Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจ - Coggle Diagram
โรคเกี่ยวกับกล้ามเนื้อหัวใจและเยื่อหุ้มหัวใจ
1 เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
พยาธิสภาพ
หัวใจแข็งขาดความยืดหยุ่น ทำให้หัวใจขยายตัวไม่ได้ส่งผลให้ความจุหัวใจลดลง ความดันโลหิตโรคหัวใจสูงขึ้น เลือดไหลกลับเข้าหัวใจลดลงและมีการสูบฉีดเลือดลดลง
สาเหตุ
ไม่ติดเชื้อ
กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ภยันตราย uremia โลหิตจางอย่างรุนแรง ได้รับรังสีบริเวณทรวงอก Myxedema หลอดเลือด aorta โป่งพอง มะเร็ง
ติดเชื้อ
ไวรัส แบคทีเรีย วัณโรคเชื้อรา พยาธิ
Autoimmune
ภายหลังกล้ามเนื้อหัวใจตาย 1-4 สัปดาห์ (Dressier's Syndrome) โรคไข้ข้อรูมาติด SLE ยาต่างๆเช่น Proclaimide , Hydralazine, Phenytoin
อาการ
อาการเจ็บหน้าอก ตรงกลางหรือด้านซ้ายของทรวงอก มีไข้ อ่อนเพลีย หายใจลำบาก ไอ อ้ายพบอาการหัวใจเต้นผิดปกติ
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ (Pericarditis) มักเป็นอาการเฉียบพลันและมีพัฒนาการต่อไปเพียงไม่กี่เดือน แต่ก็อาจพัฒนาเป็นภาวะเรื้อรังเป็นปีได้
การรักษา
รักษาด้วยยา
การเจาะถุงหัวใจ (Pericardiocentesis)
การผ่าตัดเยื่อหุ้มสมอง (pericardiectomy)
2 กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ(Myocarditis)
พยาธิสภาพ
กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ Myocarditis หรือ Inflammatory cardiomyopathy) เป็นภาวะที่พบการเปลี่ยนแปลงทางการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจโดยมีการอักเสบเกิดขึ้น หลังจากมีอาการอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจขึ้นก็อาจทำให้มีการเปลี่ยนแปลงของกำลังการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือนำมาสู่การเสียชีวิตอย่างเฉียบพลันได้
อาการ
1 อาการเหมือนไข้หวัดใหญ่ มีไข้ หนาวสั่น เหงื่อออกปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาเจียนและท้องเสีย ร่วมกับอ่อนเพลียจนหมดเรี่ยวแรง
2 เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นช้า การหายใจลำบาก หมดสติเสียชีวิตเฉียบพลันได้
3 ในระยะยาว อาจมีภาวะแทรกซ้อนต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจจนเป็นภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรังได้
การวินิจฉัยโรค
การตรวจหัวใจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นแม่เหล็กหัวใจ (Cardiac magnetic resonance imaging)
คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG - electrocardiogram)
เอกซเรย์ปอด
เอนไซม์กล้ามเนื้อหัวใจ
ตัดตัวอย่างกล้ามเนื้อหัวใจไปตรวจภาวะการอักเสบของหัวใจ (Endomyocardial biopsy)
การรักษา/การพยาบาล
1 การช่วยเหลือการทำงานของหัวใจโดยใช้เครื่องช่วยการทำงานของหัวใจ แบบพิเศษ (Intraaortic balloon pump) รวมทั้งการให้ออกซิเจนเพื่อพยุงช่วยเหลือปอดและหัวใจ
2 การให้ยาคุ้มกันหรือยาต้านการอักเสบการให้ยาดังกล่าวในผู้ป่วยที่มีผล biopsy ยืนยันว่าเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจริงแล้วพบว่าอาการดีขึ้น
3 การใช้ยารักษาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจทำงานลดลง เช่น ยากลุ่มขยายหลอดเลือด (Vasodilator) เช่น ไนโตรกลีเซอรีนหรือโซเดียมไนโตรปลัสไซด์
ยากลุ่ม ACEI เช่น enalapril
ยากลุ่มขับปัสสาวะ เช่น flirosemide
4 การรักษาโดยไม่ใช้ยา ได้แก่ การสังเกตการทำงานของหัวใจและระบบไหลเวียน การควบคุมน้ำ และการให้ออกซิเจนอย่างเพียงพอ
5 การผ่าตัด เช่น การผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจหรือการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ เป็นต้น
3 เยื่อหุ้มหัวใจชั้นในอักเสบ (Endocarditis)
พยาธิสภาพ
เมื่อเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย เข้าสู่ระบบไหลเวียนไปที่หัวใจและฝังตัวอยู่ในเยื่อบุหัวใจชั้น endothelium ในบริเวณที่มีการไหลเวียนเลือดช้าเกิดการอักเสบที่เยื่อบุหัวใจหรือลิ้นหัวใจ
พยาธิสภาพเกิดที่ลิ้นหัวใจ ทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ ประกอบด้วยกลุ่มของเกร็ดเลือดไฟบริน และเชื้อก่อโรคซึ่งเรียกว่า Vegetation ซึ่งก้อนเลือดเล็กๆที่ติดเชื้อเหล่านี้เมื่อหลุดลอยเข้าสู่กระแสเลือดจะมีโอกาสไปอุดตันที่อวัยวะต่างๆ เช่น สมอง ปอด จำเป็นต้องประเมินภาวะการหายใจลำบากเฉียบพลัน Lung clear, Pulsus paradoxus เพื่อเฝ้าระวังภาวะลิ่มเลือดอุดกั้นปอด
เมียกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบมีผลให้การหดตัวของกล้ามเนื้อหัวใจไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เลือดออกจากหัวใจลดลงและเกิดลิ่มเลือดไปอุดตันอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ไต และสมอง ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนสำคัญของโรค
สาเหตุ
ทำให้เยื่อหุ้มหัวใจชั้นในอักเสบ ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา ส่วนใหญ่เป็นแบคทีเรียซึ่งเข้าสู่กระแสเลือดได้จากการมีทางเข้าหรือแผลปิดในบริเวณหนึ่งบริเวณใดของร่างกาย เช่น
1 มีแผลในปากจากฟันผุ หรือถอนฟัน เชื้อที่พบส่วนใหญ่คือ สเตรปโตคอคคัส (Streptococcus)
2 ทางเดินปัสสาวะจากการสวนปัสสาวะเชื้อที่พบได้แก่ Fecalis Enterococcus
3 ทางผิวหนังจากแผลขูดขีด เชื้อที่พบ ได้แก่ Staphylococcus
4 ทางเดินหายใจ เชื้อที่พบได้แก่ เบต้า - ฮีโมลัยติด สเตรปโตคอคคัส
อาการ
1 ชนิดเฉียบพลัน (Acute IE) มีอาการรวดเร็ว เช่น มีไข้ ช็อค มักพบในเด็กเล็ก
2 ชนิดไม่เฉียบพลัน (Subacute IE) อาการจะดำเนินอย่างช้าๆ เป็นสัปดาห์หรือเดือน
อาการส่วนใหญ่มักไม่จำเพาะ ที่พบบ่อยคือไข้ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เหนื่อยง่าย ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ซีดและม้ามโต อาการเหล่านี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียหลุดลอยเข้าสู่กระแสเลือดตลอดเวลาในเด็กโตอาจมีอาการเจ็บหน้าอก
การรักษา
1 หาต้นเหตุก่อนให้ยาปฏิชีวนะ
2 หาแหล่งกำเนิดของการติดเชื้อ เช่น ฟัน,ทางเดินปัสสาวะ
3 ให้สารอาหารที่เพียงพอ
4 ปรึกษาศัลยแพทย์ทรวงอกและโรคหัวใจ
ภาวะแทรกซ้อน
เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือมีการติดเชื้อในสมองอื่นๆ
ลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดภายในปอด
ปอดติดเชื้อ
ไตวายหรือมีการทำลายม้าม โรคหัวใจ( เสียงหัวใจผิดปกติ,หัวใจวาย,ลิ้นหัวใจถูกทําลาย,หัวใจเต้นผิดปกติ,หัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน)
Cardiac Pacemaker
เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจชนิดชั่วคราว (Temporary pacemaker)
เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจชนิดถาวร (Permanent pacemaker)
การจับชีพจรด้วยตนเอง
ให้สังเกตอาการที่บ่งบอกว่าเครื่องทำงานผิดปกติ
สามารถใช้เครื่องไฟฟ้าได้ตามปกติ
หากท่านใช้โทรศัพท์มือถือรุ่น Digital ควรถือด้านที่ไม่ได้ใส่เครื่อง
ให้ระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้าอื่นๆ ที่มีความถี่สูง
ป้องกันการกระทบกระแทกบริเวณที่ฝังเครื่องไว้
พูกบัตรประจำตัวผู้ใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจไว้ตลอดเวลา
แจ้งแพทย์และทันตแพทย์ทราบทุกครั้งที่เข้ารับการรักษาและทำหัตถการต่างๆ
ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
การพยาบาล
1 ก่อนใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ ดูแลเหมือนผู้ป่วยรับการผ่าตัดทั่วไปแต่การทำความสะอาดตำแหน่งที่ผ่าตัดใช้บริเวณหัวไหล่ข้างที่ไม่ถนัด
2 ขณะใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ
ติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจและความดันโลหิตอย่างต่อเนื่อง ถ้ามีคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ต้องรายงานแพทย์
เมื่อใส่สายสืบไปยังตำแหน่งที่ต้องการแล้วจดบันทึกลักษณะการกระตุ้นของเครื่อง อัตราเร็วของการกระตุ้น ความไว ปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้กระตุ้น และเวลาของการใช้เครื่องเก็บคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่บันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อเปรียบเทียบเมื่อเครื่องทำงานผิดปกติหรือเมื่อต้องการเปรียบเปลี่ยนค่าต่างๆในภายหลัง
ติดตามผล Chest X-ray หลังการใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจเพื่อดูตำแหน่งของสายสื่อ
3 ลังใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ
วัดสัญญาณชีพ สังเกตความสม่ำเสมอของชีพจร อัตราการเต้น ถ้าชีพจรเปลี่ยนแปลงน้อยกว่าหรือมากกว่า 10 ครั้งต่อนาทีต้องรายงานแพทย์
ติดตามภาวะหัวใจวายและ Pneumothorax
สังเกตคลื่นไฟฟ้าหัวใจเพื่อติดตามการทำงานของเครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจ
สังเกตแผลที่ใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจทุกวัน
การปิดแผลไม่ควรใช้ผ้าก๊อซปิดแผล
ไม่ให้ผู้ป่วยออกแรงเหยียดแขนข้างที่ใส่เครื่องกำหนดจังหวะการเต้นของหัวใจขึ้นเหนือศีรษะอย่างรุนแรง