Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
STEMI - Coggle Diagram
STEMI
ยาที่ใช้ในการรักษา
ยาแอสไพริน
ใช้เพื่อรักษาอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในเบื้องต้น จะช่วยลดลิ่มเลือดและทำให้เลือดสามารถไหลเวียนภายในหลอดเลือดที่แคบได้
-
-
-
-
-
-
-
การรักษา
-
-
-
-
-
การรักษาอื่นๆ
เพื่อลดอาการจากภาวะหัวใจวายเช่น การให้ยาขับปัสสาวะการใส่Intra Aortic Balloon Counterpulsation(IABP)เพื่อพยุงการไหลเวียนของเลือด รักษาสมดุลของoxygen supply และ oxygen demand ของกล้ามเนื้อหัวใจ
การวินิจฉัย
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram : ECG)
เป็นการวัดคลื่นไฟฟ้า อัตราและจังหวะการเต้นของหัวใจว่ามีความผิดปกติหรือไม่
การใส่สายสวนหลอดเลือดหัวใจและการฉีดสีหลอดเลือด (Coronary Angiography) เป็นการตรวจดูความผิดปกติของหัวใจขาดเลือด ด้วยการฉีดสารทึบเข้าไปในหลอดเลือดหัวใจ จากนั้นจะทำการเอกซเรย์ เพื่อหาตำแหน่งที่มีการอุดกั้นของหลอดเลือด
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (Echocardiogram)
ตรวจหาความผิดปกติของหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อน โดยจะส่งคลื่นเสียงเข้าไปกระทบหัวใจออกมาเป็นภาพ จะช่วยให้เห็นความเสียหายของหัวใจที่เกิดจากการขาดเลือดได้
-
การตรวจเลือดหาเอ็นไซม์ที่แสดงถึงการที่มีกล้ามเนื้อหัวใจตาย
เช่นTroponin-T,Troponin-I,CK-MB เพราะเมื่อเกิดภาวะหัวใจขาดเลือด จะทำให้มีโปรตีนสิ่งแปลกปลอมจากเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจที่ตาย รั่วเข้าสู่กระแสเลือดมากกว่าปกติ
การพยาบาล
ด้านร่างกาย
:
- ดูแลให้ผู้ป่วยนอนพักบนเตียงงดกิจกรรมต่างๆทั้งหมดเพื่อลดการใช้ออกซิเจนของกล้ามเน้ือหัวใจ เพื่อป้องกัน การเกิดภาวะกล้ามเน้ือหัวใจขาดเลือดเพิ่มมากข้ึน
- ดูแลให้ออกซิเจนพร้อมทั้งวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดทุก1ชั่วโมงและทุกคร้ัง ที่มีการเปลี่ยนแปลง
- วัดและบันทึกสัญญาณชีพ ทุก 1⁄2 - 1 ชั่วโมงและทุกคร้ังท่ีมีอาการเจ็บหน้าอกหรือมีอาการเปลี่ยนแปลง
- ติดตามเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจอย่างใกล้ชิดและบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 12 ลีด
- สังเกตสอบถามลักษณะอาการเจ็บหน้าอก ตำแหน่งความรุนแรงระยะเวลาและปัจจัยที่ส่งเสริมอาการเจ็บหน้าอก บันทึกทึกและรายงานแพทย์
- ดูแลให้ยาบรรเทาอาการเจ็บหน้าอก ยาละลายลิ่มเลือด ยาต้านเกล็ดเลือด ยาต้านการแข็งตัวของเลือด ยาปรับการทำงานของหัวใจและการหมุนเวียนนเลือด ยาควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ ตามแผนการรักษา สังเกตอาการข้างเคียงของยาอย่างใกล้ชิด
- สังเกตอาการ อาการแสดงของภาวะแทรกซ้อนของภาวะกล้ามเน้ือหัวใจขาดเลือดได้อย่างทันท่วงที บันทึกและรายงานแพทย์
- เตรียมยาและอุปกรณ์การช่วยชีวิต ให้พร้อมใช้ได้ทันที
- ดูแลให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เพียงพอ จัดสิ่งแวดล้อมให้เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน
10.ส่งเสริมใหผู้ป่วยมีการขับถ่ายอุจจาระให้เป็นปกติโดยให้รับประทานผักผลไม้กระตุ้นให้มีกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกายอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายอุจจาระ ดูแลให้ยาระบายตามแผนการรักษา
- ดูแลให้ไ้ด้สารน้ำและสารอาหารตามความเหมาะสมกับความต้องการของร่างกายและสภาวะของโรค พร้อมทั้งบันทึกปริมาณน้ำเข้า-ออกจากร่างกายตามแผนการรักษา
- เจาะเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการตามแผนการรักษา เช่น ตรวจเอ็นไซม์จากกล้ามเนื้อหัวใจ ตรวจค่าการแข็งตัวของเลือด ตรวจเคมีคลินิก
ด้านจิตวิญญาณ
1.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและญาติประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือลัทธิความเช่ือ เช่น ไหว้พระ ทำบุญใส่บาตร สวดมนต์ และอำนวยความสะดวกให้อก่ผู้ป่วยและญาติ
2.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยตัดสินใจในการดูแลรักษาพยาบาลโดยยืนยันกับผู้ป่วยและญาติว่าการตัดสินใจที่ผู้ป่วยและญาติได้ทำไปนั้นถูกต้องและทีมสุขภาพมีความเห็นตรงกันกับผู้ป่วยและญาติ
ด้านสังคม
- สนบัสนุนให้ผู้ป่วยและญาติได้มีโอกาสพูดคุยเปิดโอกาสให้เข้าเยี่ยมตามเวลาและยืดหยุ่นเวลาตามความเหมาะสม
- เข้าไปพูดคุยกับผู้ป่วยเพื่อสอบถามอาการเปลี่ยนยนแปลงและทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าไม่ถูกทอดทิ้ง
ด้านจิตใจ
- ให้การต้อนรับผู้ป่วยและญาติด้วยความเป็นกันเองความเป็นมิตรและมีความสม่ำเสมอ ในการปฏิสัมพันธ์ต่อผู้ป่วยและญาติ
-
- อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติทราบทุกคร้ังก่อนให้การรักษาพยาบาล
- เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและญาติอธิบายความรู้สึกและซักถามข้อสงสัยพร้อมท้ังอธิบายให้เข้าใจและยอมรับสภาพความเจ็บป่วย
- ประเมินความต้องการของผู้ป่วยและญาติพร้อมท้ังตอบสนองตามความเหมาะสม
-
-
EKG : Electrocardiogram
-
STEMI
-
พยาธิสภาพของโรค
กลุ่มสภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Acute coronary syndrome,ACS) เป็นสภาวะของหลอดเลือดหัวใจท่ีมีภาวะเสื่อมสภาพหรือแข็งตัว (Atherosclerosis) แล้วเกิดมีการฉีกขาดหรือปริแตกที่ด้านในของผนังหลอดเลือดส่วนท่ีเสื่อมสภาพอย่างเฉียบพลัน (Plaque rupture, disruption) เกิด Raw surface ขึ้นที่ผนังด้านในของหลอดเลือด เกล็ดเลือดจะเกาะกลุ่ม (Platelet aggregation) อย่างรวดเร็วตรงบริเวณที่มีการปริแตกหรือฉีกขาด หลังจากนั้นจะมีการกระตุ้นให้เกิดลิ่มเลือด (Thrombus formation) อย่างรวดเร็วในบริเวณดังกล่าว หากลิ่มเลือดอุดกั้นบางส่วน (Partial occlusion) ทําให้ขาดเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจบางส่วน เกิดอาการเจ็บหน้าอกไม่คงท่ี (Unstable angina) โดยยังไม่มีกล้ามเน้ือหัวใจตายถ้าลิ่มเลือดเกิดอุดตัน โดยสมบูรณ์ (Complete occlussion) จะมีผลทําให้เกิดโรคกล้ามเน้ือหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction, AMI)
คำนิยาม
STEMI (ST-segment elevation myocardial)
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย ชนิดหลอดเลือดหัวใจอุดตันเฉียบพลัน (STEMI) เป็นภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันที่พบการยกตัวผิดปกติ
ช่วง ST จัดเป็นประเภทที่รุนแรงที่สุด มักแสดงถึงการอุดตันของหลอดเลือดโคโรนารีใหญ่ เกิดการอุดตันทั้งหมด ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่มีเลือดไปเลี้ยง กล้ามเนื้อหัวใจจะตายลงอย่างรวดเร็ว ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่รับเลือดอยู่เกิดการขาดเลือดแบบเฉียบพลัน
อาการแสดง
เจ็บอกหรือแน่นหน้าอกคล้ายมีของหนักมาทับอก ซึ่งอาจร้าวไปไหล่ แขน หลัง คอหรือกราม บ่อยครั้งเจ็บบริเวณกลางอกหรืออกด้านซ้าย มีอาการเจ็บไม่เกิน15-30นาที เมื่ออมยาอากรปวดจะบรรเทาลง
อาจรู้สึกคล้ายอาการแสบร้อนกลางอก คลื่นไส้อาเจียน รู้สึกหมดสติ หน้ามืด เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ เหงื่อแตก หรือรู้สึกล้า มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ หายใจไม่ออก นอนราบไม่ได้เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจเสียหายมากทำให้ไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงได้อย่างเพียงพอหรือเรียกว่า หัวใจวาย
สาเหตุ
โรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือดเฉียบพลันเกิดจากมีการอุดกั้นหรือตีบตันของหลอดเลือด Coronary ทำให้เลือดหยุดหรือไหลไปเลี้ยงหัวใจไม่พอ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการหลุดของคราบไขมันที่ผนังหลอดเลือดอุดหลอดเลือด และมีสาเหตุอื่นๆที่ทำให้เกิดการอุดหลอดเลือด Coronary คือ มีความพิการตั้งแต่กำเนิด(Congenital abnormalities) , หลอดเลือดอักเสบ ,มีลิ่มเลือดไปอุดหลอดเลือด(Coronary emboli)
-