Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีศึกษาที่4 การตรวจร่างกายทารกแรกเกิดอย่างละเอียด - Coggle Diagram
กรณีศึกษาที่4
การตรวจร่างกายทารกแรกเกิดอย่างละเอียด
5.หู
ทฤษฎี
ต้องตรวจดูรูปร่างที่ตั้ง และการได้ยินว่าปกติหรือไม่ ตามปกติขอบบนของใบหูจะอยู่ระดับเดียวกับหางตา เมื่อพับใบหูจะต้องคืนรูปได้ อาจพบรูเปิดหน้าใบหู (Preauricular pit) หรือติ่งเนื้อ (Preauricular tag) ซึ่งไม่เป็นอันตรายใดๆ
จากกรณีศึกษา
ใบหูคืนกลับทันทีเมื่อพับใบหู พบติ่งเนื้อเล็กๆ บริเวณหน้าใบหูของทารก ซึ่งเป็นภาวะปกติและเป็นไปตามทฤษฎี
11.หัวใจ
ทฤษฎี
ฟังเสียงหัวใจของทารกและนับอัตรา การเต้นของหัวใจ หากผิดปกติจะฟัง ได้เสียง Murmur แสดงว่าทารกมีความผิดปกติเกี่ยวกับโรคหัวใจ
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฎข้อมูลในกรณีศึกษา
8.คอ
ทฤษฎี
เริ่มคลำเบาๆ ตามแนวหลอดลม ทารกแรกเกิดจะมีหลอดลม (Trachia) ยาวประมาณ 3 เซนติเมตร จะต้องตรง ส่วนบนกว้างกว่าส่วนล่าง
ภาวะผิดปกติ
Sternomastoid tumur พบเป็นก้อนกลมแข็งขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. จะต้องไม่พบ
Webbing neck เป็นลักษณะของ Turner’s syndrome
Enlargement of thyroid ต่อมไทรอยด์โตอาจพบได้ในเด็กเกิดใหม่ซึ่งต้องหาสาเหตุ
Short neck ลักษณะคอสั้นอาจพบร่วมกับความผิดปกติของกระดูกสันหลัง ชึ่งเป็นภาวะผิดปกติ
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฏข้อมูลในกรณีศึกษา
2.ศีรษะ
ทฤษฎี
ดูว่าศีรษะทารกมีขนาดและรูปร่างเป็นปกติหรือไม่
ตรวจศีรษะ
Suture ตรวจดูว่าอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องและปกติหรือไม่
Caput succedaneum หายได้เองภายใน 2 – 3 วัน
Cephal hematoma จะยุบหายได้เองภายใน 1 – 2 เดือน
Molding ต้องเกยกันไม่เกิน 1 ซม.จะหายไปภายใน 2 – 3 วัน
Subgalial hematoma จะต้องไม่พบในทารก
Anterior fontanel คลำได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ไม่บุ๋มหรือโป่งตึงอจะปิดเมื่อ 6 เดือน- 1ปี
Posterior fontanel คลำได้เป็นรูปสามเหลี่ยม และปิดเมื่อทารกอายุ
6 – 8 สัปดาห์
จากกรณีศึกษา
พบศีษะมีก้อนนุ่ม คลําขอบเขตไม่ชัดเจนเป็นภาวะการคั่ง ของน้ำที่ซึมออกมาจากหลอดเลือด (Caput succedaneum) ซึ่งถือว่าเป็นภาวะปกติและเป็นไปตามทฤษฎี
7.ปาก
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฏข้อมูลในกรณีศึกษา
ทฤษฎี
สังเกตดูรูปร่าง ขนาด การเคลื่อนไหวของปาก ดูตำแหน่งของริมฝีปากขวาและซ้ายเปรียบเทียบกัน ดูว่ามีบวม ซีด เขียว หรือไม่ สังเกตดูริมฝีปาก และ mucous membrane ควร มีสีชมพูและชุ่มชื้นอยู่เสมอ
ภาวะต่างๆ
Gum cyst ลักษณะคล้ายเนื้องอกของเหงือก ถ้าพบฟันที่อยู่ข้างในมักมีลักษณะโยกคลอนได้ต้องรายงานแพทย์เพื่อถอนออก
Neonatal teeth เป็นภาวะผิดปกติ ต้องรายงานแพทย์
Sucking blister ลอกหายไปเองโดยไม่ทำให้ทารกเจ็บปวด
Epstein’s pearl (epithelial pearl) หายได้เองภายใน 2 – 3 สัปดาห์
Thrush (oral moniliasis ) เป็นการติดเชื้อราในช่องปากทารก จะต้องไม่พบ
Tongue-tie เป็นภาวะลิ้นติด จะต้องไม่พบ
Cleft lip และ Cleft palate ปากแหว่ง เพดานโหว่ จะต้องไม่พบ
3.ใบหน้า
ทฤษฎี
ทารกแรกเกิดอาจมีอาการหน้าบวมคล้ำ (congestion of face) จะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์
Facial nerve palsy เป็นอาการอัมพาตชั่วคราวของเส้นประสาทที่มาควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า จะหายไปได้เองภายใน 24 ชั่วโมง - 3 สัปดาห์
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฏข้อมูลในกรณีศึกษา
6.จมูก
ทฤษฎี
ตรวจดูรูปร่างและขนาดของจมูก แรกเกิดจมูกของทารกจะแบนและอาจพบมีมูกสีขาวในรูจมูกได้
ต้องมีผนังกั้นจมูก (septum)
ขณะหายใจ ปีกจมูกจะต้องไม่บานออก
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฏข้อมูลในกรณีศึกษา
9.ทรวงอก
ทฤษฎี
สังเกตรูปร่างของทรวงอก การเคลื่อนไหว ความสมมาตร การขยาย ของทรวงอกเท่ากันทั้ง 2 ข้าง ไม่มีการดึงรั้งของกล้ามเนื้อช่วยหายใจ หายใจไม่มีเสียงดัง ทารกแรกเกิดมีลักษณะของทรวงอกค่อนข้างกลม barrel shaped
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฎข้อมูลในกรณีศึกษา
1.ผิวหนัง
ทฤษฎี
ภาวะต่างๆ
ผิวหนังลายหรือเป็นจ้ำสีขาวซีดสลับกับสีคล้ำ (marble skin or cutis marmorata)
อาการเขียวเฉพาะมือปลายเท้า (peripheral cyanosis or acrocyanosis)
ผิวหนังที่ความยืดหยุ่นและตึงตัวดี (elasticity)
บวม (edema) จะหายไปเองใน 1-2 วัน
จุดเลือดออก (petechia) จะจางหายไปภายใน 24 – 48ชั่วโมง
ปานเขียว (mongolian spots) จะจางหายไปได้เองเมื่ออายุประมาณ 4 ปี
ตุ่มนูนสีขาว (milia) จะหายภายใน 1 – 2 สัปดาห์
จ้ำเขียว (ecchymosis) จะต้องไม่พบในทารก
ผื่นสีชมพู (erythema toxicum หรือ urticaria neonatorum ) จะหายไปได้เองภายใน 1 สัปดาห์
ตัวเหลือง (jaundice)
ในทารกแรกที่ปกติ ผิดหนังจะสีชมพูอ่อนนุ่ม อาจพบภาวะดังต่อไปนี้ได้
มีขนอ่อน (lanugo hair) จะร่วงหลุดไปเมื่ออายุประมาณ1สัปดาห์
จากกรณีศึกษา
ผิวหนังเป็นสีชมพูเรียบเห็นเส้นเลือดเล็กน้อย ตามตัวมี vernix caseosa ปกคลุมเล็กน้อยมีขนอ่อนเฉพาะที่ หลังและไหล่เล็กน้อย มีจุดสีขาวๆ บริเวณจมูก ซึ่งเป็นภาวะปกติและเป็นไปตามทฤษฎี
10.ปอด
ทฤษฎี
ปอดขยายเท่ากัน 2 ข้าง หายใจไม่มีเสียงแทรก จังหวะในการให้ใจ สม่ำเสมอ อัตราการหายใจ 40-60 ครั้ง/นาที (นับหายใจขณะทารกสงบนิ่ง)
ลักษณะการหายใจที่พบได้
grunting หายใจมีเสียงคราง
nasal flaring ปีกมูกบาน
retraction หายใจอกบุ๋ม
periodic breathing หยุดหายใจเป็นพักๆ
Transient tachypnea of the new born(TTN) หายใจเร็ว
จากกรณีศึกษา
V/S แรกคลอด RR = 62/min.อาจเกินจากทารกมี Activity มากหรือไม่สงบ V/S ครั้งที่ 2 RR = 60/min. V/S ครั้งที่ 3 RR = 58/min. V/S ครั้งที่ 4 RR = 56/min. ซึ่งเป็นภาวะปกติและเป็นไปตามทฤษฎี
12.เต้านม
ทฤษฎี
ภาวะผิดปกติ
หัวนมเกิน (Supernumerary nipples)
ภาวะปกติที่พบบ่อย
ภาวะที่เด็กทารกแรกเกิดมีเต้านมที่โต บางครั้งมีน้ำนมไหลออกมาจากเต้านมทั้ง 2 ข้าง (witches milk)
เต้านมคัดตึง (Breast engorged)
จากกรณีศึกษา
หัวนมมีขนาด 3-4 มล.ซึ่งเป็นภาวะปกติและเป็นไปตามทฤษฎี
4.ตา
ทฤษฎี
ตรวจดูขนาด ความสมมาตรของตา
ตรวจรูม่านตา (Pupil) ส่องไฟถ้าพบว่าเป็นสีขาวสะท้อนออกมาจากด้านหลังรูม่านตาแสดงว่ามีเลนส์ตาขุ่น
ตาดำ มองตรงๆจะเห็นตาดำมารวมกันตรงกลางคล้ายตาเหล่ (crossed eye)ได้ จะหายไปเองใน 3-6 เดือน
เลือดออกบริเวณใต้เยื่อบุตาขาว (Subconjunctival and retinal hemorrhage) หายได้เองในเวลา 1 - 2 สัปดาห์
จากกรณีศึกษา
กระพริลตาทุกครั้ง เมื่อ มีแสงเข้าใกล้สายตาซึ่งเป็นภาวะปกติและเป็นไปตามทฤษฎี
13.หน้าท้อง
ทฤษฎี
ดูรูปร่างของท้อง และลักษณะผิวหนังหน้าท้อง ดูลักษณะสายสะดือว่ามีเส้นเลือดครบหรือไหม (สายสะดือจะหลุด 10-14วัน) สังเกตลักษณะการเคลื่อนไหวของหน้าท้องและกล้ามเนื้อหน้าท้อง ฟังเสียงบีบรูดของลำไส้ (bowel sound) ในท้อง คลำท้องเบา ๆ เพื่อตรวจตับม้าม และกระเพาะปัสสาวะ
ภาวะผิดปกติ
ลำไส้อยู่นอกช่องท้อง (Gastroshcisis)
ไม่มีผนังหน้าท้อง (Omphalocele)
ไส้เลื่อนบริเวณขาหนีบ (inguinal hernis)
สะดือจุ่น (Umbilical hernia)
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฎข้อมูลในกรณีศึกษา
14.อวัยวะเพศและทวารหนัก
ชาย
ทฤษฎี
องคชาต ยาว 2 cm หนังหุ้มอวัยวะเพศส่วนใหญ่ยังไม่เปิด คลำถุงอัณฑะทั้ง 2 ข้างว่าเคลื่อนลงถุงแล้วหรือไม่ หากอัณฑะไม่ลงถุงเรียกว่า “Undiscened testes” ดูรอยย่น (rugae) และสีของถุงอัณฑะ
ภาวะผิดปกติ
รูเปิดท่อปัสสาวะต่ำกว่าปกติ (Hypospadias)
รูเปิดท่อปัสสวะไปเปิดที่ด้านบนขององคชาต (Epispadias)
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฎข้อมูลในกรณีศึกษา
หญิง
ทฤษฎี
แคมใหญ่คลุมแคมเล็กและคลิตอลิส มีรูเปิดท่อปัสสาวะ ไม่มีภาวะเพศกำกวม มีเยื่อพรหมจารีหนา ดูรูทวารหนัก หากไม่มีทวารหนัก เรียกว่าImperforate anus
ภาวะที่พบได้
Hydrocele จะหายได้เอง เมื่ออายุ 12-18
เดือน หากไม่หายอาจต้องผ่าตัด
Hymenal tag จะหดตัวลดลง
ภายใน 2-4 สัปดาห์
จากกรณีศึกษา
แคมใหญ่มีลักษณะคลุมแคมเล็กปิดมิด ซึ่งเป็นภาวะปกติและเป็นไปตามทฤษฎี
15.แขนและขา
ทฤษฎี
ภาวะผิดปกติ
Polydactyly ภาวะนิ้วเกิน
Syndactyly นิ้วติดกัน
เท้าปุก
เท้าแปร
Total brachial plexus injury คือไม่มี moro reflex และ
grasping reflex
Erb-duchenne paralysis คือ มีgrasping
reflex ส่วนใหญ่หายเองใน 1 ปี
Klumpke palsy คือ มี moro reflex แต่ไม่มี grasping reflex
สังเกตสีของมือ และเล็บดูรูปทรงของแขนขนาดและความยาวของแขนและขา การเคลื่อนไหวของแขนขา ลักษณะและจำนวนนิ้วมือนิ้วเท้า ดูนิ้วมือเกิน หรือนิ้วมือติดกัน เส้นลายฝ่ามือฝ่าเท้า ความยาวของเล็บ ลักษณะของเท้า การเคลื่อนของข้อสะโพก มือ นิ้วมือ มีเท้าปุก
จากกรณีศึกษา
แขนขาของทารกแบะออก งอแขนขาได้เล็กน้อยเมื่อกระตุ้นขางอได้เล็กน้อย วัดมุมข้อมือได้ 45 องศา เป็นภาวะปกติและเป็นไปตามทฤษฎี
16.หลัง
ทฤษฎี
ภาวะผิดปกติ
กระดูกสันหลังคด (Scoliosis)
Spina Bifida ความบกพร่องของกระดูกไขสันหลัง มีถุงยื่นผ่านจากกระดูกไขสันหลังออกมาตามตำแหน่งที่บกพร่องนั้น
ตรวจความตรงของแนวกระดูกสันหลัง การมีรู
เปิดของโพรง หรือก้อนเนื้อโป่งจากแนวกระดูกสันหลัง ผิวหนังนูน หรือ กระจุกขน รอยบุ๋ม
จากกรณีศึกษา
ไม่ปรากฎข้อมูลในกรณีศึกษา