Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 4 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางโลหิตวิทยาและนีโิพลาสมา, image, image,…
บทที่ 4 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหาทางโลหิตวิทยาและนีโิพลาสมา
ภาวะโลหิตจาง (Anemia)
ภาวะซีด
ภาวะที่มีการสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง
ภาวะที่มีการทาลายเม็ดเลือดแดงมากขึ้น (hemolysis)
3.การเสียเลือด
อาการและอาการแสดง
อาการเฉพาะ ได้แก่ ผิวหนังซีด จะเห็นได้ชัดบริเวณริมฝีปาก เยื่อบุตา เล็บมือ ฝ่ามือ เหงือก ใบหูผู้ป่วยที่
มีตัวเหลืองร่วมด้วยหรือซีดไม่มากจะเห็นไม่ชัด
อาการที่เกิดจากเนื้อเยื่อระบบต่างๆได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
การรักษา
รักษาตามสาเหตุของภาวะโลหิตจาง แต่ละสาเหตุจะมียาและวิธีการรักษาเฉพาะที่แตกต่างกัน การวิเคราะห์เพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริงจึงสาคัญ
การให้เลือดจะให้เฉพาะรายที่จาเป็น โดยหลีกเลี่ยงอันตรายจากการให้เลือด จึงมักจะให้เม็ดเลือดแดงเข้มข้น (packed red cell) มากกว่าการให้เลือดครบส่วน (whole blood)
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลให้พักผ่อนและกาหนดกิจกรรมที่ผู้ป่วยทาได้ตามความรุนแรงของภาวะซีด เพื่อลดความ
ต้องการการใช้ออกซิเจนในร่างกาย
ดูแลให้ได้รับอาหารที่จาเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง เช่น ธาตุเหล็ก โปรตีน วิตามินซี โฟลิอามีน และเป็นอาหารอ่อน ย่อยง่าย
ดูแลให้ได้รับยาครบถ้วนตามแผนการรักษา
วัดและบันทึกสัณญาณชีพ เพื่อประเมินภาวะพร่องออกซิเจน
โรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย (Thalassemia)
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร้างเส้นโพลีเพปไทด์ที่ประกอบกันเป็นฮีโมโกลบิน ยีนที่ผิดปกตินี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมแบบ autosomal recessive
ชนิดของธาลัสซีเมีย
Hb Bart’shydrops fetalis หรือ Homozygous α-thalassemia
Homozygous β-thalassemia
Hb H disease
การวินิจฉัยโรค
การตรวจร่างกาย อาการที่มักตรวจพบ ได้แก่ อาการซีด ตับ ม้ามโต เหลือง ใบหน้าแบบ thalassemia
การรักษา
การให้เลือด
1.1 ผู้ป่วยธาลัสซีเมียชนิดไม่พึ่งพาเลือด (Non transfusion dependent thalassemia:NTDT)
1.2 ผู้ป่วยธาลัสซีเมียชนิดพึ่งพาเลือด (Transfusion dependent thalassemia :TDT
การให้ยาขับเหล็ก เพื่อป้องกันและลดภาวะเหล็กเกินในเลือด
ให้ยาบารุง ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง คือ กรดโฟลิค (folic acid) หรือ โฟเลต 1 mg./วัน หรือให้วิตามินรวมเสริม
การผ่าตัดม้าม (spleenectomy)
ข้อบ่งชี้ในการตัดม้าม
ม้ามโตมากจนเกิดอาการจากการกดเบียดอวัยวะหรือเสี่ยงต่อการแตกของม้าม
มีความต้องการเลือดมากกว่า 200-220 มล./กก./ปี
มีเม็ดเลือดขาวและหรือเกล็ดเลือดต่า
โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia)
สาเหตุ
เกิดจากความผิดปกติของยีนที่ควบคุมการสร้างปัจจัยการแข็งตัวของเลือด ชนิดที่พบบ่อยในเด็กไทย ได้แก่ hemophilia A ,B
ความรุนแรงของโรคฮีโมฟีเลีย
ชนิดรุนแรงมาก มีระดับ แฟคเตอร์ 8 หรือ 9 น้อยกว่า1% ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออกในข้อหรือในกล้ามเนื้อเกิดขึ้นได้เองโดยไม่ได้รับอุบัติเหตุ
ชนิดรุนแรงปานกลาง มีระดับ แฟคเตอร์ 8 หรือ 9 1-5% ผู้ป่วยจะมีอาการเลือดออกในข้อหรือในกล้ามเนื้อ เมื่อได้รับอุบัติเหตุเพียงเล็กน้อย
ชนิดรุนแรงน้อย มีระดับ แฟคเตอร์ 8 หรือ 9 >5-40% ผู้ป่วยมักจะมีเลือดออกมากเมื่อได้รับภยันตรายที่รุนแรง หรือได้รับการผ่าตัดหรือถอนฟัน
อาการและอาการแสดง
จ้าเลือดใหญ่ๆ ตามลาตัวและแขนขา (large ecchymosis)
เลือดออกในข้อและในกล้ามเนื้อ เมื่อเริ่มหัดคลาน ตั้งไข่ หรือเดิน
เลือดออกเมื่อฟันน้านมหลุด
เลือดออกที่อวัยวะอื่นๆ เช่น ในทางเดินอาหาร สมอง ซึ่งพบได้ไม่มาก
การวินิจฉัย
การตรวจร่างกาย ได้แก่ การมีเลือดออกจานวนมากเมื่อได้รับการกระทบกระแทกหรือมีบาดแผลเพียงเล็กน้อย จ้าเลือดใหญ่ๆ ตามลาตัวและแขนขา การมีเลือดออกในข้อซึ่งจะตรวจพบข้อบวม อาการปวดข้อ
การรักษา
การดูแลอย่างองค์รวม
การรักษาเฉพาะที่
การรักษาทดแทนด้วยแฟคเตอร์เข้มข้นหรือส่วนประกอบเลือด
การรักษาด้วย DDAVP (1-deamino 8D-arginine vasopressin) หรือ desmopressin
5.การดูแลสุขภาพฟัน
กิจกรรมการพยาบาล
ให้การพยาบาลด้วยความระมัดระวัง นุ่มนวล
หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทาให้เกิดอุบัติเหตุหรือเลือดออก
ถ้ามีเลือดออกในปาก ให้แปรงฟันเบาๆ ด้วยแปรงฟันที่อ่อนนุ่ม หรืองดการแปรงฟัน โดยใช้ผ้าสะอาด หรือสาลีชุบน้ายาทาความสะอาดปากและฟันแทนการแปรงฟัน
ไม่ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อหรือใต้ผิวหนัง
สังเกต บันทึก และรายงานแพทย์เกี่
การพยาบาลในการดูแลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางนีโอพลาสม
สาเหตุ
ไม่ทราบแน่นอน แต่พบว่าภาวะเหล่านี้มีอุบัติการณ์ทาให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือดขาว ได้แก่ พันธุกรรม การได้รับรังสี เคมี หรือไวรัสบางชนิด การติดเชื้อ
การจาแนกชนิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาว
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (acute leukemia)
1.1 มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดลิมโฟบลาสต์ (acute lymphoblastic leukemid : ALL)
1 2 มะเร็งเม็ดเลือดขาวที่ไม่ใช่ชนิดลิมโฟบลาสต์ (acute non lymphoblastic leukemia : ANLL
มะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง (chronic leukemia)
อาการและการแสดง
อาการที่เกิดจากไขกระดูกถูกกด จะมีอาการแสดงของเม็ดเลือดแดงต่า
อาการและอาการแสดงที่เกิดจากเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวลุกลามไปในอวัยวะอื่นๆ
การวินิจฉัยโรค
การตรวจร่างกาย เพื่อสังเกตภาวะซีด ภาวะเลือดออกที่ผิวหนัง ต่อมน้าเหลืองโต ตับม้ามโต การทางานหัวใจ อัตราชีพจร ความดันโลหิต
การรักษา
การให้ยาเคมีบาบัด (chemotherapy)
การใช้รังสีรักษา (radiotherapy)
การรักษาด้วยการระตุ้นภูมิคุ้มกัน มีการใช้ยากลุ่ม G-CSF (granulocyte colony stimulating factor)
. การปลูกถ่ายไขกระดูกหรือเซลล์ต้นกาเนิดเม็ดเลือด (bone marrow transplantation : BMT หรือ stem cell transplantation : SCT)
การรักษาตามอาการ เช่น การให้เลือด การรักษาภาวะแทรกซ้อนจากยา หรือรังสีรักษา
กิจกรรมการพยาบาล
ป้องกันการมีเลือดออก
สังเกตการมีเลือดออกตามอวัยวะต่างๆ เช่น จุดเลือดออก จ้าเลือด เลือดกาเดา เลือดออกตามไรฟัน ให้ทาการห้ามเลือด ถ้าเลือดออกจากอวัยวะภายใน มีอาการปวดท้อง ปวดศีรษะ ซึมลง สับสน ตาพร่ามัว
ติดตามผลการตรวจเลือดทางห้องปฏิบัติการ จานวนฮีโมโกลบิน ฮีมาโตคริตและ เกล็ดเลือด ถ้าจานวนเกล็ดเลือดต่าต้องระมัดระวังการมีเลือดออก
ดูแลให้ได้รับเลือด เกล็ดเลือดตามแผนการรักษา
มะเร็งต่อมน้าเหลือง (Lymphoma)
สาเหตุ
เชื้อไวรัส โดยเฉพาะ Ebstein-Bar virus (EBV)
การได้รับยากดภูมิคุ้มกันเป็นระยะเวลานานๆ
สิ่งแวดล้อม
อาการและอาการแสดง
ต่อมน้าเหลืองโต ร้อยละ 90 ต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณ Supraclavicle ร้อยละ 60-80 ต่อมน้าเหลืองบริเวณรักแร้ และขาพบน้อย กดไม่เจ็บ ไม่มีการอักเสบ ถ้าก้อนโตจะกดเจ็บ ต่อมน้าเหลืองโตทีละติอมและเป็นข้างเดียว
การวินิจฉัยโรค
จากการซักประวัติและการตรวจร่างกาย
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การรักษา
การรักษาขึ้นกับระยะของโรคและอายุของเด็ก การรักษาที่ได้ผลค่อนข้างดี คือ รังสีรักษาและการให้เคมีบาบัด แต่การให้รังสีรักษาในเด็กที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
Non-Hodgkin’s lymphoma (NHL)
อาการและอาการแสดง
ส่วนมากมักเริ่มเป็นที่บริเวณช่องท้อง คอ กดไม่เจ็บ ต่อมน้าเหลืองบริเวณ clavicle, Supraclavicle โตโดยไม่ทราบสาเหตุ ก้อนจะโตเร็วใน 1-2 สัปดาห์ ก้อนจะแข็ง ส่วนมากลักษณะอาการจะสัมพันธ์กับชนิดของ NHL
มะเร็งของไต (Wilms’tumor, Nephroblastoma)
สาเหตุ
ไม่ทราบแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่พบมากในวัยเด็ก จึงเชื่อว่าอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อชั้น mesoderm ผิดปกติตั้งแต่ระยะที่ทารกเป็นตัวอ่อน (embryo)
อาการและอาการแสดง
คลาพบก้อนที่ท้อง เป็นอาการที่พบมากที่สุด ก้อนเรียบ กดไม่เจ็บ กดเจ็บนั่นคือ
ปัสสาวะเป็นเลือดโดยไม่มีอาการปวด
ซีด
ปวดท้อง มีไข้ เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน (กรณีมีเลือดออกในก้อนมะเร็ง)
ความดันโลหิตสูง
การวินิจฉัยโรค
การซักประวัติ อายุของเด็ก การพบก้อนในท้อง อาการที่พบร่วมด้วย เช่น ปัสสาวะเป็นเลือดสด น้าหนักลด เบื่ออาหาร ซีด คลื่นไส้ ตรวจร่างกายคลาไม่ให้ก้อนแตกเพราะจะทาให้มะเร็งกระจาย
การรักษา
การผ่าตัดเอาก้อนเนื้องอกออก
รังสีรักษา ที่บริเวณตาแหน่งไต
การให้เคมีบาบัด
การพยาบาล
การพยาบาลระยะก่อนผ่าตัด
-ห้ามคลาท้องเด็ก โดยเขียนป้าย “ห้ามคลาท้อง” แขวนไว้หน้าเตียงเด็ก พร้อมทั้งบอกและอธิบายบิดามารดาให้ทราบถึงเหตุผลเพราะจะทาให้แตกและมะเร็งจะแพร่กระจายไปได้
-ประเมินการทางานของไต ด้วยการสังเกตลักษณะและปริมาณปัสสาวะ ปริมาณน้าเข้าออก
-ประเมินสัญญาณชีพ โดยเฉพาะความดันเลือด เด็กอาจมีความดันเลือดสูง
การพยาบาลหลังผ่าตัด
-ประเมินการทางานของระบบทางเดินอาหาร เช่น ฟังเสียงการเคลื่อนไหวของลาไส้ ประเมินอาการท้องอืด อาการอาเจียน
-หลีกเลี่ยงการออกกาลังกายหนัก ระวังเรื่องการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ เนื่องจาเหลือไตข้างเดียว
-ดูแลประคับประคองสภาพจิตใจแก่บิดา มารดา พยาบาลควรสร้างความเข้าใจให้บิดา มารดาได้ทราบผลของการผ่าตัด
มะเร็งของเซลล์ประสาท (Neuroblastoma)
สาเหตุ
ไม่ทราบแน่นอน แต่เนื่องจากเป็นเนื้องอกที่พบมากในวัยเด็ก และมีรายงานพบว่ามีผู้ป่วยหลายคนในครอบครัวเดียวกัน จึงมีข้อสันนิษฐานว่าอาจมีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม
อาการและอาการแสดง
มีก้อนในช่องท้อง หรือส่วนอื่นๆ เช่น ในช่องอก คอ ก้อนบริเวณหลังลูกตา ทาให้ดันลูกตาโปนออกมา รอยจ้าเขียวรอบดวงตา (Raccoon eye
อาการทั่วไป เช่น มีไข้ น้าหนักลด อ่อนเพลีย รับประทานได้น้อย ถ่ายอุจจาระเหลวบ่อยครั้ง
ต่อมหมวกไตถูกกด ก้อนเนื้องอกปล่อยสาร Catecholamine คือ epinephrine, norepinephrine ออกมามาก
การวินิจฉัยโรค
เรียกว่า rosette formation
ตรวจปัสสาวะ 24 ชั่วโมง หา VMA และ HAV และระดับ VMA /creatinine จะพบ VMA และ HAV สูง เกิดจากการย่อยสลาย Catecholamine
ตรวจ ferritin ในเลือด ดูการพยากรณ์โรค ถ้าสูงจะมีการการพยากรณ์โรคไม่ดี
การรักษา
-การผ่าตัด ทาในระยะทื่ 1 ,2
-การให้รังสีรักษา
-การให้ยาเคมีบาบัด ให้ในระยะที่ 2 ขึ้นไป
การพยาบาล
ให้การพยาบาลตามอาการและอาการแสดง ซึ่งขึ้นกับตาแหน่งเนื้องอก ประเมินความดันเลือดเป็นระยะๆ หรือการดูแลผิวหนังให้แห้งเพราะเด็กจะมีเหงื่ออกมาก การพยาบาลอื่นๆจะเป็นการดูแลเด็กที่ได้รับการรักษาโดยการผ่าตัด รังสีรักษา และหรือเคมีบาบัด เป็นมะเร็งชนิดที่การพยากรณ์โรคไม่ดี