Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะตกเลือดหลังคลอด (Pospartum Hemorrhaage) - Coggle Diagram
ภาวะตกเลือดหลังคลอด
(Pospartum Hemorrhaage)
📌ความหมาย
ภาวะตกเลือดหลังคลอด หมายถึง ภาวะที่มีการเสียเลือดหลังคลอดตั้งแต่ 500 มิลลิลิตรขึ้นไปหรือเมื่อมีการลดลงของความเข้มข้นของเลือด ร้อยละ 10 หรือมากกว่าร้อยละ 1 ของน้ำหนักตัว
📌ชนิดของการตกเลือดหลังคลอด
1.การตกเลือดหลังคลอดระยะแรก (Early or immediate postpartum hemorrhage) เป็นการตกเลือด
2.การตกเลือดหลังคลอดระยะหลัง (Late or Delay postpartum hemorrhage)
📌สาเหตุของการตกเลือดหลังคลอด
สาเหตุของการตกเลือด
หลังคลอดระยะแรก
การหดรัดตัวของมดลูก (Tone) คือ การที่มดลูกหดรัดตัวไม่ดี (uterine atony)
การฉีกขาดของช่องทางคลอด (Trauma) คือ การฉีกขาดของปากมดลูก ช่องคลอด ฝีเย็บและบริเวณรอบท่อปัสสาวะรวมถึงการบวมเลือดซึ่งมีการสะสมของเลือดในเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
รกหรือเศษรกค้างภายในโพรงมดลูก (Tissue) คือ การมีรกค้าง หรือมีเศษรกค้าง อาจมีปัจจัยเสริมให้มีเศษรกค้าง
ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด (Thrombin) เป็นสาเหตุการตกเลือดหลังคลอดทันที
สาเหตุของการตกเลือด
หลังคลอดระยะหลัง
1.มีเศษรกค้าง
2.การติดเชื้อในโพรงมดลูก
3.การอักเสบของเยื่อบุโพรงมดลูก
4.การอักเสบของปากมดลูก ช่องคลอดและอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกหรือแผลที่เย็บ
5.มะเร็งไข่ปลาอุก
📌อาการและอาการแสดง
ระยะแรก
การมีเลือดออกซึ่งอาจไหลออกมาให้เห็นทางช่องคลอดหรืออาจไม่มีเลือดออกมาให้เห็นแต่ขังอยู่ข้างใน
2.มีอาการของการเสียเลือด เช่น หน้าซีด ชีพจรเต้นเร็ว ระยะแรกจะหายใจเร็ว ต่อมาจะหายใจช้า ใจสั่น เหงื่อออกมาก อ่อนเพลี ความดันโลหิตต่ำ หมดสติและถึงแก่ชีวิตได้
3.คลำมดลูกพบว่าอยู่เหนือระดับสะดือหรือมีขนาดใหญ่กว่าปกติเนื่องจากมีเลือดขังอยู่ภายใน ในรายที่รุนแรงมากมดลูกอาจจะอ่อนปวกเปียก
ระยะหลัง
1.มีก้อนเลือด หรือเศษรกค้างอยู่ภายในโพรงมดลูกมักเกิดภายหลังคลอดประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
ภาวะติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
เลือดออกจากแผลภายในช่องคลอดมักเกิดจากการติดเชื้อบริเวณแผลภายในช่องคลอด
4.ภาวะมีเศษรกค้างในโพรงมดลูกร่วมกับการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
เลือดออกจากแผลของมดลูกภายหลังผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องและมะเร็งไข่ปลาอุกเป็นสาเหตุที่พบได้น้อยมาก มักเกิดภายหลังคลอด 4 สัปดาห์
📌การวินิจฉัย
1.ซักประวัติเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ การคลอด โรคประจำตัวอย่างละเอียด เช่น โรคโลหิตจาง ประเมินว่ามีความเสี่ยงต่อการตกเลือดหลังคลอดหรือไม่
2.การคาดคะเนหรือการตวงวัดจำนวนเลือดที่ออกจากช่องคลอดภายหลังทารกคลอด
3.ตรวจร่างกายดูอาการแสดงของการเสียเลือดเช่นสัญญาณชีพ ได้แก่ ชีพจรเบาและความดันโลหิตต่ำหรือหน้าซีดเหงื่อออกตัวเย็นใจสั่นมีอาการช็อกตรวจดูการหดรัดตัวของมดลูกตรวจดูการฉีกขาดของช่องทางคลอดและปากมดลูกตรวจดูบางส่วนของรกที่อาจจะค้างอยู่ตรวจสอบการแข็งตัวของเลือด
📌การป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
🤰🏻
ระยะก่อนคลอด
การซักประวัติอย่างละเอียดเพื่อหาปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดการตกเลือดหลังคลอด
การตรวจร่างกาย ค้นหาภาวะโลหิตจางรวมทั้งแก้ไขและให้ธาตุเหล็กเสริมกับผู้ป่วยที่มาฝากครรภ์ทุกราย
ระยะคลอด
ดูแลไม่ให้เกิดการคลอดยาวนาน
ระวังการให้ยาแก้ปวดในขนาดที่มากเกินไปเพราะอาจเกิดผลต่อการหดรัดตัวของมดลูกทำคลอดในระยะที่ 2 และระยะที่ 3
หลีกเลี่ยงการทำสูติศาสตร์หัตถการอย่างยาก
ตรวจรกและช่องทางคลอดอย่างละเอียด
ระยะหลังคลอด
ดูแลให้กระเพาะปัสสาวะว่าง โดยกระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะภายใน 2 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
ในรายที่ได้รับยากระตุ้นให้เกิดการเจ็บครรภ์ อาจให้ Oxytocin ต่อภายหลังการคลอดอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
กระตุ้นให้บุตรดูดนมมารดาทันทีหลังคลอด เพื่อกระตุ้นให้ฮอร์โมน Oxytocinหลั่งมากขึ้นเพื่อให้มดลูกหดรัดตัวดี
📌การรักษา
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
(Uterine atony)
คลึงมดลูก
ให้ยากระตุ้น
Oxytocin
Methergin
Cytotec
สวนปัสสาวะ
ผ่ามดลูก
bimanual uterine compression
เศษรกค้าง
ให้Oxytocinแล้วทำการขูดมดลูกด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากผนังมดลูกมีลักษณะนุ่ม และทะลุได้ง่าย
รกฝังตัวแน่นผิดปกติ
ให้เลือดทดแทนร่วมกับการตัดมดลูกอย่างรวดเร็ว
การฉีดขาดทางช่องคลอด
ทำการเย็บซ่อม
ก้อนเลือดขังในช่องคลอด
กรีดที่ช่องคลอดแล้วเอาเลือดและก้อนเลือดออก
รายที่มีการติดเชื้อภายในโพรงมดลูก
พิจารณาให้ยาช่วยการหดรัดตัวของมดลูกเพื่อช่วยให้มดลูกหดรัดตัวดี ร่วมกับให้ยาปฏิชีวนะ
📌การพยาบาล
1.คลึงมดลูกจนหดรัดตัวกลมแข็ง และไล่ก้อนเลือดที่อาจค้างอยู่ในมดลูกเพื่อให้มดลูกหดรัดตัวได้ดีขึ้น
ดูแลกระเพาะปัสสาวะให้ว่าง โดยการสวนคาสายปัสสาวะไว้เพื่อไม่ให้ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก และบันทึกปริมาณปัสสาวะทุก 1 ชั่วโมง
ดูแลให้ได้รับยาเพิ่มการหดรัดตัวของมดลูกและสารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา
4.หากมีการเสียเลือดรีบรายงานแพทย์ ดูแลให้ได้รับเลือด (PRC) ทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา เพื่อเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดแดงและจัดให้ทีมคลึงมดลูกตลอดเวลาเวลา พร้อมวางกระเป๋าน้ำแข็งบนหน้าท้อง
5.สังเกตลักษณะและจำนวนเลือดที่ออกทางช่องคลอด เพื่อประเมินความรุนแรงของการตกเลือด
ติดตามสัญญาณชีพทุก 15 นาที พร้อมประเมินการหดรัดตัวของมดลูกและการเสียเลือดเพื่อประเมินภาวะ Shock เช่น ชีพจรเบาเร็ว ความดันโลหิตต่ำลง เหงื่อออก ตัวเย็น
7.เจาะ Hct เพื่อประเมินภาวะซีด