Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปสาระสำคัญการพยาบาลผู้ใหญ่ ระบบหัวใจและหลอดเลือด, นางสาวบุษชา…
สรุปสาระสำคัญการพยาบาลผู้ใหญ่
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
Shock
Hypovolemic shock
อาการ
ความดันโลหิตตก จากการไหลเวียนเลือดที่ลดลง
ชีพจรเร็ว เบา จากการไหลเวียนเลือดที่ลดลง ร่วมกับหัวใจเต้นเร็ว
เหงื่อออก ตัวเย็น จากหลอดเลือดแดงมีการหดตัว (vasoconstriction)
หายใจเร็ว จากการกระตุ้นของระบบประสาท sympathetic และภาวะเลือดเป็นกรด
การรักษา
ให้สารน้ำและ electrolyte ชดเชยตามชนิดที่เสียไป
ในรายที่เสียเลือดมากกว่า 20% ของ blood volume
ควรให้เลือดทดแทน แต่ระหว่างรอเลือดควรให้สารน้ำชนิดอื่นไปก่อน
เช่น normal saline
ปริมาณและอัตราการให้สารน้ำขึ้นอยู่กับความรุนแรงของ shock
Cardiogenic shock
สาเหตุ
การสูญเสียประสิทธิภาพในการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจที่พบบ่อย
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย (myocardial infarction)
การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจ (myocarditis)
กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง (cardiomyopathy)
การอุดกั้นการไหลของเลือด (obstructive condition)
สาเหตุอื่นๆ
โรคของลิ้นหัวใจที่ทำให้ช่องลิ้นหัวใจมีขนาดเล็กลง
ลิ้นหัวใจรั่ว เช่น aortic stenosis, mitral regurgitation,myocardial aneurysm
การเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
Distributive shock
ช็อกจากกระจายของเลือด
ช็อกจากระบบประสาท (neurogenic shock)
ช็อกจากการแพ้ (anaphylactic shock)
ช็อกจากภาวะติดเชื้อ (septic shock)
Septic shock
Bacteremia
คือ การตรวจพบเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลือด โดยไม่มีอาการแสดง
Systemic inflammatory response syndrome (SIRS)
ประกอบด้วยอาการต่อไปนี้ตั้งแต่ 2 อาการขึ้นไป
อุณหภูมิ > 38 ํc หรือ < 36 ํc
อัตราการเต้นของหัวใจ > 90 ครั้ง/นาที
อัตราการหายใจ > 20 ครั้ง/ นาที
WBC >12000 cell/cu.mm
Sepsis
การมีอาการหรือร่องรอยของการติดเชื้อร่วมกับอาการตอบสนองทาง systemic ต่อการติดเชื้อ
(มีภาวะSIRS ร่วมกับ infection)
Septic Shock
มีอาการแสดงของ tissue perfusion ไม่เพียงพอ
คือ ภาวะ sepsis ร่วมกับมีความดันโลหิตต่ำทั้งที่ได้รับสารน้ำชดเชยอย่างเพียงพอ
Multiple organ dysfunction syndrome (MODS)
คือกลุ่มอาการที่มีความดันโลหิตต่ำ การกำซาบเนื้อเยื่อต่ำ
ก่อให้เกิดพยาธิสภาพของการติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง
ทำให้อวัยวะหรือระบบต่างๆ ทำงานล้มเหลวมากกว่า 1 ระบบ
การพยาบาล
การให้O2 (Oxygen Administration) ต้องให้high-flow oxygen เร็วที่สุด
การช่วยระบายอากาศ (Ventilation)
การควบคุมภาวะเลือดออก (Hemorrhage Control)
การจัดท่า (Positioning) ควรให้ผู้ป่วยนอนยกปลายเท้าสูง 12 นิ้ว
การให้สารน้ำ (Fluid resuscitation)
การให้ยา
ภาวะหัวใจล้มเหลว
กลุ่มอาการที่เป็นผลมาจากความผิดปกติทางโครงสร้างหรือการทำงานของหัวใจ
ทำให้มีผลต่อ hemodynamic หรือหัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
1.Abnormal loading condition
เป็นภาระที่หัวใจต้องรับภาระหนักอย่างผิดปกติ
pressure load/ volume overload
2.Abnormal muscle function
เป็นภาวะที่กล้ามเนื้อหัวใจทำหน้าที่ผิดปกติ
cardiomyopathy
3.Limited ventricular filling
เป็นความจำกัดในการคลายตัวรับเลือดของ ventricle
hypertrophic obstructive cardiomyopathy
ชนิดของภาวะหัวใจล้มเหลว
ชนิดหัวใจล้มเหลวในการบีบตัว และหัวใจล้มเหลวในการคลายตัว
systolic heart failure
diastolic heart failure
ชนิดหัวใจล้มเหลวข้างซ้ายและข้างขวา
Left ventricle
Right ventricle failure
ชนิดหัวใจล้มเหลวเฉียบและเรื้อรัง
Acute & Chronic heart failure
การรักษา
แก้ไขสาเหตุโดยตรงที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
ขจัดสาเหตุส่งเสริม
เช่น ต่อมไธรอยด์เป็นพิษ โลหิตจาง การติดเชื้อ
ลดการทำงานของหัวใจลง
จำกัดกิจกรรมต่าง ๆ
ลด Preload หรือลดจำนวนเลือดที่ไหลกลับเข้าสู่หัวใจ
ลดการคั่งของน้ำและเกลือ
เพิ่มปริมาณเลือดออกจากหัวใจ
อาการแสดง
อาการของหัวใจห้องล่างซ้ายล้มเหลว
1) หายใจหอบเหนื่อย จากมีการคั่งของเลือดและน้ำที่ปอด
2) นอนราบไม่ได้ (Orthopnea) และนอนหลับไปแล้วหลายชั่วโมงแล้วตื่นขึ้นมานั่งหอบ
(Paroxysmal nocturnal dyspnea : PND)
3) การไอ เป็นอาการเด่นชัดที่พบบ่อย เกิดจากการมีเลือดและน้ำคั่งในปอด ฟังเสียงปอดจะมีเสียง Crepitation
4) อ่อนเพลีย (Fatigue) จากการที่เซลล์ของร่างกายได้รับเลือดและออกซิเจนลดลง
5) ความดันโลหิตลดลง จากการที่หัวใจบีบตัวไม่มีประสิทธิภาพ
อาการของหัวใจห้องล่างขวาล้มเหลว
1) การบวม (Edema) ตามส่วนต่างๆ เท้า ข้อเท้า ก้นกบ
การบวมอาจกดบุ๋ม(Pitting Edema)
2) ตับโต จากการที่มีเลือดคั่งในหลอดเลือดในตับ
3) ท้องมาน (Ascites)
4) หลอดเลือดดำที่คอโป่ง
5) อาการทางระบบทางเดินอาหาร
การพยาบาล
ลดความต้องการใช้ออกซิเจนของร่างกายให้หัวใจทำงานลดลง
นอนพักบนเตียง
ออกซิเจน
ให้นั่งหรือนอนศีรษะสูง
เพิ่มประสิทธิภาพในการบีบตัวของหัวใจ
ให้รับยากลุ่มไดจิตาลิส ตามแผนการรักษา และระวังพิษของยา
ดูแลให้ไดรับยาเพิ่มความดันโลหิต ยาขยายหลอดเลือด
ลดการคั่งของน้ำในร่างกาย
7.ให้ความรู้ในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการเกิดอาการซ้ำๆ
EKG Arrhythmia และ cardiac arrest
ขั้นตอนการ CPR
เรียกทีมมาช่วย
ทําการกดนวดหน้าอก
ให้ยา Adrenaline ตามแผนการรักษา
หาสาเหตุของหัวใจหยุดเต้น
PEA (Pulseless electrical activity)
EKG ชนิดนี้พบในอาการแสดงของผู้ผิดปกติ
เช่น ตาค้าง หมดสติเรียกไม่รู้ตัว คลําไม่พบชีพจร
การพยาบาล
ทำ CPR
Ventricular fibrillation
EKG ชนิดนี้มักมีสาเหตุจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
จึงไม่แรงพอที่จะมีชีพจร และความดันโลหิต
การพยาบาล
ทํา CPR ร่วมกับ Defibrillation
หัวใจเต้นช้า(Bradycardia)
หัวใจเต้นช้า น้อยกว่า 60 ครั้ง/นาที
ร่วมกับมีอาการหน้ามืดเป็นลม หมดสติไปชั่วขณะแต่ยังคลําชีพจรได้
การพยาบาล
EKG 12 lead และ ให้Atropine
นางสาวบุษชา วงศ์รัศมีธรรม
เลขที่ 43 รหัส 62111301045
รุ่น 37