณะ
"Scoop and run”ใช้เวลาดูแลอาการในสถานที่เกิดเหตุสั้น และนำผู้ป่วยส่งยังสถาน
พยาบาลให้เร็วที่สุด
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการนำส่งไปยังโรงพยาบาล
เพียงจำนวนน้อยที่ได้รับ การดูแล ณ จุดเกิดเหตุ
สูงกว่า FGM
Franco-German Model
(FGM)
Stay and Stabilize” ให้เวลานานในการดูแลอาการ ในสถานที่เกิดเหตุ
ลำเลียงผู้ปู่วยส่งหน่วยเฉพาะทาง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการรับการรักษา ณ จุดเกิดเหตุ เพียงจำนวนน้อยที่นำส่งโรงพยาบาล
ระบบการแพทย์ฉุกเฉินเป็นส่วนหนึ่งขององค์การสาธารณสุข
ต่ำกว่า AAM
ความหมาย
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน คือ การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จำเป็นต้องดำเนินการช่วยเหลือ และการดูแลรักษาทันที
การเจ็บป่วยวิกฤต
“Critical”ผู้ป่วยอาการเพียบหนัก มีอาการรุนแรง หรือขั้นฉุกเฉิน มีอันตราย
เพื่อดำรงรักษาชีวิต มุ่งเน้นแก้ไขอาการที่ปรากฏในครั้งแรก และการ
ป้องกันไม่ให้เข้าสู่สถานการณ์คับขัน
“Crisis” ผู้ป่วยที่อยู่ในสภาวะที่มีสถานการณ์คับขัน เป็นจุดวิกฤต
ของการเป็นโรค ทำให้มีอาการดีขึ้น หรือตายได้ในทันที
เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยการรักษา จึงมุ่งเน่นแก้ไขอาการ
ที่ปรากฏอันตราย
ผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
ผู้ที่ทีอาการหนักรุนแรงต้องการการดูแลจากเจ้าหน้าที่ที่มีความชำนาญ
เฉพาะทาง
ลักษณะทางคลินิก
หยุดหายใจ หายใจช้ากว่า 10 ครั้ง/นาที หรือเร็วกว่า 30 ครั้ง/นาที หายใจลำบากหรือหอบเหนื่อย
คลำชีพจรไม่ได้ หรือชีพจรช้ากว่า 40 หรือเร็วกว่า 30 ครั้ง/นาที
ความดันโลหิต Systolic ต่ำกว่า 80 มม.ปรอท หรือ Diastolic สูงกว่า 130 มม.ปรอท
ไม่รู้สึกตัว ชัก เป็นอัมพาต
ตกเลือดเลือดออกมากซีดมาก
เจ็บปวดทุรนทุรายกระสับกระส่าย. มือเท้าซีดเย็น เหงื่อออกมาก
อุณหภูมิของร่างกายต่ำกว่า 35 เซลเซียส หรือสูงกว;า 40 เซลเซียส
ถูกพิษจากสัตว์ เช่น งู หรือสารพิษชนิดต่างๆ
หลักทั่วไปในการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
เพื่อช่วยชีวิตป้องกันและบรรเทาไม่ให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นวิกฤต
บันทึกเหตุการณ์อาการและการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
การส่งต่อรักษา หลังจากให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยแล้ว
หลักในการพยาบาล
มีหลักในการอุ้มยกเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากยานพาหนะไปยังห้องพยาบาล อย่างนุ่มนวลรวดเร็ว ปลอดภัย
มีการซักประวัติการเจ็บป่วยและอาการสำคัญอย่างละเอียด ในเวลาที่รวดเร็ว
ทำการคัดกรองผู้ป่วยอย่างรวดเร็วแม่นยำ
ให้การรักษาพยาบาลภายใต้นโยบายของโรงพยาบาล
ให้การช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกต้อง
ให้การดูแลจิตใจของผู้ป่วยและญาติ
การนัดหมายผู้ป่วยที่ไม่ได้นอนโรงพยาบาลเพื่อให้การรักษาต่อเนื่อง
มีการส่งต่อเพื่อการรักษาทั้งในหอผู้ป่วยในแผนกผู้ป่วยหนัก และภายนอกโรงพยาบาล
หลักการพยาบาลตามบทบาทพยาบาลวิชาชีพผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินของสภาการพยาบาล พ.ศ. 2552
ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่กำลังคุกคามชีวิตผู้ป่วย
ค้นหาสาเหตุและ/หรือปัญหาที่ทำให้เกิดภาวะฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ แล้วดำเนินการแก้ไข
ดูแลและรักษาสภาวะของผู้ป่วยให้อยู่ระดับปลอดภัย และคงที่โดยการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
รักษาหน้าที่ต่างๆ ของอวัยวะสำคัญของร่างกายให้คงไว้
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนและติดเชื้อ
ประคับประคองจิตใจและอารมณ์ของผู้ป่วยและญาติ
การพยาบาลสาธารณภัย
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสาธารณภัย / ภัยพิบัติ (Disaster)
ภัย (Hazard) หมายถึง เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ใดๆที่สามารถที่ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตทรัพย์สินความเป็นอยู่ และสิ่งแวดล้อม
สาธารณภัย / ภัยพิบัติ (Disaster) หมายถึง ภัยที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติหรือการกระทำของมนุษย์ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตอทรัพย์สิน สังคม
เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนภัยอื่นๆ
สาธารณภัย ได้แก่ อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัยภัย ภัยแล้ว
. ภัยสาธารณะ ประกอบด้วย
จากธรรมชาติ เช่น คลื่นยักษ์ ดินถล่ม โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์ โรคน้ำ การระบาดของศัตรูพืช เป็นต้น
ภัยที่เกิดจากคนทำ ได้แก่ สาเคมีรั่วไหล รถชน ตึกถล่ม
ภัยทางอากาศ ได้แก่ ปล้นเครื่องบิน
การก่อวินาศภัย ได้แก่ ก่อการร้าย กราดยิง วางระเบิด
ระดับความรุนแรงของสาธารณภัยทางสาธารณสุข
ความรุนแรงระดับที่ 2 : สาธารณภัยขนาดกลาง หน่วยงานสาธารณสุขระดับอำเภอไม่สามารถจัดการได้ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
ความรุนแรงระดับที่ 3 : สาธารณภัยขนาดใหญ่ที่มีผลกระทบรุนแรงกว้างขวางต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญหรืออุปกรณพิเศษ สนับสนุนจากหน่วยงานราชการภายในเขตจังหวัด /จังหวัดใกล้เคียง และระดับเขต
ความรุนแรงระดับที่ 1 : สาธารณภัยที่เกิดขึ้นทั่วไปหรือมีขนาดเล็ก ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขในระดับอำเภอสามารถจัดการได้
ความรุนแรงระดับที่ 4 : สาธารณภัยขนาดใหญ่ ที่มีผลกระทบรุนแรงยิ่ง นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี ที่นายก ฯ เป็นผู้ควบคุมสถานการณ์
อุบัติภัย
อุบัติเหตุกลุ่มชน/อุบัติภัยหมู่ (MASS CASSUALTIES) หมายถึง อุบัติเหตุที่เกิดกับคนจำนวนมาก ได้รับการเจ็บป่วยจำนวนมาก เกินขีดความสามารถปกติที่โรงพยาบาลจะให้การรักษาพยาบาลได้
มีการทำลายของทรัพย์สินหรือสิ่งแวดล้อม
. ทรัพยากรที่มีอยู่ในภาวะปกติไม่เพียงพอที่จะนำมาใช้ควบคู่สถานการณ์
เกิดการบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยของประชาชนจำนวนมาก
ระบบและกลไกปกติของสังคมถูกทำลายหรือไม่เพียงพอที่จะควบคุมสถานการณ์ได้
ประเภทของอุบัติภัยหมู่แบ่งตามขีดความสามารถของสถานพยาบาล
Multiple casualties ทั้งจำนวนและความรุนแรงของผู้ป่วยไม่เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาล
Mass casualties ทั้งจำนวนและความรุนแรงของผู้ป่วยเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลและทีมผู้รักษา
หลักการพยาบาลสาธารณภัย
การบรรเทาภัย (Mitigation)
การเตรียมความพร้อม (Preparedness)
การตอบโต้เหตุการณ์ฉุกเฉิน (Response)
CSCATT
S – Safety A, B, C (Personal, Scene, Survivors)
C – Communication
C – Command
A – Assessment
M : Major incident : เป็นเหตุการณ์สาธารณภัยหรือไม่
E : Exact location : สถานที่เกิดเหตุที่ชัดเจน
H : Hazard : มีอันตราย หรือเกิดอันตรายอะไรบ้าง
T : Type of accident : ประเภทของสาธารณภัย
A : Access : ข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกจากที่เกิดเหตุ
N : Number of casualties: จำนวนและความรุนแรงของ
ผู้บาดเจ็บ
E : Emergency service : หน่วยฉุกเฉินไปถึงหรือยัง
T – Triage
T – Treatment
T – Transportation
การควบคุมยับยั้งโรคและภัยอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
การบูรณะฟื้นฟู (Recovery) เปfนระยะสุดท้ายในการจัดการภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข
หลักการบริหารจัดการในที่เกิดเหตุและรักษาผู้บาดเจ็บ
D – Detection คือ การประเมินสถานการณ์ว่าเกินกำลังหรือไม่
I - Incident command คือ ระบบการบัญชาเหตุการณ์และผู้ดูภาพรวมของการปฏิบัติการทั้งหมด
S – Safety and Security คือ การประเมินความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในที่เกิดุ
S – Support คือ การเตรียมอุปกรณ์และทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ในที่เกิดเหตุ
T – Triage/Treatment คือ การคัดกรองและให้การรักษาที่รีบด่วนตามความจำเป็นของผู้ป่วย
A – Assess Hazards คือ การประเมินสถานที่เกิดเหตุเพื่อระแวดระวังวัตถุอันตรายต่างๆที่อาจเหลือ
E – Evacuation คือ การอพยพผู้บาดเจ็บระหว่างเหตุการณ์
R – Recovery คือ การฟื้นฟูสภาพหลังจากเกิดเหตุการณ์
คุณสมบัติพยาบาลสำหรับจัดการสาธารณภัย
มีความรู้ทางการพยาบาลและมีประสบการณ์การปฏิบัติงานการพยาบาลผู้ป่วยฉุกเฉินและวิกฤต
มีความรู้ด้านสาธารณภัย มีความสามารถในการประเมินสถานการณ์และคาดการณ์ถึงปัญหาสุขภาพที่จะเกิดจากสาธารณภัยชนิดต่างๆ
มีทักษะในการตัดสินใจที่ดี มีความเป็นผู้นำ และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
มีทักษะในการสื่อสาร และการบันทึกข้อมูลต่างๆได้อย่างถูกต้องครบถ้วนชัดเจน
มีวุฒิภาวะที่เหมาะสมกับสถานการณ์
ระบบทางด่วน (Fast track/Pathway system) สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
เป็นแนวทางของระบบบริการสุขภาพที่ช่วยนำผู้ป่วยให้เขาถึงบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างทันเวลา และลดระยะเวลาการรักษาในผู้ป่วยกลุ่มอุบัติเหตุ ฉุกเฉิน
บทบาทพยาบาลกับระบบทางด่วน (Fast track)
การรายงานแพทย์ผู้รักษาเพื่อตัดสินใจสั่งการรักษา
ให้ความช่วยเหลือเมื่อมีความผิดปกติและติดตามการประเมินผลลัพธ์
การประเมินเบื้องต้นโดยใช้ความรู้ ความสามารถเฉพาะโรค
การประสานงานผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร
การจัดการและดูแลขณะส่งต่อ
ให้การดูแลตามแผนการรักษาภายใต้ระยะเวลาที่จำกัด
การติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
ดำเนินงานเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ผลการดำเนินงานในภาพรวม
จัดระบบให้มีการทบทวนและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
บทบาทพยาบาลในระบบทางด่วน (Fast track)
Activate system
Flow (purpose-process-performance)
Triage/ Specific triage/ Assessment
Investigation
EMS (accessibility
Care delivery
Risk management (general & clinical)
Monitoring: early warning signs & E-response
Co-ordination, Communication, Handover
Inter & Intra transportation
Evaluation, output, outcome
Improvement, Innovation, Integration
หลักการดูแลผู้บาดเจ็บ (Trauma life support)
การเข้าถึงหรือรับรู้ว่ามีเหตุเกิดขึ้น (Access)
การดูแลในระยะที่อยู่โรงพยาบาล (Hospital care)
การดูแลในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล (Prehospital care) โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก (scene safety)
การฟื้นฟูสภาพ และการส่งต่อ (Rehabilitation & transfer)
การดูแลผู้บาดเจ็บขั้นต้น
การประเมินผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น (Primary Survey)
C Circulation with hemorrhagic control
ประเมินในระบบไหลเวียนและการห้ามเลือด โดยประเมินจากสัญญาณชีพ ระดับความรู้สึกตัวสีผิว อุณหภูมิ ปริมาณเลือดที่ออกจากบาดแผล
อาการทางระบบประสาท ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง มีอาการซึม
เชื่องช้า สับสน
ผิวหนัง มีผิวหนังเย็น ชื้น เหงื่อออกมาก cyanosis
หัวใจและหลอดเลือด Blood pressure Systolic BP จะลดลงต่ำกว่า
90 mm.Hg Pulse pressure แคบลง Pulse จะพบ
ชีพจรเบา เร็ว Capillary filling time จะพบนานกว่า 1-2 วินาที
Central venous pressure เท่ากับ 7-8 cm.H2O
ระบบหายใจ หายใจเร็ว ไม่สม่ำเสมอ จาก Acidosis respiration
ระบบทางเดินปัสสาวะ ระยะแรกปัสสาวะลดลง 30-50 ml./hr. และ
40 ml./hr. เมื่อเกิดภาวะไตวายปัสสาวะจะออกน้อยกว่า 20 ml./hr
ระบบทางเดินอาหาร กระหายน้ำ น้ำลายน้อยลง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน ลำไส้บวม และไม่ได้ยิน bowel sound
ภาวะกรดด่างของร่างกาย มีอาการซึม อ่อนเพลีย งุนงง สับสน ไม่รู้สึกตัว หายใจแบบ Kussmaual
D Disability (Neurologic Status)
Glasgow Coma Scale
ตรวจประเมินรูม่านตา
B Breathing and ventilation
ประเมินหายใจและการระบายอากาศ ให้ออกซิเจน
A Airway maintenance with cervical spine protection
เปิดทางเดินหายใจให้โล่งโดยใช้วิธีการ Head-tilt Chin-lifกรณีผู้ป่วยที่สงสัยหรือได้รับอุบัติเหตุให้ทำการเปิดทางเดินหายใจด้วยวิธี jaw-thrust maneuver, modified jaw thrust, Triple airway maneuver
E Exposure / environmental control
ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด
พลิกตะแคงตัวผู้บาดเจ็บแบบท่อนซุง (Log roll)
bulbocarvernosus reflex ในผู้ป่วย spinal shock
การประเมินสภาพร่างกายผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างละเอียด (Secondary Survey)
การตรวจร่างกาย Head to toe
ซักประวัติอย่างละเอียด
ตรวจพิเศษต่างๆ เช่น X-ray Laboratory
Resuscitation ดูแลทางเดินหายใจ การช่วยหายใจ การใส่ท่อช่วยหายใจ การให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ การห้ามเลือด
Secondary survey เปfนการตรวจร่างกายอย่างละเอียด Head to toe
Definitive care ได้แก่ การผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะฉุกเฉินต่างๆ