Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ใหญ่ ระบบหัวใจและหลอดเลือด, นางสาวกนกวรรณ โภคา…
การพยาบาลผู้ใหญ่ ระบบหัวใจและหลอดเลือด
CHF (congestive heart failure)
ภาวะหัวใจล้มเหลว
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
Abnormal loading condition
หัวใจทำงานหนัก
Abnormal muscle function
กล้ามเนื้อหัวใจทำหน้าที่ผิดปกติ
Limited ventricular filling
ความจำกัดในการคลายตัวรับเลือดของ ventricle
ความรุนแรง
NYHA classification
l
ทำกิจกรรมได้ ไม่เหนื่อยหรือเจ็บหน้าอก
ll
ทำกิจกรรมแล้วเหนื่อยแต่พักแล้วหาย
lll
มีขีดจำกัดในการทำกิจกรรมชัดเจน สบายในขณะพัก
lV
ไม่สามารถทำกิจกรรมได้ เหนื่อยล้า ใจสั่น
AHA/ACC guidelines
A
ผู้ป่วยเสี่ยงสูง ครอบครัวมีประวัติ
B
มีโรคทางหัวใจเกี่ยวกับโครงสร้าง ไม่มีอาการ
C
มีโรคทางหัวใจเกี่ยวโครงสร้าง มีอาการ
D
ระยะสุดท้าย ไม่ตอบสนองการรักษา มีอาการขณะพัก
พยาธิ
หัวใจวายข้างซ้าย
หอบเหนื่อย นอนราบไม่ได้ ไอ อ่อนเพลีย BPลดลง
สมองขาดออกซิเจน เจ็บหน้าอก ปัสสาวะน้อย ขาดสารอาหาร ผิวซีดเขียว
หัวใจวายข้างขวา
บวม ตับโต ท้องมาน หลอดเลือดที่คอโป่งพอง จุกลิ้นปี่
การวินิจฉัย
ซักประวัติ ตรวจร่างกาย
หัวใจโต น้ำคั่งในปอด
ตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจเลือด โดยตรวจ serum BNP
ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
เพื่อหาภาวะแทรกซ้อนจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ
Echocaridiography
ดูค่า Eject fraction ที่บ่งบอกถึงหัวใจล้มเหลว
การรักษา
จำกัดกิจกรรม
ลด Preload
นั่งห้อยขาลงข้างเตียง หรือนอนหัวสูง
ให้ยาขับปัสสาวะ
ให้ยาขยายหลอดเลือดดำส่วนปลาย
ลด After load
ลดการคั่งของน้ำและเกลือ
เพิ่มปริมาณเลือดออกจากหัวใจ
ให้ยาเพิ่มแรงบีบหัวใจ กลุ่ม Digitalis
ถ้าหัวใจเต้นน้อยกว่า60ครั้งจะไม่ให้
ลดแรงต้านหลอดเลือดแดงส่วนปลาย
ให้ยากลุ่ม intropic drug
ยาต้านเบต้า
การพยาบาล
ให้นอนพัก นอนหัวสูง หรือนั่ง
ให้ออกซิเจน
เพิ่มประสิทธิภาพการบีบหัวใจโดยให้ยาตามแผน
ให้ยาเพิ่ม BP ยาขยายหลอดเลือด
วัดสัญญาณชีพ สังเกตุอาการเหนื่อยหอบ ชั่งน้ำหนักทุกวัน
ลดการคั่งของน้ำ
จำกัดน้ำ จำกัดเค็ม ให้ยาขับปัสสาวะ
ประคับประครองด้านจิตใจ
ให้ความรู้เพื่อป้องกันเกิดอาการซ้ำๆ
Shock
นิยาม
เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากการที่มีการลดลงของการไหลเวียนโลหิตสู่อวัยวะและเนื้อเยื่อส่วนปลาย ซึ่งก่อให้เกิดการเสียสมดุลระหว่างความต้องการออกซิเจนของเนื้อเยื่อส่วนปลายกับการนำออกซิเจนมาสู่เนื้อเยื่อนั้น ซึ่งจะก่อให้เกิดการสูญเสียหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ตามมาในที่สุดจนทำให้เกิดการเสียชีวิตได้
การวินิจฉัย
โดยใช้ค่าความดันโลหิตเฉลี่ยร่วมกับอาการแสดงของการพร่องการไหลเวียนของอวัยวะส่วนปลายร่วมด้วยเสมอ เช่น ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง ปริมาณปัสสาวะที่ลดลง
stage of shock
Non progressive stage
ได้แก่ ภาวะ shock ที่ร่างกายสามารถมีกลไกลปรับชดเชย(compensatory mechanism) ให้เข้าสู่ปกติโดยไม่ต้องการการรักษาจากภายนอกร่างกาย ภาวะนี้มีความรุนแรงน้อย ซึ่ง sympathetic reflexes และปัจจัยชดเชยอื่น ๆ ทำหน้าที่ ปรับภาวะสู่ปกติและป้องกันไม่ให้มีการดำเนินของ shock ต่อไปโดยพยายามที่จะปรับ CO และ arterial pressure ให้กลับสู่ปกติ
Progressive stage
ได้แก่ ภาวะที่ shock ดำเนินต่อไปและแย่ลงเรื่อย ๆ โดยมี feedback จากร่างกายเกิดขึ้น ซึ่งจะทำให้แย่ลงเรื่อย ๆ เป็น vicious cycle ในช่วงนี้ ร่างกายไม่สามารถปรับชดเชยได้เอง ต้องการการรักษาจากภายนอก
Irreversible stage
ได้แก่ ภาวะ shock ที่ดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ มีการล้มเหลวของหลาย ๆอวัยวะ จนไม่สามารถมีวิธีใด ๆ ที่จะแก้ไขหรือปรับให้สภาวะร่างกายกลับมาสู่ปกติได้
ประเภทของ shock
2.cardiogenic shock
สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของหัวใจหรือหลอดเลือดขนาดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นต้น
3.distributive shock
สาเหตุเกิดจากการลดลงของ systemic vascular resistance ประกอบไปวย septic shock, anaphylactic shock, neurogenic shock และ
hypoadrenal shock
1.Hypovolemic shock
สาเหตุเกิดจากการลดลงของ preload ซึ่งเกิดจากการสูญเสียเลือด หรือเสียสารน้ำในร่างกายไป เช่น เลือดออกในทางเดินอาหาร, ถ่ายเหลวอย่างรุนแรง หรือเสียเลือดจากอุบัติเหตุ
ลักษณะของ shock
cardiogenic shock
หลอดเลือดดำที่คอโป่ง (engorged neck vein) และ CVP สูง
แน่นหน้าอก , หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย
กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ซีด เหงื่อออก ตัวเย็น กระหายน้ำ อ่อนเพลีย อาเจียน จะเป็นลม
ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว
(BP<90/60 mmHg. Pluse pressure < 20 mmg. MAP < 60 mmHg.
neurogenic shock
กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ซีด อ่อนเพลีย อาเจียน จะเป็นลม ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย หายเร็วถี่ขึ้น
ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว
BP<90/60 mmHg. Pluse pressure<20 mmHg. MAP < 60 mmHg.
เป็นลม
มือเท้าอุ่น, ผิวหนังแดง
ความดันโลหิตต่ำ, ชีพจรเต้นช้า
Hypovolemic shock
กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ซีด ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย
หลอดเลือดดำที่คอโป่ง (engorged neck vein) และ CVP สูง
ระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว
(BP<90/60 mmHg. Pluse pressure<20 mmHg. MAP< 60 mmHg.
หากมีอาการช็อครุนแรงม่านตาไม่ตอบสนองต่อแสง
distributive shock
กระสับกระส่าย ชีพจรเบาเร็ว ซีด เหงื่อออก ตัวเย็น กระหายน้ำ
อ่อนเพลีย อาเจียน จะเป็นลม ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย หายใจเร็วถี่ขึ้น
ระบบไหลเวียน โลหิตล้มเหลว BP < 90/60 mmHg. Pluse pressure < 20 mmHg. MAP< 60 mmHg.
Acute Coronary Syndrome (ACS)
ปัจจัยเสี่ยง
ควบคุมไม่ได้
กรรมพันธุ์ เพศ อายุ
ควบคุมไม่ได้
ระดับไขมันในเลือด โรคอ้วน
สูบบุหรี่ ไม่ออกกำลังกาย
ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
Metabolic syndrome
อาการ
เจ็บหน้าอกจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปเลี้ยงหรือเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ
การรักษา
การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด (CABG)
การรักษาด้วยวิธีการทำบอลลูน ถ่างขยายหลอดเลือดและใส่ขดลวด (PCI)
เฝ้าระวังภาวะไตวายเฉียบพลัน
ประเมิน v/s
ประเมิน Bleeding บริเวณแผลผ่าตัด
ประเมิน 6P ทุก 4 ชั่วโมง
นอนราบห้ามยกศรีษะ 6-8 ชั่วโมง
ใช้เครื่องฉายเอ็กซเรย์ มีการใส่สายยางสวนซึ่งเป็นท่อกลวงยาวขนาดเล็ก เข้าไปยังหลอดเลือดที่ขาหนีบ หรือแขน
การรักษาด้วยยาละลายลิ่มเลือด (Anti-Thrombolytic)
ตรวจวันประเมิน v/s คลื่นหัวใจ ระดับ O2sat ทุก5นาที ระหว่างที่ได้รับยา
ประเมินความรู้สึกตัวเป็นระยะ
หมั่นสอบถามอาการเจ็บหน้าอก
หยุดยา Nitroglycerine ทุกชนิด
เริ่มให้ยา Strretokinase ผสมในสารน้ำ 100CC ด้วย infusion pump อัตราการไหล 100ml/hr
ซักประวัติก่อนให้ยา ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญาหาเกี่ยวกับสมอง
การรักษาเบื้องต้นโดย MONA
M = Morphine
O = O2 therapy (Oxygen therapy : เมื่อ O2 sat < 94%)
N = Nitrate (ข้อห้าม : มี BP<90/60 2.HR<50 หรือ >100)
A = ASA (Aspirin 160 หรือ 325 mg 1 เม็ด เคี้ยวทันที ห้ามให้ : ผู้ที่แพ้ยา ASA และเลือดออกในทางเดินอาหาร)
คำแนะนำการปฏิบัติตัว
หลีกเลี่ยง/งดบุหรี่
ทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ผัก ผลไม้
หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มประเภทมึนเมา
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ทานยาให้ครบถ้วน และต่อเนื่อง ไม่ควรหยุดยาเอง
หลีกเลี่ยงและผ่อนคลายความเครียด
ไม่ควรในเกิดอาการท้องผูก
พบแพทย์ตามกำหนดนัดทุกครั้งหรือถ้ามีอาการผิดปกติให้มาพบก่อน
นางสาวกนกวรรณ โภคา เลขที่2(62111301003)