Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย - Coggle…
บทที่ 5
แนวคิด หลักการการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน และสาธารณภัย
แนวคิดหลักการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
ความหมาย
การเจ็บป่วยวิกฤต
Critica
จะนํามาใช้ในผู้ป่วยอาการเพียบหนักมีอาการรุนแรง หรือขั้นฉุกเฉิน มีอันตราย
Crisis
นํามาใช้กับผู้ป่วยที่อยู่ในสภาวะที่มีสถานการณ์คับขัน เป็นจุดวิกฤตของการเป็นโรค ทําให้มีอาการดีขึ้น หรือตายได้ในทันที
การเจ็บป่วยวิกฤต
การเจ็บป่วยที่มีความรุนแรงถึงขั้นที่อาจทําให้ผู้ป่วยถึงแก่ชีวิตหรือพิการได้
การเจ็บป่วยฉุกเฉิน
การเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน จําเป็นต้องดําเนินการช่วยเหลือ และการดูแลรักษาทันที
อุบัติเหตุ (Accident)
เกิดการบาดเจ็บตายและการสูญเสียทรัพย์สินโดยที่เราไม่ต้องการ
อุบัติการณ์ซึ่งเกิดขึ้น โดยไม่คาดหมายมาก่อน
ผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
ผู้ที่ทีอาการหนักรุนแรงต้องการการดูแลจากเจ้าหน้าที่ที่มีความชํานาญเฉพาะทาง
ลักษณะทางคลินิก
หยุดหายใจ หายใจช้ากว่า 10 ครั้งต่อนาที หรือเร็วกว่า30ครั้งต่อนาที
คลําชีพจรไม่ได้ หรือชีพจรช้ากว่า 40หรือเร็วกว่า30 ครั้ง/นาที
ไม่รู้สึกตัว ชัก เป็นอัมพาต
ตกเลือดเลือดออกมากซีดมาก
เจ็บปวดทุรนทุรายกระสับกระส่าย
ผู้ป่วยวิกฤตมีลักษณะ
ผู้ป่วยที่มีอัตราตายสูง
ผู้ป่วย Septic Shock
ผู้ป่วยที่มีแนวโน้มที่จะมีอาการรุนแรง
ผู้ป่วย myocardialin farction
ผู้ป่วยที่สามารถรักษาได้
ผู้ป่วยหมดสติ
ผู้ป่วยที่มีระบบการหายใจล้มเหลว
ผู้ป่วยที่อัตราตายสูง
ผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย
ผู้บาดเจ็บจากสาธารณภัย
กลุ่มอาการหนัก ต้องหามนอนหรือนั่งมาอาการแสดงยังคลุมเครือต้องใช้การตรวจอย่างละเอียด
กลุ่มอาการหนักมาก หรือสาหัสต้องการการรักษาโดยด่วน
กลุ่มอาการไ่รุนแรง หากผู้ป่วยเดินได้อาจถือว่าอาการไม่หนัก
หลักทั่วไปในการพยาบาลผู้ป่วยภาวะฉุกเฉิน
การป้องกันและบรรเทาไม่ให้เกิดอาการรุนแรงถึงขั้นวิกฤต
การบันทึกเหตุการณ์อาการและการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
เพื่อช่วยชีวิต
การส่งต่อรักษา หลังจากให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยแล้ว ต้องรีบเคลื่อนย้ายนําส่งโรงพยาบาล เพื่อทําการรักษาต่อทันที
แนวคิด
Anglo-AmericanModel(AAM)
“Scoop and run” เวลาสําหรับการประคับประคองอาการในสถานที่เกิดเหตุสั้น และนําผู้ป่วยส่งยังสถานพยาบาลให้เร็วที่สุด
นําผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
Franco-German Model (FGM)
“Stay and Stabilize” ให้เวลานานในการดูแลอาการในสถานที่เกิดเหตุและนําการรักษาไปยังสถานที่เกิดเหตุ
นําบริการโรงพยาบาลมาหาผู้ป่วย
หลักการพยาบาลตามบทบาทพยาบาลวิชาชีพงานบริการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินของสภาการพยาบาลพ.ศ.2552
ค้นหาสาเหตุและ/หรือปัญหาที่ทําให้เกิดภาวะฉุกเฉินหรืออุบัติเหตุ แล้วดําเนินการแก้ไข
ดูแลและรักษาสภาวะของผู้ป่วยให้อยู่ระดับปลอดภัย และคงที่โดยการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
ดําเนินการแก้ไขปัญหาที่กําลังคุกคามชีวิตผู้ป่วย
รักษาหน้าที่ต่างๆ ของอวัยวะสําคัญของร่างกายให้คงไว้
การพยาบาลสาธารณภัย
อุบัติภัย
ภัย (Hazard)
เหตุการณ์หรือปรากฏการณ์ใดๆที่สามารถที่ทําให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ความเสียหายต่อทรัพย์สินความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อม
อุบัติเหตุกลุ่มชน/อุบัติภัยหมู่(MASS CASSUALTIES)
อุบัติเหตุที่เกิดกับคนจํานวนมาก ได้รับการเจ็บป่วยจํานวนมาก เกินขีดความสามารถปกติที่โรงพยาบาลจะให้การรักษาพยาบาลได้
ประเภทของอุบัติภัยหมู่แบ่งตามขีดความสามารถของสถานพยาบาล
Multiple casualties
ทั้งจํานวนและความรุนแรงของผู้ป่วยไม่เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลผู้ป่วยที่มีภาวะคุกคามต่อชีวิต(life Threatening) จะได้รับการรักษาก่อน
Mass casualties
ทั้งจํานวนและความรุนแรงของผู้ป่วยเกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลและทีมผู้รักษาผู้ป่วยที่มีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด
ภัยพิบัติ/สาธารณภัย (Disaster)
ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสาธารณภัย / ภัยพิบัติ (Disaster)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือโดยมนุษย์อย่างทันทีและทําให้ระบบการดูแลรักษาที่มีอยู่เดิมชะงักลง
ประเภทของภัยพิบัติ
ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ (Natural Disaster)ได้แก่ เกิดแบบฉับพลัน และเกิดแบบค่อยเป็นค่อยไป
ภัยที่เกิดจากมนุษย์(Man-made Disaster)ได้แก่ เกิดอย่างจงใจและเกิดอย่างไม่จงใจ
การจัดระดับความรุนแรงของสาธารณภัยทางสาธารณสุข
ความรุนแรงระดับที่ 2 : สาธารณภัยขนาดกลาง หน่วยงานสาธารณสุขระดับอําเภอไม่สามารถจัดการได้
ความรุนแรงระดับที่ 3 : สาธารณภัยขนาดใหญ่ ที่มีผลกระทบรุนแรงกว้างขวาง
ความรุนแรงระดับที่ 1 : สาธารณภัยที่เกิดขึ้นทั่วไปหรือมีขนาดเล็ก
ความรุนแรงระดับที่ 4 : สาธารณภัยขนาดใหญ่ ที่มีผลกระทบรุนแรงยิ่ง นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี ที่นายก ฯ มอบหมายให้เป็นผู้ควบคุมสถานการณ์
หลักการบริหารจัดการในที่เกิดเหตุและรักษาผู้บาดเจ็บ
S –Safety and Security
A –Assess Hazards
I -Incident command
S –Support
D –Detection
T –Triage/Treatment
E –Evacuation
R –Recovery
ลักษณะของการปฏิบัติการพยาบาลในสถานการณ์สาธารณภัย
ต้องนําความรู้และทักษะทางการพยาบาลทั่วไปและดานการพยาบาลฉุกเฉินมาประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ภัยพิบัติ
เป็นการปฏิบัติการพยาบาลเพื่อ ป้องกันและลดความรุนแรงของการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วย
มุ่งลดความเสียหายต่อชีวิตและสุขภาพของประชาชนที่เกิดจากสาธารณภัย
Trauma life support
การดูแลผู้บาดเจ็บขั้นต้น
Resuscitation
เป็นการช่วยเหลือเพื่อให้ผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตที่อาจทําให้เสียชีวิตได้
Secondary survey
การตรวจร่างกายอย่างละเอียดหลังจากผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤตแล้ว
การประเมินผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้น (Primary Survey)
เป็นการรักษาหลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้น
จากนั้นให้การรักษาโดยเรียงลําดับความสําคัญ
Definitive care
เป็นการรักษาหลังจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยเบื้องต้นแล้ว
ระบบการดูแลผู้บาดเจ็บ (Trauma care system)
การฟื้นฟูสภาพและการส่งต่อ (Rehabilitation& transfer)
การดูแลต่อเนื่องในรายที่พบปัญหาหรือต้องได้รับการฟื้นฟูเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีภายหลังจากการได้รับการรักษา
การดูแลในระยะที่อยู่โรงพยาบาล (Hospital care)
การดูแลรักษาในโรงพยาบาลตั้งแต่การคัดแยก ระบบทางด่วนฉุกเฉิน การวินิจฉัย การรักษาตามความเร่งด่วน
การดูแลในระยะก่อนถึงโรงพยาบาล (Prehospital care)
จัดให้มีการดูแลผู้บาดเจ็บ ณ จุดเกิดเหตุโดยมีบุคลากรที่เป็นบุคลากรที่ได้รับการอบรมให้ความรู้ความสามารถ ในการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ การช่วยฟื้นคืนชีพ
ต้องคํานึงถึงความปลอดภัยของสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับแรก (scene safety)และภายหลังการช่วยเหลือสามารถนําส่งผู้บาดเจ็บไปสู่โรงพยาบาลได้รวดเร็วและเหมาะสม
การเข้าถึงหรือรับรู้ว่ามีเหตุเกิดขึ้น (Access)
ประชาชนทุกระดับการศึกษา ทุกพื้นที่ต้องสามารถเข้าถึงระบบหรือช่องทางนี้ได้
การเข้าถึงช่องทางสําหรับการติดต่อในการแจ้งเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น
Primary survey
Airway maintenance with cervical spine protection
ดูดเสมหะ การหาสิ่งแปลกปลอมในทางเดินหายใจ การแตกหักของกระดูกใบหน้า กราม ลิ้นตก เลือดออกในช่องปากและทางเดินหายใจส่วนบน การบวมของ soft tissueในคอ สิ่งแปลกปลอม
เปิดทางเดินหายใจให้โล่งโดยใช้วิธีการ Head-tilt Chin-lift
ประเมิน Airway เพื่อหาอาการที่เกิดจากทางเดินหายใจอุดกั้น
อาการที่เกิดจากการอุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน
restless จากภาวะ Hypoxia
หายใจเสียงดัง
เปลือกตาซีด
ปลายมือเท้าซีดเขียว
หายใจโดยใช้กล้ามเนื้อหายใจช่วยมากกว่าปกติ
Breathing and Ventilation
ปัญหาการหายใจที่พบบ่อยในการทํา primary survey
Flail chest with pulmonary contusion
Open pneumothorax , Hemothorax
tension pneumothorax
เป็นการประเมินการช่วยหายใจและการระบายอากาศเพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนอากาศ เพื่อให้ได้ออกซิเจนและขับคาร์บอนไดออกไซด์
Circulation and Hemorrhage control
ผิวหนัง
ผู้ป่วยจะมีผิวหนังเย็น ชื้น เหงื่อออกมาก cyanosis
หัวใจและหลอดเลือด
Blood pressure
ผู้ป่วยช็อกSystolic BP จะลดลงต่ํากว่า 90 mm.Hg. หรือต่ํากว่าปกติ 50 mm.Hg.
Systolic BP น้อยกว่า 60-70 mm.Hg. จํานวนเลือดที่ไปเลี้ยงสมองจะลดลง
Systolic BP น้อยกว่า 50 mm.Hg. สมองจะขาดออกซิเจน Pulsepressure แคบลง แสดงถึง CO น้อยลง
Pulse จะพบชีพจรเบา เร็ว จากระบบ Sympathetic แต่ระยะท้ายชีพจรจะช้า และไม่สม่ําเสมอเนื่องจากหัวใจจะทํางานลดลง
Capillary filling time จะพบนานกว่า 1-2 วินาที เพื่อทดสอบการไหลเวียนที่หลอดเลือดส่วนปลาย
Central venous pressure เท่ากับ 7-8 cm.H2O
ระบบประสาท
ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง
ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการซึม เชื่องช้า สับสนบางราบมีอาการเอะอะ และสุดท้ายจะหมดสติ
ระบบหายใจ
จะพบการหายใจเร็ว และไม่สม่ําเสมอ จาก Acidosisrespiration
ระบบทางเดินอาหาร
ผู้ป่วยจะกระหายน้ํา น้ําลายน้อยลง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียน ลําไส้บวม และ ไม่ได้ยิน bowel sound
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ระยะแรกปัสสาวะจะลดลงเหลือ 30-50 ml./hr. และ 40 ml./hr.
ภาวะไตวายปัสสาวะจะออกน้อยกว่า 20 ml./hr.
ภาวะกรดด่างของร่างกาย
ร่างกายจะเกิดการเผาผลาญแบบ anaerobic metabolism จนเกิดภาวะ acidosis metabolic
ผู้ป่วยจะมีอาการซึม อ่อนเพลีย งุนงง สับสน ไม่รู้สึกตัว หายใจแบบ Kussmaual
Disability: Neurologic Status
การตรวจประเมินรูม่านตา
เมื่อวัดเส้นผ่าศูนย์กลางขณะหดตัวจะมีขนาด 3- 4 มิลลิเมตร การขยายรูม่านตาที่ไม่เท่ากัน โตเพียงข้างเดียว
ข้างที่มีขนาดใหญ่ไม่มีปฏิกิริยาต่อแสง แสดงถึงพยาธิสภาพเนื้อสมองด้านเดียวกับรูม่านตาที่ผิดปกติ
การประเมินระบบประสาทต่อว่าสมองหรือไขสันหลังได้รับบาดเจ็บหรือไม่
Exposure / Environment control
ผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ควรถอดเสื้อผ้าออกให้หมดเพื่อค้นหาการบาดเจ็บต่างๆ
ทําการพลิกตะแคงตัวผู้บาดเจ็บแบบท่อนซุง (Log roll)ที่ต้องอาศัยผู้ช่วย 3-4 คนในการจัดให้กระดูกสันหลังอยู่ในแนวตรง
การกู้ชีพ (Resuscitation)
การแก้ไขภาวะคุกคามต่อชีวิตหรือที่เป็นอันตรายเร่งด่วน
ภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ําอาจพบได้ตั้งแต่ขณะที่ผู้บาดเจ็บมาถึง
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ผู้บาดเจ็บทุกรายควรได้รับการติดตามคลื่นไฟฟ้าหัวใจถ้าพบว่ามีความผิดปกติ
การประเมินสภาพร่างกายผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างละเอียด (Secondary Survey)
การตรวจร่างกาย Head to toe
มักทําหลังจาก primary survey และ Resuscitation จน Vital function เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
การตรวจพิเศษต่างๆ เช่น X-ray Laboratory DPL (Diagnostic peritoneal lavage) CT Scan
Physical Examination
การตรวจร่างกายควรเริ่มจากการสังเกตดูรอยบาดเจ็บต่างๆ ที่ผิวหนัง เช่นรอยช้ํา แผลฉีกขาด แผลถูกยิงถูกแทง ควรตรวจดูด้านหลังผู้ป่วยด้วยอย่างละเอียด
การรักษาผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บภายหลังได้รับการช่วยเหลือขั้นต้นแล้ว (Definitive Care)
เป็นการรักษาอย่างจริงจังหลังจากได้ทํา secondary survey เรียบร้อยแล้ว
เป็นการรักษาจําพาะของการบาดเจ็บแต่ละอวัยวะ ได้แก่การผ่าตัดเพื่อแก้ไขภาวะฉุกเฉินต่างๆ
บทบาทพยาบาล กับ Fast track
บทบาทพยาบาลกับระบบทางด่วน (Fast track)
การประสานงานผู้เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกองค์กร
การจัดการและดูแลขณะส่งต่อ
การรายงานแพทย์ผู้รักษาเพื่อตัดสินใจสั่งการรักษา
การให้การดูแลตามแผนการรักษาภายใต้ระยะเวลาที่จํากัด
การประเมินเบื้องต้นโดยใช้ความรู้ ความสามารถเฉพาะโรค
การติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง
การให้ความช่วยเหลือเมื่อมีความผิดปกติและติดตามการประเมินผลลัพธ์
การดําเนินงานเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ผลการดําเนินงานในภาพรวม
การจัดระบบให้มีการทบทวนและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
บทบาทพยาบาลในระบบทางด่วน (Fast track)
Triage/ Specific triage/ Assessment
Activate system
EMS (accessibility)
Flow (purpose-process-performance)
Investigation
Care delivery
Monitoring: early warning signs & E-response
Risk management (general & clinical)
Co-ordination, Communication, Handover
Inter & Intra transportation
Evaluation, output, outcome
Improvement, Innovation, Integration
แนวทางปฏิบัติในระบบทางด่วน (Fast track) สําหรับผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วน
เป็นแนวทางของระบบบริการสุขภาพที่ช่วยนําผู้ป่วยให้เข้าถึงบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างทันเวลา และลดระยะเวลาการรักษาในผู้ป่วยกลุ่มอุบัติเหตุ ฉุกเฉิน
แต่ละสถานพยาบาล/สถาบันสามารถดําเนินการจัดทําหรือจัดการแตกต่างกัน
จัดทําแนวปฏิบัติ ลําดับการปฏิบัติในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยตั้งแต่ผู้ป่วยมาถึงประตูโรงพยาบาล
จัดทํารายการตรวจสอบ (check list) สําหรับการลงข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลต่างๆ
จัดทําแผนภูมิการดูแลผู้ป่วย พร้อมกําหนดลักษณะผู้ป่วยที่มีภาวะฉุกเฉินเร่งด่วนที่เข้าระบบทางด่วน
ฝึกอบรมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีความรู้และสามารถดําเนินการตามระบบทางด่วน
การจัดทําควรเป็นทีมสหสาขาวิชาชีพ ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ในส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องมาร่วมดําเนินการ
แผนการปฏิบัติต้องเน้นย้ําเวลาเป็นสําคัญ
กําหนด clinical indicator