Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การวินิจฉัยการตั้งครรภ์ Jaotourlek-87 - Coggle Diagram
การวินิจฉัยการตั้งครรภ์
อาการแสดงว่าตั้งครรภ์แน่นอน (positive signs of pregnancy)
ได้ยินเสียงหัวใจทารก (fetal heart sound)
คู่ อัตราเต้นประมาณ 120-160 ครั้งต่อนาที สม่ำเสมอ
funic soufflé แต่มีอัตราเท่ากับเสียง fetal heart sound
ฟังเสียงผ่านผนังหน้าท้องสตรีมีครรภ์
เห็นการเคลื่อนไหวและคลำส่วนต่างๆ ของทารกได้ (fetal movement and fetal parts)
เป็นการคลำส่วนต่างๆ ของทารกได้ และเห็นการเคลื่อนไหวของทารกทางผนังหน้าท้องซึ่งจะเริ่มชัดเจนเมื่ออายุครรภ์ 20 สัปดาห์
การใช้รังสีเอกซเรย์ (radiological demonstration)
เห็นรูปร่างของกระดูกของทารกประมาณสัปดาห์ที่ 16
ควรหลีกเลี่ยงในการวินิจฉัยการตั้งครรภ์ เนื่องจากอันตรายของรังสีที่มีต่อทารกในครรภ์
เห็นทารกผ่านทางคลื่นเสียงความถี่สูง (visualization of the fetus by ultrasound)
สามารถวินิจฉัยการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 5-6 สัปดาห์
ใช้ในการคำนวณอายุครรภ์ การหาความผิดปกติของทารกที่เห็นได้ทางร่างกาย รวมทั้งการยืนยันการตั้งครรภ์
อาการและอาการแสดงที่คาดว่าจะตั้งครรภ์
(presumptive sign of pregnancy)
อาการคลื่นไส้ (nausea/vomition)
กรณีตั้งครรภ์
พบได้ในสัปดาห์ที่ 4-14 ของการตั้งครรภ์ และพบมากในช่วยสัปดาห์ที่ 8-12 ของการตั้งครรภ์
morning sickness หรือ nausea gravidarum ซึ่งอาจเกิดขึ้นในเวลาไหนของวันก็ได้
กรณีไม่ตั้งครรภ์
ผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร
น้ำตาลในเลือดต่ำ
ความเครียด
ภาวะจิตใจ
การรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้อักเสบ
ปัสสาวะบ่อย ()urinary frequency
กรณีตั้งครรภ์
เป็นการถ่ายปัสสาวะบ่อยโดยไม่มีอาการปวดแสบหรือมีไข้
เกิดเนื่องจากมีการกรองน้ำปัสสาวะที่ไตเพิ่มขึ้น
มดลูกที่โตขึ้นกดเบียดกระเพาะปัสสาวะทำให้แรงดันกระเพาะปัสสาวะเพิ่มขึ้น
กรณีไม่ตั้งครรภ์
พฤติกรรม
ดื่มน้ำมาก
โรค
เบาหวาน
Myoma uteri
Prolapsed uteri
การขาดประจำเดือน (amenorrhea)
กรณีตั้งครรภ์
สุขภาพปกติ
ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ
ขาดประจำเดือนเกิน10 วันขึ้นไป น่าเชื่อถือได้ว่าตั้งครรภ์
กรณีไม่ตั้งครรภ์
ความเครียด
ความผิดปกติของต่อมธัยรอยด์
ภาวะเบื่ออาหร
ยาบางชนิด
ออกกำลังกายหักโหม
เหนื่อยล้า (fatigue)
กรณีตั้งครรภ์
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
การเผาผลาญสารอาหารที่เปลี่ยนแปลงไป
กรณีไม่ตั้งครรภ์
ความเครียด
นอนไม่เพียงพอ
ความรู้สึกว่าเด็กดิ้นครั้งแรก (quickening)
กรณีตั้งครรภ์
สตรีครรภ์แรกจะรู้สึกถึงการดิ้นครั้งแรกประมาณอายุครรภ์ 18-20 สัปดาห์
สตรีครรภ์หลังจะรู้สึกประมาณอายุครรภ์16-18 สัปดาห์
กรณีไม่ตั้งครรภ์
การเคลื่อนไหวของแก๊สในกระเพาะ
การเปลี่ยนแปลงของเต้านม (changes in the breast)
กรณีตั้งครรภ์
มีอาการเจ็บคัดตึง (tenderness)
รู้สึกแปลบเหมือนถูกของมีคมเล็กๆ ทิ่มแทงภายในเต้านม (breast tingling)
มีอาการคัน
หัวนมไวต่อกรกระตุ้น
ลานนมขยายออก มีสีเข้มขึ้น
กรณีไม่ตั้งครรภ์
เนืื้องอกต่อมใต้สมอง
ตั้งครรภ์เทียม
การเปลี่ยนแปลงของสีผิวและการเกิดรอยแตกของผิวหนัง (increased skin pigmentation and appearance of abdominal striae)
กรณีตั้งครรภ์
เส้นกลางหน้าท้องมีสีคล้ำ (linea nigra)
ฝ้า (Choasma gravidarum)
Estogen
ผิวหนังแตกเป็นริ้วบริเวณหน้าท้อง Stiae gravidarum
กรณีไม่ตั้งครรภ์
อ้วน
บวมน้ำ
ท้องมาน
การเปลี่ยนสีของเยื่อบุช่องคลอด (discoloration of the vaginal mucosa)
Chadwick ‘ sign
vaginal mucosa จะสีคล้ำเกือบม่วงแดง
เกิดจากการมีเลือดเลี้ยงบริเวณเยื่อบุช่องคลอดมาก
พบได้ประมาณอายุครรภ์ 6-10 สัปดาห์
อาการแสดงว่าอาจตั้งครรภ์ (probable signs of pregnancy)
หน้าท้องโตขึ้น (enlargement of the abdomen)
กรณีตั้งครรภ์
ครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ มดลูกจะโตพ้นเชิงกราน
การเจริญเติบโตของทารก
กรณีไม่ตั้งครรภ์
pelvic tumor
การหดรัดตัวของมดลูก (Braxton Hicks contractions)
กรณีตั้งครรภ์
เป็นการหดรัดตัวที่เกิดขึ้นไม่สม่ำเสมอ ไม่เจ็บปวดและเกิดขึ้นได้ตลอดระยะการตั้งครรภ์
เป็นการส่งเสริมการไหลเวียนของโลหิตที่มดลูก และสนับสนุนการทำงานของรก
รู้สึกชัดขึ้นเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์
กรณีไม่ตั้งครรภ์
Myoma uteri
การเปลี่ยนแปลงของมดลูกและปากมดลูก (changes in the uterus and the cervix)
Goodell’s sign
คลำพบปากมดลูกนุ่ม
Hegar’s sign
ป็นความนุ่มของ isthmus สามารถตรวจได้ด้วยการทำ bimanual examination สามารถตรวจพบเมื่อตั้งครรภ์ 6-8 สัปดาห์
McDonald’s sign
เป็นการตรวจพบว่ามดลูกจะยืดหยุ่นได้มากและสามารถหักพับงอกับปากมดลูก (uterocervical junction) ได้ง่าย ตรวจพบได้เมื่อตั้งครรภ์ 7-8 สัปดาห์
การขยับคลอนทารก (ballottement)
external ballottement
โดยการวางมือบริเวณหน้าท้อง จับส่วนทารกในอุ้งมือแล้วกดลงที่มดลูกเร็วๆ เบาๆ เมื่อปล่อยมือ ทารกจะจมลงส่วนล่างแล้วเคลื่อนกลับที่ตำแหน่งเดิม ทำให้รู้สึกว่ามีส่วนของทารกกระทบมือ
internal ballottement
โดยสอดนิ้วมือเข้าทางช่องคลอดข้างหนึ่ง มืออีกข้างหนึ่งวางทาบที่หน้าท้อง ใช้นิ้วมือในช่องคลอดวางบริเวณปากมดลูก กดดันเบาๆ เร็วๆ ที่ส่วนนำของทารก ทารกจะลอยไปกระทบมืออีกข้างที่ทางหน้าท้อง แล้วเคลื่อนกลับไปกระทบมือที่สอดในช่องคลอดนั้น
คลำขอบเขตตัวทารกได้ (palpation of fetal outline)
กรณีตั้งครรภ์
อายุครรภ์ประมาณ 24 สัปดาห์ อาจคลำขอบเขตของลำตัวทารกได้ทางหน้าท้อง
กรณีไม่ตั้งครรภ์
มดลูกโต
เนื้องอก
ได้ยินเสียงของหลอดเลือดมดลูก (uterine soufflé)
เสียงฟู่เบาๆ เป็นจังหวะ มีอัตราเท่ากับชีพจรสตรีมีครรภ์
เกิดจากการที่มีเลือดไหลผ่านตัวมดลูก
การตรวจพบฮอร์โมน Human Chorionic Gonadotropin (HCG)
กรณีตั้งครรภ์
สามารถตรวจหา HCG ได้ประมาณวันที่ 6-12 หลังการตกไข่ (ovulation)
กรณีไม่ตั้งครรภ์
Molar pregnancy
Ectopic pregnancy