Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะสับสนเฉียบพลัน (Delirium) - Coggle Diagram
ภาวะสับสนเฉียบพลัน (Delirium)
การวินิจฉัยภาวะ delirium
เกิดความผิดปกติของความสนใจ ทั้งไม่ใส่ใจ ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถควบคุมสมาธิหรือความสนใจให้อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ เสียสมาธิได้ง่าย และไม่รับทราบสภาพแวดล้อมรอบตัว
2.ความผิดปกติเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ตั้งแต่หลายชั่วโมง จนถึงสองถึงสามวัน โดยมีการ
แสดงออกถึงการเปลี่ยนแปลงในทางที่แย่ลงของ
ความเอาใจใส่และรับรู้ต่อสิ่งแวดล้อมอย่างชัดเจน
เกิดความผิดปกติของความคิดและความจำ เช่น
สูญเสียความจำหลงผิดด้านเวลาและสถานที่
ความผิดปกติในข้อที่
1 และ 2 ไม่ได้เกิดจากปัญหาความจำาเสื่อมที่มีอยู่
เดิม และไม่ได้เกิดขึ้นขณะที่มีการลดลงของระดับ
ความรู้สติ
มีหลักฐานจากประวัติ การตรวจร่างกาย และผล
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ยืนยันว่าความผิด
ปกติที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลสืบเนื่องจากโรคทางกาย
ต่างๆ การได้รับสารพิษ การหยุดยาบางชนิดหรือ
สารเสพติดหรือจากหลายสาเหตุร่วมกัน
การรักษาภาวะ delirium
พูดคุยและแจ้งให้ผู้ป่วยทราบเกี่ยวกับ วันเวลาสถานที่และสภาพแวดล้อม หรือจัดสถานที่พักให้เป็นสภาพที่ผู้ป่วยคุ้นเคย
การรักษาด้วยยา
ยาที่ต้องหลีกเลี่ยง เพราะจะให้
delirium รุนแรงขึ้นได้แก่
Benzodiazepines โดย
เฉพาะdiazepamทั้งยาฉีดและยารับประทาน
ยารักษาสมองเสื่อม rivastigmine
ยารักษาอาการทางจิตประสาทที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะ แบบ Torsadesdepointes
ยาที่ใช้ในการสงบ ระงับอาการกระ
สับกระส่ายและอาละวาด ก้าวร้าว ที่ใช้บ่อยได้แก่
haloperidol
การป้องกันภาวะdelirium
ค้นหาหรือคัดกรองผู้ป่วยที่มีความ
เสี่ยงในการเกิดdelirium
ควรให้มีการเคลื่อนไหวหรือออกกำลังกายเริ่มจากเคลื่อนไหว เพื่อปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน การฝึกนั่ง ยืน และเดินตามลำดับ
สร้างสุขลักษณะที่ดีสำหรับการนอน เพื่อให้ผู้ป่วยนอนหลับได้ดียิ่งขึ้น เช่น จำกัดจำนวนผู้เข้าเยี่ยม ปรับแสงสว่างให้พอเหมาะ และปราศจากเสียงรบกวน
หากผู้ป่วยมีปัญหาทางจิตเวช ควรประเมินและเริ่มยารักษาที่เหมาะสม
การป้องกันการเกิดภาวะ deliriumด้วยยา งานวิจัยที่พบว่าการฉีดยา haloperidol ขนาดต่ำให้กับผู้ป่วยภายใน 12 ชม.หลังเข้ารับการผ่าตัดสามารถลดอุบัติการณ์delirium ในช่วง7วันหลังการผ่าตัดได้ และลดทั้งอุบัติการณ์และความชุกของ delirium ในหอผู้ป่วยระยะวิกฤตได้เช่นกัน
ปัจจัยเสี่ยงในการเกิด delirium
ภาวะสมองเสื่อม ความผิดปกติทาง
ความคิดความจำและความผิดปกติทางสมองอื่นๆ
3.ประวัติโรคหลอดเลือดสมอง
1.ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 80ปีขึ้นไป
4.ภาวะผิดปกติของสารนำ้และเกลือแร่ใน
ร่างกาย
5.ความผิดปกติทางเมทาบอลิสมไตวาย
และตับวาย
6.ผู้ที่มีโรคประจำตัวหลายโรค
7.ภาวะติดเชื้อโดยเฉพาะการติดเชื้อทาง
เดินปัสสาวะปอดติดเชื้อ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกัน
บกพร่อง
8.ภาวะทุโภชนาการ
9.ภาวะปอดและหัวใจล้มเหลว
10.ใช้ยาหลายชนิด โดยเฉพาะผู้ที่มี
ประวัติการใช้ยาระงับปวดยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิต
ประสาท
11.ประวัติเสพติดสารเสพติด สุราและยา
กล่อมประสาท
12.ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัด
13.เพศชาย พบเกิดปัญหาได้บ่อยกว่า
เพศหญิง
อาการและอาการแสดงของภาวะ
Delirium
1.อาการเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน และมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างวัน โดยอาการคงอยู่ได้นานเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน แต่จะไม่นานเกินสัปดาห์
อาการขาดสมาธิ (attention defcits)
ถือเป็นอาการหลักของ delirium ผู้ป่วยจะขาดความ
สนใจ ไม่เอาใจใส่ต่อสิ่งกระตุ้นหรือสภาวะแวดล้อม
ที่สำาคัญในขณะนั้น และถูกดึงความสนใจได้ง่ายจาก
สิ่งกระตุ้นอื่นๆ ที่แทรกเข้ามา
3.สูญเสียกระบวนการคิดแบบเป็นระบบ
(disorganized thinking) ผู้ป่วยไม่สามารถ
ปฏิบัติตามขั้นตอน จึงทำางานหรือกิจกรรมใดๆ ให้
สำาเร็จไม่ได ทำงานช้ากว่าปกติมาก
4.สูญเสียการรับทราบสภาวะแวดล้อม
(perceptual disturbances) ที่พบบ่อยที่สุดคือ
หลงเวลา ไม่รับรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ที่ตนเองกำลัง
เผชิญอยู่
5.ความผิดปกติของวงจรการหลับ-ตื่น
(disturbed sleep-wake cycle) ป็นผลสืบเนื่องมาจากการ
รับรู้ช่วงกลางวันและกลางคืนที่ผิดปกติของผู้ป่วยทำให้ง่วงนอนและหลับมากในช่วงกลางวัน
6.การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมด้าน
การเคลื่อนไหว (altered psychomotor activity) พบได้สองแบบคือแบบช้าลงหรือเคลื่อนไหวลดลง หรือ hypoactive และแบบกระสับกระส่ายกระวนกระวาย หรือ hyperactive
7.สูญเสียการรับรู้เวลา สถานที่ บุคคล
และสูญเสียความจำาระยะสั้น (disorientation
and memory impairment) ผู้ป่วย delirium
จะสูญเสียการรับรู้เกี่ยวกับเวลาเป็นสิ่งแรก สับสน
ระหว่างกลางวัน-กลางคืน และไม่ทราบ วัน เดือน
ปี ของปัจจุบัน ต่อมาจะสูญเสียการรับรู้เกี่ยวกับ
สถานที่
8.ความผิดปกติด้านความคิดความจำา
อื่นๆ ได้แก่ ไม่สามารถจดจำาวัตถุสิ่งของได้ วาดรูป
ไม่ได้ และเขียนหนังสือไม่ได้
9.ความผิดปกติด้านอารมณ์และ
พฤติกรรม ได้แก่ หลงผิด หวาดระแวง และบุคลิก
เปลี่ยนแปลง เช่น จากปกติเรียบร้อย เปลี่ยนเป็น
ก้าวร้าว ด่าทอ พูดมาก พูดหยาบคาย หยาบโลน
อารมณ์เปลี่ยนแปลงสลับกันระหว่าง กระวน
กระวาย อาละวาดและซึมเศร้า
สมาชิก
นาย ยงยศ จันปัญญา เลขที่ 14
นางสาวสุภาวดี โคตนาม เลขที่ 57
นางสาวสุพรรษา กาญจนะ เลขที่ 58
นางสาวอลิตษา มัญจกาเภท เลขที่ 59
นางสาวอรพรรณ ในจิตร เลขที่ 66
ภาวะ delirium คือ ภาวะที่สมองทำงานบกพร่องกระทันหันทำให้เกิดอาการสับสนกระวนกระวาย และระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง ความคิด ความจำและสมาธิเสียไป แสดงอาการได้ 2 แบบ คือ แบบกระวนกระวาย กับ แบบสงบเสงี่ยม แยกตัว โดยอาการอาจเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ 2-3 ชั่วโมง หรือ 2-3 วัน อาการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆในช่วงเวลาของวัน
อ้างอิง
กุลธิดา เมธาวศิน.(2018).ภาวะสับสนเฉียบพลันการวินิจฉัย แบบประเมินและแนวทางการรักษา,21-29.จาก
https://neurosci.kku.ac.th/wp-content/uploads/2018/12/Topic-Review-11.pdf?fbclid=IwAR0N-vCEE7u-cQPUSA9Lb8tQQz2ZlOdNoOXMngfrLrTeYJdMzOVTIMttKPI