Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะชักจากไข้สูง
…
ภาวะชักจากไข้สูง
(Febrile convulsion)
การรักษา
- ถ้าพบเด็กขณะมีอาการชัก ให้ถอดเสื้อผ้าเด็กออกแล้วใช้ผ้าชุบน้ำก๊อกโปะทั้งตัว เปลี่ยนผ้าชุบน้ำใหม่ทุก 2 นาที ถ้าชักนานเกิน 15 นาที ให้ไดอะซีแพม ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือเหน็บทางทวาร ถ้าไม่หยุดชัก หรือมีอาการซึมไม่ค่อยรู้สึกตัวหรืออาเจียนมาก ควรส่งโรงพยาบาลด่วน
- ในกรณีที่เด็กหยุดชักแล้ว ควรค้นหาสาเหตุของอาการชัก และให้การรักษาตามสาเหตุที่พบ ควรส่งเด็กไปโรงพยาบาลโดยเร็ว ถ้าเด็กมีอาการชักเป็นครั้งแรก เด็กมีอายุต่ำกว่า 6 เดือน หรือมากกว่า 5 ปี หรือมีอาการชักจากไข้ชนิดซับซ้อน
สาเหตุ
อาการชักที่เกิดขึ้นขณะมีไข้ เนื่องจากเป็นโรคติดเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่ง โดยไม่รวมถึงการติดเชื้อของสมองและเนื้อเยื่อหุ้มสมอง
-
-
ส่วนใหญ่มักมีไข้จากโรคติดเชื้อไวรัส เช่น ไข้หวัด หัด ไข้ผื่นกุหลาบในทารก ท้องเดินจากไวรัส เป็นต้น นอกจากนี้ยงเกิดจากบิดชิเกลลา ทอนซิลอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลัน หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน และปอดอักเสบ
อาการ
เด็กจะมีไข้ ร่วมกับอาการของโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น เป็นหวัด เจ็บคอ ไอ ท้องเิดน เป็นบิด เป็นต้น แล้วต่อมามีอาการชัก(ส่วนใหญ่จะชักแบบกระตุกทั้งตัว) ตาค้าง กัดฟัน กัดลิ้น นานครั้งละ 2-3 นาที (มักไม่เกิน 5-15 นาที) โดยมากจะชักเพียง 1 ครั้ง หลังจากนั้นจะไม่ชักซ้ำอีก
ไข้มากกว่าหรือเท่ากับ 39 องศาเซลเซียส
-
-
พยาธิ
ภาวะไข้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเมตาบอลิซึมของเซลล์ประสาทามอง ทำให้เซลล์ประสาทไวต่อการเกิดอาการชักได้มากขึ้น มีลักษณะชักเกร็งหรือเกร็งร่วมกับกระตุกไปทั้งตัว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอายุและการเจริญเติบโตของสมองด้วย ซึ่งอายุมากขึ้นมีโอกาสเกิดไข้ได้น้อยลง ทำให้เกิดอาการชักได้น้อยลง
การวินิจฉัย
ประเมินจากอายุ ประวัติการชัก พัฒนาการ และประวัติการชักจากไข้ในครอบครัว ที่สำคัญ คือ ต้องแยก ภาวะอื่นๆ โดยเฉพาะการติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลางออกให้ได้ก่อน
1.การติดเชื้อของระบบประสาท (เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ) เป็นภาวะที่ต้องแยกให้ได้ร้อยละ 40 ของเด้กอายุน้อยกว่า 1 ปี ที่เป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบไม่มีอาการแสดงของการระคายเยื่อหุ้มสมอง ดังนั้นต้องอาศัยประวัติการตรวจร่างกายอื่นๆ ประกอบ เช่น ระดับความรู้สึกตัว ความโป่งตึงของกระหม่อม หากแยกไม่ได้ ต้องพิสูจน์โดยการตรวจน้ำไขสันหลัง
2.อาการหนาวสั่น (Shaking chill) เป็นกลไกการตอบสนองเมื่อมีไข้ตามปกติ แต่บ่อยครั้งผู้ปกครองเข้าใจผิดคิดว่าเด็กชัก ลักษณะการสั่นจะเป็นจังหวะ (rhythmic oscillation) ตามข้อต่อต่างๆ ไม่มีการกระตุกที่ใบหน้าหรือกล้ามเนื้อที่ใช้ในการหายใจ อาการสั่นเป็นจังหวะทั้งตัว โดยที่ระดับความรู้สึกตัวไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้แยกจากอาการชักได้
3.อาการชักในเด็กที่มีโรคลมชักอยู่เดิม โดยครั้งนี้มีภาวะไข้เป็นปัจจัยเหนี่ยวนำให้เกิดอาการชักได้ง่ายกว่าภาวะปกติ
การปฐมพยาบาล
1.จับเด็กนอนหงาย โดยตะแคงศรีษะไปด้านใดด้านหนึ่ง หรือจับเด็กนอนตะแคง พร้อมกับเชยคางขึ้นเล็กน้อย ควรให้นอนบนพื้นที่โล่งและปลอดภัย ระวังอย่าให้พลัดตกหรือกระทบกระแทกถูกสิ่งกีดขวาง
-
-
4.เฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด สังเกตลักาณะการชักและจับระยะเวลาของการชัก เพื่อแจ้งให้แพทย์หรือผู้ที่ให้การรักษาทราบในภายหลัง
- ถ้ามียาเหน็บแก้ชักที่แพทย์สั่งให้สำรองไว้ใช้ ให้รีบทำการเหน็บทวารเด็กตามคำแนะนำของแพทย์
- อย่าผูกหรือมัดตัวเด็ก หรือใช้แรงฝืนจำกัดการเคลื่อนไหวของเด็ก
-
- อย่าให้เด็กกินอะไรระหว่างชัก หรือหลังชักใหม่ๆ อาจทำให้เด็กสำลักได้
-
-
อ้างอิง
สุรเกียจ อาชานานุภาพ.(2551).ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2 : 360 โรคกับการดูแลรักษาและการป้องกัน.พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน.
ประยงค์ เวชวนิชสนอง. (2559). กุมารเวชศาตร์(Pediatrics).พิมพ์ครั้งที่ 3. สงขลา:หน่วยผลิตตำรา คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
-
-
-
-
-
-