สรุปทบทวนวรรณกรรม (พลังสุขภาพจิต)

ฉัตรฤดี ภาระญาติ, วารี กังใจ, & สิริลักษณ์ โสมานุสรณ์. (2559). ปัจจัยทำนายพลังสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 24(2), 97–106.

ปณิชา บุญสวัสดิ์, ไอศวรรย์ เพชรล่อเหลียน, จุฑาภรณ์ ทองบุญชู, วันเพ็ญ รัตนวิชา, & ญานิศา ดวงเดือน. (2563). พลังสุขภาพจิตของผู้สูงอายุ: คลินิกผู้สูงอายุสุขภาพดี. วารสารพยาบาลทหารบก, 21(3), 481–490.

กรรณิกา เรืองเดช ชาวสวนศรีเจริญ, ไพบูลย์ ชาวสวนศรีเจริญ, & เสาวลักษณ์ คงสนิท. (2562). ปัจจัยทำนายความแข็งแกร่งในชีวิตของผู้สูงอายุอาศัย ในสถานสงเคราะห์คนชราพื้นที่ภาคใต้. Journal of Mental Health of Thailand, 27(2), 65–79.

อัมเรศ เนตาสิทธิ์, & เศรษฐวิชญ์ ชโนวรรณ. (2563). การพัฒนาชุดกิจกรรมส่งเสริมพลังสุขภาพจิตสำหรับผู้สูงอายุ โดยใช้ครอบครัวและชุมชนเป็นฐาน. วารสารสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย, 28(4), 327–336

ชนัญชิดาดุษฎี ทูลศิริ, ภรภัทร เฮงอุดมทรัพย์, นุจรี ไชยมงคล, & ปาจรา โพธิหัง. (2562). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความสามารถในการยืนหยัดเผชิญวิกฤตของผู้สูงอายุโรคเรื้อรังในชุมชน: การทดสอบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ. วารสารคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 27(1), 78–88.

นภัสกร จันทร์สอน, วารี กังใจ, & สหัทยา รัตนจรณะ. (2561). ปัจจัยทำนายพลังสุขภาพจิตของผู้สูงอายุโรคเบาหวาน. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ, 12(2), 12–24.

Concept

IV/DV

วัตถุประสงค์

Design

Sample/Sampling

เครื่องมือ

ผลการวิจัย

สิ่งที่นำไปใช้

1.เพื่อศึกษาพลังสุขภาพจิต
2.เพื่อศึกษาปัจจัยทำนาย

พลังสุขภาพจิตของ Wagnlid and Young (1993)

IV: เพศ, ความเพียงพอของรายได้, การรับรู้ภาวะสุขภาพ, ขวัญและกำลังใจ

DV:พลังสุขภาพจิต

หาความสัมพันธ์
เชิงทำนาย (predictive correlational research)

ผู้สูงอายุจำนวน 94 คน

สุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ

1.แบบสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนบุคคล
2.แบบสัมภาษณ์การรับรู้ภาวะสุขภาพของสุพรรณี ธีระเจตกูล (2539)
3.แบบสัมภาษณ์ขวัญและกำลังใจ ใช้แบบวัดความพึงพอใจในชีวิตของ นงเยาว์ ชัยทอง (2542)

1.คะแนนเฉลี่ยพลังสุขภาพจิตของ ผู้สูงอายุอยู่ในระดับปานกลาง
2.การสนับสนุนทางสังคม และการรับรู้ภาวะสุขภาพ สามารถร่วมกันทำนายพลังสุขภาพจิตของผู้สูงอายุได้ ร้อยละ 30.9
3.การสนับสนุนทางสังคมเป็นตัวแปรที่สามารถทำนายพลังสุขภาพจิตของผู้สูงอายุได้มากที่สุด

1.ศึกษาปัจจัยอื่นๆเพิ่มเติม
2.การศึกษาพลังสุขภาพจิตในผู้สูงอายุที่มีการเจ็บป่วย และในกลุ่มโรคเรื้อรังต่างๆ

Concept

IV/DV

วัตถุประสงค์

Design

Sample/Sampling

เครื่องมือ

ผลการวิจัย

สิ่งที่นำไปใช้

ศึกษาพลังสุขภาพจิต

ความหมายและองค์ประกอบของพลังสุขภาพจิตโดยกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey research)

ผู้สูงอายุที่เข้ารับการรักษาที่คลินิก จำนวน 200 คน

กำหนดเกณฑ์คัดเข้าและคัดออก

1.แบบสอบถามข้อมูลทั่วไป
2.แบบประเมินพลังสุขภาพจิตสำหรับผู้สูงอายุไทย จากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

กลุ่มตัวอย่าง มีคะแนนพลังสุขภาพจิตรวมอยู่ในระดับมาก (ร้อยละ57.5) พบว่าด้านความเข้มแข็งของจิตใจ มีคะแนนระดับมากที่สุด

1.ควรทำการศึกษาต่อยอด หาปัจจัยที่เกี่ยวข้องและค้นหาวิธีการเสริมสร้างพลังสุขภาพจิตในผู้สูงอายุต่อไป
2.ควรมีการศึกษาพลังสุขภาพจิตในผู้สูงอายุและวิธีการพัฒนาสุขภาพจิตในกลุ่มผู้สูงอายุทั้งในภาวะเจ็บป่วย
ด้วยโรคเรื้อรัง

Design

Sample/Sampling

IV/DV

เครื่องมือ

Concept

ผลการวิจัย

วัตถุประสงค์

การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise multiple regression analysis)

สิ่งที่นำไปใช้

เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์และปัจจัยทำนายความแข็งแกร่งในชีวิตของผู้สูงอายุ

ใช้คำนิยามความแข็งแกร่งในชีวิต หรือ “resilience” หรือที่กรมสุขภาพจิต

IV:สุขภาพกาย, ภาวะซึมเศร้า, ความสัมพันธ์ทางสังคม, การเห็นคุณค่าในตนเอง และความสุข

DV: ความแข็งแกร่งในชีวิตของผู้สูงอายุ

การวิจัย
เชิงวิเคราะห์แบบภาคตัดขวาง (cross-sectional
analytical study)

ผู้สูงอายุทุกคนในสถานสงเคราะห์ 3 แห่ง ที่ผ่านเกณฑ์คัดเข้า มีจำนวนทั้งสิ้น 161 คน

สุ่มสถานสงเคราะห์ โดยสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (cluster sampling) กลุ่มตัวอย่างคือผู้สูงอายุทุกรายที่ผ่านเกณฑ์คัดเข้าและคัดออก

1.แบบสอบสัมภาษณ์ข้อมูลทั่วไป
2.แบบสัมภาษณ์ความแข็งแกร่งในชีวิต
3.แบบสัมภาษณ์สุขภาพกาย
4.แบบประเมินความซึมเศร้าในผู้สูงอายุของไทย (Thai Geriatric Depression Scale: TGDS)
5.แบบสัมภาษณ์ความสัมพันธ์ทางสังคม
6.แบบประเมินความรู้สึกเห็นคุณค่าในตนเอง (Self–Esteem Scale)

1.สุขภาพกาย ความสัมพันธ์ทางสังคม การเห็นคุณค่าในตนเอง และความสุข มีความสัมพันธ์ทางบวก ขณะที่ภาวะซึมเศร้ามีความสัมพันธ์ทางลบกับความแข็งแกร่งในชีวิตของผู้สูงอายุ
2.ความสุข และภาวะซึมเศร้าที่สามารถร่วมกันอธิบายการผันแปรของความแข็งแกร่ง ในชีวิตของผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์คนชราในพื้นที่ ภาคใต้ได้ร้อยละ 34.0

การเสริมสร้างความแข็งแกร่งในชีวิตให้กับผู้สูงอายุในสถานสงเคราะห์ คนชรา ควรส่งเสริมความสุข การเห็นคุณค่าในตนเอง ความสัมพันธ์ทางสังคม และสุขภาพกาย และลดภาวะซึมเศร้า

Design

Sample/Sampling

IV/DV

เครื่องมือ

Concept

ผลการวิจัย

วัตถุประสงค์

สิ่งที่นำไปใช้

1.กลุ่มตัวอย่างมีความสามารถในการยืนหยัดเผชิญวิกฤตอยู่ในระดับสูง
2.โมเดลปัจจัยเชิงสาเหตุสามารถอธิบาย ความสามารถในการยืนหยัดเผชิญวิกฤตของผู้สูงอายุโรคเรื้อรังในชุมชน ได้ร้อยละ 32
3.ความสามารถในการยืนหยัดเผชิญวิกฤตของผู้สูงอายุโรคเรื้อรังในชุมชนได้รับอิทธิพลโดยตรงทางบวกจากการสนับสนุนทางสังคม การมองโลกในแง่ดี ความผาสุก และความพึงพอใจในชีวิต

ควรนำผลการวิจัยไปเป็นแนวทางในการบริหารจัดการ รวมทั้งจัดบริการหรือกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุโรคเรื้อรังสามารถเผชิญเหตุการณ์ที่ยากลำบากสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขต่อไป

1.ข้อมูลส่วนบุคคล
2.แบบวัดภาวะสุขภาพของ Taecharatanamanee (2004)
3.แบบวัดการรับรู้ความเครียดของ Cohen, Kamarck, and Mermelstein (1983)
4.แบบสัมภาษณ์การรับรู้ความสามารถของตนเองของ Kulprasutidilok (2014)
5.แบบวัดการมองโลกในแง่ดีของ Kulprasutidilok (2014)
6.แบบวัดความผาสุก ที่พัฒนาโดย Ryff and Keyes (1995)
7.แบบวัดความพึงพอใจในชีวิต (Satisfaction with Life Scale [SWLS]) ของ Diener, Emmons, Larsen, and Griffin (1985)
8.แบบวัดแหล่งประโยชน์ส่วนบุคคล (Personal Resource Questionnaire 2000 [PRQ 2000]) ส่วนที่ 2 ของ Weinert (2000)
9.แบบสัมภาษณ์ True Resilience Scale ของ Wagnild (2014)

ผู้สูงอายุที่มีความเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอาศัยอยู่ใน จังหวัดระยอง และจันทบุรี จำนวน 400 คน

รูปแบบการวิจัยเป็นแบบภาคตัดขวางและทดสอบ
รูปความสัมพันธ์เชิงสาเหตุ

DV: ความสามารถในการยืนหยัดเผชิญวิกฤต

IV: ภาวะสุขภาพ, การรับรู้ ความเครียด, การรับรู้ความสามารถของตนเอง, การมองโลก ในแง่ดี, ความผาสุก, ความพึงพอใจในชีวิต และการสนับสนุน ทางสังคม

ความสามารถในการยืนหยัดเผชิญวิกฤติของ Wagnild and Young (1993)

1.ศึกษาความสามารถในการยืนหยัดเผชิญวิกฤตของผู้สูงอายุโรคเรื้อรังในชุมชน
2.ศึกษาปัจจัย มีผลต่อความสามารถในการยืนหยัดเผชิญวิกฤต

สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน

Sample/Sampling

เครื่องมือ

Design

ผลการวิจัย

IV/DV

Concept

สิ่งที่นำไปใช้

วัตถุประสงค์

เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมส่งเสริมพลังสุขภาพจิต (resilience) สำหรับผู้สูงอายุและศึกษาผลการใช้ชุดกิจกรรม

Design

Sample/Sampling

IV/DV

เครื่องมือ

Concept

ผลการวิจัย

วัตถุประสงค์

สิ่งที่นำไปใช้

ใช้คำนิยามและคุณลักษณะของพลังสุขภาพจิตของ Wagnild & Young

การส่งเสริมพลังสุขภาพจิตของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข

IV: ชุดกิจกรรมส่งเสริมพลังสุขภาพจิต

DV: พลังสุขภาพจิต

ผู้สูงอายุที่อาศัย อยู่ในเขตเทศบาลตำบลนาแก้ว อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง จำนวน 31 คน

คัดเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling)

1.แบบประเมินพลังสุขภาพจิตของกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 20 ข้อ
2.ชุดกิจกรรมส่งเสริมพลังสุขภาพจิตสำหรับผู้สูงอายุ

1.ผู้สูงอายุ มีค่าเฉลี่ยคะแนนรวมพลังสุขภาพจิตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.4
2.เมื่อติดตามหนึ่งเดือน พบว่าค่าเฉลี่ยพลังสุขภาพจิตทุกด้านก่อนและหลังเข้าร่วมกิจกรรมมีความแตกต่างกันอย่าง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

ชุดกิจกรรมส่งเสริมพลังสุขภาพจิตสำหรับผู้สูงอายุนี้ สามารถนำไปใช้ส่งเสริมพลังสุขภาพจิตให้กับผู้สูงอายุที่มีบริบทคล้ายคลึงกันได้

1.เพื่อศึกษาพลังสุขภาพจิตของผู้สูงอายุโรคเบาหวาน
2.เพื่อศึกษาปัจจัยทำนาย

IV: การรับรู้ภาวะสุขภาพ, การเผชิญปัญหา, ความสามารถเชิงปฏิบัติกิจวัตรประจำวันต่อเนื่อง และการสนับสนุนทางสังคม

DV: พลังสุขภาพจิต

การวิจัยแบบหาความสัมพันธ์เชิงทำนาย (Predictive correlational study)

ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวานจำนวน 108 คน ที่เข้ารับการรักษาในคลินิก

สุ่มประชากรแบบง่ายจากบัญชีรายชื่อและมีคุณสมบัติตามเกณฑ์

1.เครื่องมือที่ใช้คัดกรอง คือ แบบทดสอบสภาพสมองเบื้องต้นฉบับภาษาไทย (MMSE)

2.เครื่องมือที่ใช้รวบรวมข้อมูล มี 6 ส่วน
ส่วนที่ 1 แบบสัมภาษณ์ข้อมูลส่วนบุคคล
ส่วนที่ 2 แบบสัมภาษณ์การรับรู้ภาวะสุขภาพ ใช้แบบสัมภาษณ์การรับรู้ภาวะสุขภาพของวนิดา หาญคุณากุล(2539)
ส่วนที่ 3 แบบสัมภาษณ์การเผชิญปัญหา ใช้แบบวัดการเผชิญปัญหาของปราณี มิ่งขวัญ (2542)
ส่วนที่ 4 แบบสัมภาษณ์ความสามารถเชิงปฏิบัติกิจวัตรประจำวันต่อเนื่อง โดยใช้ Chula ADL index
ส่วนที่ 5 แบบสัมภาษณ์การสนับสนุนทางสังคม ใช้แบบสัมภาษณ์การสนับสนุนทางสังคมของ กชชุกร หว่างนุ่ม(2550)
ส่วนที่ 6 แบบสัมภาษณ์พลังสุขภาพจิต ใช้แบบวัดความยืดหยุ่นของ ทัศนา ชูวรรธนะปกรณ์ ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยมาจากแบบประเมินพลังสุขภาพจิต (Resilience Scale) ของ Wagnlid and Young (1993)

1.กลุ่มตัวอย่างมีค่าเฉลี่ยของพลังสุขภาพจิตอยู่ในระดับสูง
2.การสนับสนุนทางสังคม การรับรู้ภาวะสุขภาพ และความสามารถเชิงปฏิบัติกิจวัตรประจำวันต่อเนื่อง สามารถร่วมทำนายพลังงสุขภาพจิตของผู้สูงอายุโรคเบาหวานได้ร้อยละ 43.6 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

1.ควรมีการศึกษาเกี่ยวกับปัจจัยระยะเวลาของการเป็นโรคเรื้อรังกับพลังสุขภาพจิตและพลังสุขภาพจิตของผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังอื่น ๆ 2.ควรมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับโปรแกรมการพยาบาล เพื่อช่วยพัฒนาและส่งเสริมพลังสุขภาพจิต

การวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน (Stepwise multiple regression analysis)

การวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบวัดซ้ำ (two-way repeated measure ANOVA)

วิเคราะห์โดยใช้แบบจำลองสมการเชิงโครงสร้าง

สถิติเชิงอ้างอิง ด้วยสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน (Pearson product moment correlation coefficient) และการวิเคราะห์ถดถอยแบบหลายขั้นตอน (stepwise multiple regression)