การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์

สมัยก่อนประวัติศาสตร์

  1. ยุคหินเก่า

2.ยุคหินกลาง

3.ยุคหินใหม่

ยุคหินเก่าตอนต้น ประมาณ 2,500,000 – 180,000ปีมาแล้ว เครื่องมือเครื่องใช้ทำด้วยหินมีลักษณะเป็นขวานกระเทาะแบบกำปั้น

ยุคหินเก่าตอนกลาง ประมาณ 180,000 – 49,000 ปีมาแล้ว เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยหินมีลักษณะแหลมคม มีด้ามยาวขึ้น และมีประโยชน์ในการใช้สอยมากขึ้น

ยุคหินเก่าตอนปลาย ประมาณ 49,000 – 10,500 ปีมาแล้ว เครื่องมือเครื่องใช้มีความหลากหลายกว่ายุคก่อน ได้แก่ เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินและกระดูกสัตว์โดยการแกะสลัก เช่น เข็มเย็บผ้า ฉมวก หัวลูกศร และทำเครื่องประทับด้วยเปลือกหอยและกระดูกสัตว์

ประมาณ 10,500 – 10,000 ปีมาแล้ว มนุษย์ในช่วงนี้เริ่มทำเครื่องจักรสาน เช่น ตะกร้าสาน ทำรถลาก เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยหินในยุคนี้มีความประณีตมากขึ้น ตลอดจนรู้จักนำสุนัขมาเลี้ยงสัตว์เลี้ยง ในยุคหินกลาง มนุษย์รู้จักเลี้ยงสัตว์และเริ่มมีการเพาะปลูก แต่อาชีพหลักของมนุษย์ในยุคนี้ยังคงเป็นการล่าสัตว์ และยังเร่ร่อนไปตามแหล่งที่อุดมสมบูรณ์ โดยมักตั้งหลักแหล่งอยู่ตามแหล่งน้ำชายฝั่งทะเล และบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ ประกอบอาชีพประมง ล่าสัตว์

ประมาณ 10,000 – 4,000 ปีมาแล้ว มนุษย์ในยุคนี้อาศัยอยู่รวมกันเป็นหมู่บ้าน ดำรงชีวิตด้วยการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์การเพาะปลูกได้เปลี่ยนวิถีชีวิตของมนุษย์จากสังคมล่าสัตว์มาเป็นสังคมเกษตรกรรม ที่ตั้งถิ่นฐานเป็นหลักแหล่ง มีการสร้างที่พักอาศัยถาวรเป็นกระท่อมดินเหนียว และตั้งหลักแหล่งตามบริเวณลุ่มน้ำ

พืชเพาะปลูกที่สำคัญในยุคนี้ คือ ข้าว พืชอื่น เช่น ถั่ว ฟัก บวบ ส่วนสัตว์เลี้ยง ได้แก่ สุนัข แพะ แกะ และยังคงล่าสัตว์ เช่น กวาง กระต่าย เต่า ตะพาบ รวมทั้งยังคงทำการประมง

เครื่องมือเครื่องใช้ยุคหินใหม่มีการประดิษฐ์อย่างประณีต โดยทำจากวัสดุพวกหิน กระดูกและเขาสัตว์ เครื่องมือที่สำคัญในยุคนี้ คือ ขวานหินด้ามไม้ และเคียวหินเหล็กไฟด้ามไม้ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเครื่องใช้อื่นๆ สำหรับใช้ปั่นฝ้าย ทอผ้า ทำเครื่องปั้นดินเผา ฯลฯ

4.ยุคโลหะ

ยุคโลหะเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5,000 - 6,000 ปีก่อนพุทธศักราช แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์เท่าที่พบในขณะนี้ ยังไม่สามารถนำมายืนยันแน่ชัดว่ายุคโลหะเริ่มที่ใด แต่สันนิษฐานว่า ยุคโลหะเริ่มในเอเชียตอนกลาง บริเวณประเทศอียิปต์

มนุษย์ได้เริ่มเรียนรู้เรื่องของโลหะวิทยาเกี่ยวกับการถลุง, การหล่อ และการขึ้นรูปโลหะ โดยส่วนมากจะเป็น ทองแดง ต่อมาประมาณ 3,500 ปีก่อนพุทธศักราช มนุษย์หันมาใช้สำริด โดยใช้ทำอาวุธ, เสื้อเกราะ, ภาชนะต่าง ๆ, ของใช้ และเครื่องประดับ แม้ในยุคต่อมาได้มีการใช้เหล็กเป็นโลหะหลักก็ตาม แต่สำริดยังเป็นโลหะที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมจนถึงปัจจุบัน

สมัยประวัติศาสตร์

สมัยโบราณ

สมัยโบราณ (อังกฤษ: Ancient history) ในความหมายที่เป็นสากล จะหมายถึง ช่วงเวลาที่มนุษย์รู้จักการตั้งถิ่นฐานถาวร สร้างอารยธรรม วัฒนธรรม อักษรต่าง ๆ ขึ้นมา ซึ่งในแต่ละประเทศ สมัยโบราณจะมาถึงเร็วหรือช้า จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าช่วง

สมัยกลาง

คือช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ยุโรป ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 โดยปกติแล้วเริ่มนับตั้งแต่การล่มสลายลงของจักรวรรดิโรมันตะวันตก (การสิ้นสุดของสมัยคลาสสิก) จนถึงจุดเริ่มตั้นของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา และยุคแห่งการสำรวจ ซึ่งเป็นยุคที่นำไปสู่สมัยใหม่ในเวลาต่อมา สมัยกลางคือช่วงเวลาตรงกลางของกระบวนการเปลี่ยนผ่านในประวัติศาสตร์ตะวันตกคือ สมัยคลาสสิก สมัยกลาง และสมัยใหม่

สมัยใหม่

เป็นช่วงเวลาหนึ่งของอารยธรรมต่างๆ ซึ่งในช่วงนี้ อารยธรรมนั้น ๆ จะเริ่มมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เริ่มมีแนวคิดที่ยึดหลักความจริง หลุดพ้นจากความเชื่องมงายหลายอย่างในอดีตนักวิชาการได้กำหนดช่วงเวลาที่เป็น "สมัยใหม่" ของสากลโลกไว้ให้เป็นช่วง ค.ศ. 1453-ค.ศ. 1945 โดยเริ่มนับจากการล่มสลายของจักรวรรดิไบแซนไทน์และสิ้นสุดลงหลังสงครามโลกครั้งที่สองยุติ

สมัยปัจจุบัน

เป็นช่วงเวลาของอารยธรรมหนึ่ง ๆ ซึ่งเป็นช่วงที่แต่ละอารยธรรมจะมีเทคโนโลยีเข้ามาใช้อย่างแพร่หลาย และมีการตระหนักถึงการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกวิธีนักประวัติศาสตร์ได้กำหนดช่วงเวลาที่เป็น "สมัยปัจจุบัน" ของสากลโลกไว้ให้ตรงกับ ค.ศ. 1945 จนถึงปัจจุบันนี้ โดยเริ่มนับจากการสิ้นสุดของสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นต้นมา

การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์ของไทย

แบ่งตามลักษณะการปกครอง

แบ่งตามหลักสากล

สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์

สมัยประชาธิปไตย