Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การรักษาโรคเบื้องต้นทางศัลยกรรม :fountain_pen:, image, image - Coggle…
การรักษาโรคเบื้องต้นทางศัลยกรรม :fountain_pen:
ชนิดของแผล
open wound
บาดแผลที่มีการฉีกขาด หรือแยกออกของผิวหนังร่วมด้วย
penetrating wound
abrasion wound
lacerated wound
avulsion wound
cut wound
burn wound
Closed wound
บาดแผลที่ไม่มีการฉีกขาดของผิวหนัง โดยการบาดเจ็บเกิดขึ้นใต้ผิวหนังลงไป
ecchymosis
subgaleal hematoma
contusion
blunt injury of abdomen or chest
ตามลักษณะที่แสดงออกของบาดแผล
contusion wound
บาดแผลที่มีการฟกช้ำของเนื้อเยื่ออ่อน
บาดแผลชนิดนี้เป็นบาดแผลแบบปิด
Puncture wound
แผลถูกทิ่มแทง
จะมีรูข้าวของแผลเล็ก
Laceration wound
แผลฉีกขาดที่อาจเป็นได้ทั้งฉีกขาดตื้นและเป็นแผลลึก
ซึ่งอาจทำให้ขอบแผลรุ่งหริ่ง หรืออาจมีเนื้อเยื่อบางส่วนหายไปได้
Avulsion wound
แผลที่มีส่วนของผิวหนังแยกจากชั้น subcutaneous tissue ที่อยู่ข้างล่างชั้นต่างๆของ dermis, subcutaneous tissue, fascia
กล้ามเนื้อจะสามารถถูกแยกกันได้ด้วยแรงที่ฉีกเนื้อเยื่อออก และทำให้กลายเป็นAvulsion flap
Crush injury wound
เป็นแผลที่ได้รับแรงกดจากภายนอกสูงทำให้ผิวหนังถูกบดช้ำบางส่วน
เนื้อเยื่อที่ช้ำตายเหล่านี้ควรได้รับ debride ออก ก่อนที่จะทำการปิดแผล
การบำบัดหัตถการ
Suture wound
วัตถุประสงค์
เพื่อให้ขอบแผลมาชิดติดกันทำให้การหายของแผลเร็วขึ้นและเกิดแผลเป็นน้อยที่สุด
เพื่อให้อวัยวะที่เกิดแผลนั้นสามารถทำหน้าที่ได้อย่างปกติ
เพื่อให้เลือดที่ออกจากแผลหยุดไหลและป้องกันการเสียเลือด
ชนิดของการเย็บ
Single interrupted suture
เป็นการเย็บที่ใช้บ่อยที่สุด
เหมาะสำหรับการเย็บบาดแผลทั่วไปที่มีความลึก
ไม่มีการม้วนเข้าในของขอบแผล
Continuous overhand suture
เหมาะสำหรับการเย็บแผลที่มีขนาดตื้นแต่ยาว ประหยัดไหมและเวลา
Vertical mattress suture
บาดแผลมีขนาดค่อนข้างลึก
การเย็บแบบนี้จะทำให้ขอบแผลชนกันสนิท เช่น บาดแผลบริเวณข้อศอก บริเวณหัวเข่า
Subcuticular suture
เย็บบาดแผล บริเวณที่ตื้นไม่ลึกมาก เย็บดึงขอบผิวหนัง (Skin) ชิดเข้าหากัน
Half buried Horizontal mattress suture
เย็บบาดแผลที่เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายแหลม
ไม่ต้องการให้แรงกดบริเวณด้านบนส่วนปลายของผิวหนังที่ถูกทำลาย
สามารถช่วยลดการเกิดเนื้อตายบริเวณส่วยปลายลงได้
Skin staples
เย็บบาดแผลโดยลวดเย็บ
ส่วนใหญ่มักจะทำหลังผ่าตัดโดยแพทย์เนื่องจากสะดวก รวดเร็ว ใช้เวลาน้อย
Skin adhesive strips
เย็บบาดแผลบริเวณบาดแผลที่ตื้น
แผลสะอาด ขอบแผลเรียบมีขนาดเล็ก ไม่มีเลือดซึม
Absorbable Sutures
วัสดุที่สามารถละลายหรือสลายไปได้เองในเนื้อเยื่อหรืออวัยวะของเราไม่จำเป็นต้องนำออกจากร่างกายในภายหลัง
Non absorbable Sutures
วัสดุที่สามารถสลายไปได้เองได้ยาก
ใช้เวลานานประมาณ 1-2 ปี
มีผลเสียน้อยกว่าการต้องผ่าตัดเพื่อเอาวัสดุนั้นออก
การจัดการบาดแผล
Wound cleansing
ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการลดอัตราการติดเชื้อของบาดแผล โดยทำความสะอาดบริเวณบาดแผลก่อนการทำหัตถการ
Wound exploration
การสำรวจภายในบาดแผล
ดูว่าภายในแผลมีอวัยวะหรือเนื้อเยื่อต่างๆได้รับอันตรายหรือไม่
มีการปนเปื้อนวัสดุแปลกปลอมใดๆ (foreign body) อยู่ภายในบาดแผลหรือไม่
Debridement
การตัดเนื้อตายและนำสิ่งแปลกปลอมออกจากบาดแผล
จะช่วยให้การหายของบาดแผลดีขึ้นและลดโอกาสการติดเชื้อลง
Wound closure
บาดแผลอุบัติเหตุเมื่อได้รับการรักษาทำความสะอาดจนดีพอแล้ว
สามารถเย็บปิดได้เลยในช่วงระยะเวลาที่เรียกว่า golden period
Hemostasis
เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่จำเป็นต้องทำเป็นอันดับแรก
ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้ หากเสียเลือดไปจำนวนมาก
การถอดเล็บ/ผ่าฝี/ผ่าตัดเล็กเผื่อเอาสิ่งแปลกปลอมออก
ฝี (Abscess or furuncle)
การอักเสบติดเชื้อเป็นหนองของต่อมเหงื่อ (sweat gland) หรือ รูขุมขน (hair follicle)
เชื้อที่พบบริเวณผิวหนังได้แก่ s.aureus และ diptheroids
อาการ
ปวด คัน ผิวหนังบวม นูนแดง
อาจพบจุดหนองสีขาวบริเวณกลางของฝี
I &D
การรักษา
ถ้าฝีอยู่ในระดับตื้นก็จะแตกได้เอง ถ้าติดเชื้ออยู่ลึกจะต้องกรีดเอาหนองออก
การใช้ Hot packs และทำ incision and drainage
การใช้ยาปฏิชีวนะ โดยทั่วไปไม่จำเป็นต้องให้ ยกเว้นพบ ฝีบริเวณหน้า จมูก หรือ ใน immunocompromised host
ให้กินยาแก้ปวด หากมีอาการปวด
ประคบความร้อน
ให้ยาปฏิชีวนะที่ฆ่าเชื้อ staphylococcal
ถ้ามีหนองผ่าตัดเอาหนองออก
ต้องตรวจปัสสาวะทุกรายว่าเป็นเบาหวานหรือไม่
เล็บขบ
สาเหตุ
เกิดจากเชื้อ Staphylococcus หรือ Streptococcus
ทำให้เกิดการอักเสบบวมแดงรอบๆ ขอบเล็บและปวดเล็บ
มักจะเป็นบริเวณนิ้วเท้า
การรักษา
ถ้ามีหนองให้ผ่าเอาหนองออกจะหายเร็วยิ่งขึ้น
ทำความสะอาดนิ้วเท้าที่จะถอดเล็บด้วยยาฆ่าเชื้อ povidone-iodine solution
เริ่มต้นใช้กรรไกรปลายแหลม สอดปลายเข้าไปแยกเล็บ (nail plate)
ให้ยาปฏิชีวนะ เช่น cloxacillin 250-500 mg วันละ 4 ครั้ง
หากต้องการถอดเล็บออกบางส่วนเฉพาะด้านที่มีเล็บขบให้ใช้กรรไกรปลายแหลมตัดที่ ส่วนปลาย
ใช้ผ้าก๊อซ กดหยุดเลือดสักพัก ทำความสะอาดแล้วใช้ Antibiotic ointment ทาแล้วปิดแผลด้วยผ้าก๊อซ และ trans pore
หากมีขอบเล็บ (lateral nail plate) หักหรือหลุดค้างอยู่ ให้พยายามใช้ arterial clamp จับแล้วดึงออกอย่าให้มีเศษของเล็บ