Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ARDS - Coggle Diagram
ARDS
การพยาบาล
-
-
-
สังเกตลักษณะการหายใจของผู้ป่วยว่ามีการหายใจตามเครื่องหายใจไม่สัมพันธ์กับเครื่องช่วยหายใจที่ตั้งไว้หรือไม่
-
บันทึกสัญญาณชีพทุกชั่วโมงหรือบ่อยขึ้นหากมีอาการผิดปกติ
ประกอบด้วยความดันโลหิต ชีพจร อุณหภูมิกาย การหายใจและคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
-
-
อาการและอาการแสดง
1.latent phase เป็นระยะเริ่มแรกภายใน 24 ชั่วโมง อาการยังไม่รุนแรงมาก
จะมีอาการหายใจลำบาก หายใจเร็วตื้น
2.Acute interstitial edema phaseมีการหลั่งสารสื่อออกมา (mediators)ส่งผลทำลายเนื้อเยื่อและหลอดเลือดปอดเกิดภายใน 12 -24 ชั่วโมงภายหลังปอดได้รับบาดเจ็บ
3.Acute intra - alveolar edema phaseภายในถุงลมมีน้ำ เม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงและโปรตีนจำนวนมากทำให้เกิดการทำลายalveolar cell type l
4.Subacute - chronic phaseจะเป็นระยะที่ผนังถุงลมหนาแข็ง ในถุงลมมีน้ำ น้ำเลือด เม็ดเลือดขาว ไฟโบรบลาสมีการเกิดพังผืดในปอดถุงลมที่เสียไป
การรักษา
รักษาความสมดุลของน้ำและอิเลกโทรไลต์ โดยนิยมให้ในรูป crystalloid เพราะการใช้ colliod มีรายงานว่าจะทำให้น้ำท่วมถุงลมมากขึ้น
-
แก้ไขภาวะพร่องออกซิเจน ผู้ป่วยที่ต้องการ FiO2 มากกว่า 0.6
เพื่อให้ความดันย่อยของออกชิเจนในหลอดเลือดแดง (PaO2) มากกว่า 60 ความอิ่มตัวของออกชิเจนในเลือดแดง (oxygen saturation) มากกว่า 90%
-
-
พยาธิสภาพ
เมื่อปอดได้รับอันตรายหรือบาดเจ็บจากสาเหตุโดยตรงหรือโดยอ้อมร่างกายจะเกิดปฏิกิริยาตอบส่นองต่ออันตรายที่มากระทำกับปอดโดยเกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อปอดมีการหลั่งสารสื่อ (mediators) เข้าสู่กระแสเลือดทำให้มีการทำลายกลไกของเซลล์เยื่อบุ(endothelial cell) ของหลอดเลือดฝอยในปอดส่งผลให้ร่างกายกระตุ้นให้เพิ่มการหลั่ง plateletpermeability factor, bradykinin,collagenase
และ elastaseทำให้มีการดึงน้ำจากหลอดเลือดเข้าสู่ interstitialเพิ่มขึ้น เกิด interstitial บวมทำให้ถุงลมปอดบวมน้ำและเกิดการอักเสบทำให้ความจุและความยึดหยุ่นของถุงลมลดลงถุงลมที่บวมแฟบจะไม่มีการแลกเปลี่ยนก๊าช