Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

บทที่ 4 การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางโลหิตวิทยาและนีโอพลาสม - Coggle…

- - - - ภาวะที่มีการทำลายเมด็เลือดแดงมากขึ้น
      - การเสียเลือด
      - ภาวะที่มีการสร้างเม็ดเลอืดแดงลดลง
    - - อาการและอาการแสดงขึ้นอยู่กับความรุนแรงและระยะเวลาของการเกิด ผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางอย่างช้าๆจะมี
        อาการน้อยกว่าคนที่มีภาวะโลหิตจางที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
    - - รักษาตามสาเหตุของภาวะโลหิตจาง แต่ละสาเหตุจะมียาและวิธีการรักษาเฉพาะที่แตกต่างกัน
      - การให้เลือดจะให้เฉพาะรายที่จำเป็น โดยหลีกเลี่ยงอันตรายจากการให้เลือด
  - - - เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร้างเส้นโพลีเพปไทด์ที่ประกอบกันเป็นฮีโมโกลบิน ยีนที่ผิดปกตินี้
        ถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ autosomal recessive
    - - Hb Bart’shydrops fetalis หรือ Homozygous α-thalassemia
      - Homozygous β-thalassemia (β-thal /β-thal)
      - Hb H disease (α-thal 1 /α-thal 2 หรือ - - / -α, or α-thal 1 / Hb CS หรือ - - /αCSα)
    - - การให้เลือด
      - การให้ยาขับเหล็ก
      - ให้ยาบำรุง
      - การผ่าตัดม้าม
  - - - เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร้างปัจจัยการแข็งตัวของเลือด ชนิดที่พบบ่อยในเด็กไทย ได้แก่
        hemophilia A ,B
    - - จ้ำเลือดใหญ่ๆ ตามลำตัวและแขนขา
      - เลือดออกในข้อและในกล้ามเนื้อ เมื่อเริ่มหัดคลาน ตั้งไข่ หรือเดิน ข้อที่มักมีเลือดออกมากที่สุด
      - เลือดออกเมื่อฟันน้ำนมหลุด
      - เลือดออกที่อวัยวะอื่นๆ
    - - การดูแลอย่างองค์รวม
      - การรักษาเฉพาะที่
      - การรักษาทดแทนด้วยแฟคเตอร์เข้มข้นหรือส่วนประกอบเลือด
      - การรักษาด้วย DDAVP
      - การดูแลสุขภาพฟัน
- - - - ไม่ทราบแน่นอน แต่พบว่าภาวะเหล่านี้มีอุบัติการณ์ทำให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้แก่ พันธุกรรม การ
        ได้รับรังสี เคมี หรือไวรัสบางชนิด การติดเชื้อ
    - - ตับ ม้าม ต่อมน้ำเหลืองโต
      - ปวดศีรษะ อาเจียน ตามัว ถ้าเซลล์มะเร็งลุกลามเข้าเนื้อสมอง จะมาด้วยอาการ อ่อนแรง ชัก
      - อัณฑะโต แข็งแต่ไม่ปวด
        อาจพบไตโตกว่าปกติ
      - อาเจียนหรือถ่ายเป็นเลือด แผลในปาก เหงือกบวม อาจพบฝีที่กัน มีก้อนที่คอหรือในท้อง
      - ปวดกระดูก ปวดข้อจากเซลล์มะเร็งลุกลามเข้าไปที่ เยื่อหุ้มกระดูก
    - - การให้ยาเคมีบำบัด
      - การใช้รังสีรักษา
      - การรักษาด้วยการระตุ้นภูมิคุ้มกัน
      - การปลูกถ่ายไขกระดูกหรือเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือด
      - การรักษาตามอาการ เช่น การให้เลือด การรักษาภาวะแทรกซ้อนจากยา หรือรังสีรักษา
  - - - เชื้อไวรัส โดยเฉพาะ Ebstein-Bar virus (EBV)
      - การได้รับยากดภูมิคุ้มกันเป็นระยะเวลานานๆ
      - สิ่งแวดล้อม
    - - ต่อมน้ำเหลืองโต ร้อยละ 90 ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณ Supraclavicle ร้อยละ 60-80
        ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร
      - กล้ามเนื้ออ่อนแรง (motor weakness) การรับ สัมผัสลดลง (sensory loss) มีปัสสาวะคั่ง ท้องผูก
      - เบื่ออาหารอ่อนเพลียน้ำหนัก ลดลงร้อยละ 10 ระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา มีใช้ไม่ทราบสาเหตุ ไข้สูง
    - - ขึ้นกับระยะของโรคและอายุของเด็ก การรักษาที่ได้ผลค่อนข้างดี คือ รังสีรักษาและการให้เคมีบำบัด
        แต่การให้รังสีรักษาในเด็กที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ จะทำให้มีผลต่อการเจริญเติบโตของกระดูก เกิดความพิการ
  - - - ไม่ทราบแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่พบมากในวัยเด็ก จึงเชื่อว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อชั้น
        mesoderm ผิดปกติตั้งแต่ระยะที่ทารกเป็นตัวอ่อน (embryo)
    - - คลำพบก้อนที่ท้อง เป็นอาการที่พบมากที่สุด ก้อนเรียบ กดไม่เจ็บ
      - ปัสสาวะเป็นเลือดโดยไม่มีอาการปวด
      - ปวดท้อง มีไข้ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน (กรณีมีเลือดออกในก้อนมะเร็ง)
      - ความดันโลหิตสูง
    - - การผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออก
      - รังสีรักษา ที่บริเวณตำแหน่งไต
      - การให้เคมีบำบัด
  - - - ไม่ทราบแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่พบมากในวัยเด็ก และมีรายงานพบว่ามีผู้ป่ วยหลายคนในครอบครัว
        เดียวกัน จึงมีข้อสันนิษฐานว่าอาจมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
    - - มีก้อนในช่องท้อง หรือส่วนอื่นๆ
      - มีไข้น้ำหนักลด อ่อนเพลีย รับประทานได้น้อย ถ่ายอุจจาระเหลวบ่อยครั้ง
      - ต่อมหมวกไตถูกกด
    - - การผ่าตัด ทำในระยะทื่ 1 ,2
      - การให้รังสีรักษา
      - การให้ยาเคมีบำบัด ให้ในระยะที่ 2 ขึ้นไป