Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุมหัวใจ - Coggle Diagram
โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุมหัวใจ
เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ(Pericarditis)
พยาธิสภาพ
เกิดการอักเสบที่เยื่อหุ้มหัวใจ ซึ่งอาจเกิดฉียบพลันหรือเรื้อรัง
การอักเสบของเยื่อหุ้มหัวใจทำให้เกิดไฟบรินและน้ำเกินบริเวณเยื่อหุ้มหัวใจ ทำให้เยื่อหุ้มหัวใจแข็งและหนา ขาดความยืดหยุ่น ทำให้หัวใจไม่สามารถยืดขยายตัวไม่เต็มที่
ความจุหัวใจลดลง ความดันรอบหัวใจสูงขึ้น ทำให้เลือดไหลกลับหัวใจลดลง และการสูบฉีดโลหิตลดลง
สาเหตุ
ติดเชื้อ ได้แก่ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย วันโรค เชื้อรา พยาธิ ไข้รูมาติก การติดเชื้อในร่างกายหรือจากการไม่ติดเชื้อ ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ภาวะยูรีเมีย
ปฏิกิริยาออโต้อิมมูนของร่างกาย ได้แก่โรค SLE, ไข้รูมําติค และหลังเกิดกล้ามเนื้อหัวใจตําย 1-4 สัปดาห์ (Dessler’s syndrome)
อาการ
ไข้ (Fever)
• เจ็บหน้ําอก (Chest pain) ร้ําวไปแขน ไหล่ และคอ
• หนําวสั่น (Chill)
• ฟังหัวใจได้ยินเสียง rub หรือ Grating sound
• หัวใจเต้นเร็ว (Tachycardia)
• ใจสั่น (Palpitation)
• หํายใจลำบาก (Dyspnea)
• อ่อนล้า (Fatigue)
การประเมินสภาพ
ประวัติความเจ็บป่วย เช่น กํารรับประทานยาบางอย่าง อุบัติเหตุทรวงอก การฉายแสงการติดเชื้อ การถอนฟัน และการผ่าตัดทรวงอก เป็นต้น
อาการและอาการแสดงที่สำคัญคือ เจ็บหน้าอก (Precordial pain) เสียงเสียดสีของยื่อหุ้มหัวใจ (Pericardial friction rub) หายใจลำบาก (Dyspnea)และอาการอื่นๆช่น ไข้ อ่อนเพลีย เบื่ออาาร เหงื่อออก ไอ ปวดตามข้อ น้ำหนักลด เป็นต้น
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ น้ำในเยื่อหุ้มหัวใจ (Pericardial effusion)และหัวใจถูกกดทับ (Cardiac temponade)
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC และ ESR ซึ่งมีค่าสูงมากขึ้นในกรณีมีการติดเชื้อที่เยื่อหุ้มหัวใจ
• LE preparation และ ASO titer
• Tuberculin test
• BUN, Cr
การตรวจพิเศษ
EKG คลื่นไฟฟ้ําหัวใจมีกํารเปลี่ยนแปลงของ ST และ T นอกจากนี้ความสูงของ QRScomplex ลดลงจากการมีน้ำในเยื่อหุ้มหัวใจ บางครั้งอาจพบ Sinus trachycardia หรือFluster ได้
Film chest ถ้ําเป็นน้อย ๆ จะไม่พบ แต่ถ้ามีน้ำมากกว่ํา 500 มล. จะพบหัวใจโตขึ้น
การรักษา
การใช้ยา NSAID, colchicine อาจให้ตัวเดียวหรือร่วมกัน สำหรับ Corticosteroid ให้เมื่อมีข้อบ่งชี้เท่านั้น
การระบาย (Drainage) โดย
การเจาะน้ำออกจากเยื่อหุ้มหัวใจ (Pericardiocentesis)
การผ่าตัด (Open drainage) ได้แก่ pericardiectomy, pericardiocentesis, pericardialwindow placement, and pericardiotomy
การดูแลระบบไหลเวียนเลือดเพื่อเพิ่ม Cardiac output
ให้น้ำเกลือเพื่อเพิ่มปริมาตรเลือด
ให้ยากระตุ้นหัวใจ (Positive inotropicagent)
ติดตามวัดประเมินความดันโลหิตด่ำ ชีพจร (ดูภาวะ Paradoxical pulse) Echocardiogram
รักษาที่ต้นเหตุของ Cardiac temponade
การพยาบาล
เตรียมและให้การพยาบาลก่อนและหลังการทำหัตถการ
การดูแลระบบไหลเวียนเลือดเพื่อเพิ่ม Cardiac output
ให้น้ำเกลือเพื่อเพิ่มปริมําตรเลือด
ดูแลให้ยากระตุ้นหัวใจ (Positive inotropic agent) ตามแผนการรักษา
ติดตามวัดประเมินความดันโลหิตด่ำ ชีพจร (ดูภําวะ Paradoxical pulse)Echocardiogram
ติดตามผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ
สังเกตอาการเจ็บแน่นหน้าอก, ฟังเสียง Friction rub, Cardiac tamponade สังเกตอาการของหัวใจล้มเหลว เช่น หอบเหนื่อย บวม
ประเมินความผิดปกติระบบไหลเวียน โดยประเมินซ้ำเป็นระยะ ๆ
ติดตํามการทำงานของหัวใจ
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ(Myocarditis)
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ Myocarditis หรือ Inflammatory cardiomyopathy เป็นภาวะที่พบการเปลี่ยนแปลงการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจโดยมีการอับเสบเกิดขึ้น หลังจากมีอาการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจขึ้นก็อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของกำลังการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือนำมาสู่การเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันได้
อาการ
อาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ (Flu-live symptom) มีไข้ หนาวสั่น เหงื่อออกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาเจียน และท้องเสีย และร่วมกับ อ่อนเพลียจนหมดเรี่ยวแรง
เจ็บหน้าอก เจ็บจี๊ดๆ เสียดแทง ไม่เหมือน angina หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้าการหายใจลำบากหมดสติเสียชีวิตเฉียบพลันได้
ในระยะยาว อาจมีภาวะแทรกซ้อนต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ จนเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวได้
การวินิจฉัย
ฟังหัวใจอาจพบ murmur และ gallop
CxR, MRI, จะเห็นหัวใจโต
Echocardiogram พบผนังหัวใจผิดปกติ
CBC พบ WBC สูง
Cardiac enzyme สูงขึ้น
EKG แสดง bundle branch block หรือ complete heart block
การรักษา
การช่วยเหลือการทำงานของหัวใจ โดยใช้Intraaortic balloon pump หรือ Extracorporeal membrane oxygenation รวมทั้งการให้ออกชิเจนเพื่อพยุงช่วยเหลือปอดและหัวใจ
การให้ยาคุ้มกันหรือยาต้านกํารอับเสบ
การให้ยํารักษําภาวะกล้ามเนื้อหัวใจทำงานลดลง เช่น ยากลุ่มขยายหลอดเลือด(Vasodilator) เช่น ไนโตรกลีเซอรีน หรือ โซเดียมไนโตรปลัสไซด์
รักษาภาวะแทรกซ้อน เช่น CHF, arrhythmia, hypotension
ให้พัก เพื่อลดการใช้ออกซิเจน
การรักษาโดยไม่ใช้ยา ได้แก่ การสังเกตการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียน การควบคุมน้ำ และการให้ออกซิเจนอย่างเพียงพอ
การผ่าตัด เช่น กํารผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ เป็นต้น
การพยาบาล
ให้การพยาบาลตามอาการ เช่น เหนื่อยล้า ให้การช่วยเหลือในการทำกิจกรรม
ให้พัก และสอนการลดการใช้พลังงาน
ติดตามสัญญาณชีพ
สังเกตอาการที่เกิดจากโรคและภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการของ CHF (หายใจลำบากหลอดเลือดดำที่คอโป่ง, บวม ไอ, ฟังปอดมี Crepitation) สังเกตภาวะ arrhythmia
ให้ยาปฏิชีวนะ ยาต้านการอักเสบ ยากดภูมิคุ้มกัน ตามแผนการรักษาของแพทย์
ลดความวิตกกังวลสอนให้ความรู้เรื่องโรค การรักษา
เยื่อบุห้องหัวใจอักเสบ(Infective Endocarditis)
พยาธิสภาพ
เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เข้าสู่ระบบไหลเวียนไปที่หัวใจและฝังตัวอยู่ในเยื่อบุหัวใจชั้นEndothelium ในบริเวณที่มีการไหลเวียนเลือดช้า เกิดการอักเสบที่เยื่อบุหัวใจหรือลิ้นหัวใจ
พยาธิสภาพเกิดที่ลิ้นหัวใจ ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ
กลุ่มของเกล็ดเลือดไฟบริน และเชื้อก่อโรคซึ่งเรียกว่า Vegetation
ก้อนเลือดเล็กๆ ที่ติดเชื้อเหล่านี้เมื่อหลุดลอยเข้ากระแสเลือดจะมีโอกาสไปอุดตันที่อวัยวะต่างๆ เช่น สมอง ปอด
อาจมีอาการที่เกิดจากภาวะแทรกซ้อนที่อวัยวะเหล่านี้ถุกอุดตัน
ภาวะหายใจลำบากเฉียบพลันจากลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด (Pulmonary emvoli) ประเมินภาวะพร่องออกซิเจน Lung clear, Pulsus paradoxus เพื่อเฝ้าระวังภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นปอด
หลอดเลือดสมองอุดตัน
หลอดเลือดที่ไตอุดตันเกิดภาวะ AKI และภาวะไตเสื่อม
หลอดเลือดที่ตับอุดตันเกิดความดันในช่องท้องสูง เกิดภาวะตับวาย เป็นต้น
มีอาการของเยื่อบุกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมีผลให้การหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เลือดออกจากหัวใจลดลงและเกิดลิ่มเลือดไปอุดตันอวัยวะต่างๆ เช่น ปอดไต และสมอง ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนสำคัญของโรค
อาการและอาการแสดง
ในรายที่ไม่รุนแรง ไม่มีอาการแสดง อาการทั่วไปจะเริ่มจากอาการเนื่องจากการติดเชื้อ มีไข้สูงลอยในแต่ละวัน อาจมีหนาวสั่นร่วมด้วยใจสั่น หัวใจเต้นเร็วเจ็บหน้าอกหายใจลำบาก ถ้ามีอาการมากขึ้นจะมีภาวะหัวใจวายร่วมด้วย
ในรายที่มีอาการรุนแรงจะตรวจพบความผิดปกติของ T-wave จะมีอาการหัวใจล้มเหลวหัวใจโตขึ้น เสียงหัวใจมีเสียง Murmur
มีอาการของลิ่มเลือดอุดตันทั่วร่างกาย (Embolic phenomenon)
Janeway lesion เป็นก้อนจุดแดง ๆ ไม่เจ็บ ที่ฝ่ามือ ฝ่าเท้า
พบ Osler’s nodes เป็นก้อนเล็ก ๆ สีแดง ที่ปลายนิ้วมือและนิ้วเท้า ทำให้ปวด เกิดจาก emboli
Roth’s spots เป็นจุดสีเหลืองหรือขาวอยู่ตรงกลางล้อมรอบด้วยสีแดง พบในจอตา
การตรวจร่างกาย
การประเมินสถานภาพทางหัวใจและการไหลเวียน โดยการวัดสัญญาณชีพจะต้องประเมินอัตราความสม่ำเสมอตรวจสัญญาณชีพพบความดันโลหิตต่ำ ชีพจรอาจมีลักษณะ Pulsusalternansอัตราการเต้นของหัวใจไม่สัมพันธ์กับอุณหภูมิที่สูงขึ้น
ฟังเสียงหัวใจ ส่วนใหญ่จะได้ยินเสียงฟู่ ฟังเสียงหัวใจอาจพบ Gallop sound หรือPericardial rub
การตรวจพบความผิดปกติอื่น ๆ จากการอุดตันของลิ่มเลือดที่เกิดจากการที่หัวใจบีบตัวไม่ดี
เช่น ผิวหนัง จอภาพในตํา และเยื่อบุต่าง ๆ รวมทั้งปรากฏการณ์ของการอุดตัน (EmbolicPhenomenon) ที่อวัยวะสำคัญเช่น สมอง ปอด และตับ เป็นต้น
การตรวจพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ Film chest, Echocardiogram และ การสวนหัวใจ
การรักษา
ให้ยาปฏิชีวนะ
รักษาตามอาการ
การพยาบาล
ลดไข้ ให้ยาลดไข้
ดูแลให้ยาปฏิชีวนะและยาต้านการอักเสบ ตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับสารน้ำ ตามแผนการรักษา
ส่งเลือดเพาะเชื้อและติดตามผล ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
หากเหนื่อยง่ายให้ ออกซิเจน ให้พัก และช่วยเหลือกิจกรรมบนเตียง
ติดตามสัญญาณชีพและภาวะแทรกซ้อน
ดูแลช่วยเหลือกิจกรรมเนื่องจากผู้ป่วยมีภาวะ Activity intolerance
ให้ข้อมูลการปฏิบัติตนการออกกำลังกาย การรับประทานยา การมีเพศสัมพันธ์ ฯลฯ