Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 66 ปี - Coggle Diagram

- - - - การรับประทานอาหารที่มีสารไนโตรซามีน
        ได้แก่ อาหารประเภทหมักดอง แหนม ไส้กรอก เนื้อเค็มตากแห้ง ที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน
      - การดื่มสุราและสูบบุหรี่
      - การอักเสบระคายเคืองเรือรังของหลอดอาหาร
        เช่น การรับประทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มที่ร้อนจัดเป็นประจำ หรือมีภาวะกรดไหลย้อนเรื้อรัง
  - - - การผ่าตัดใช้ในการรักษามะเร็งหลอดอาหารระยะแรก โดยการผ่าตัดเอาส่วนที่เป็นมะเร็งออก แต่ในรายที่มะเร็งลุกลามมากจนไม่สามารถผ่าตัดออกได้ อาจใช้การผ่าตัดเล็กทางกระเพาะอาหารหรือลำไส้เล็ก เพื่อให้อาหารทางสายยางแทน
    - - รังสีรักษา มักใช้ร่วมกับการให้ยาเคมีบำบัดในช่วงก่อนผ่าตัด รวมทั้งหลังผ่าตัด เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งบริเวณรอยโรคให้หมดไป ในระยะลุกลามการฉายรังสีจะช่วยให้หลอดอาหารเปิดขยายขึ้นได้ชั่วคราว หรือใช้สำหรับบรรเทาอาการแทรกซ้อน เช่น อาการปวดจากการลุกลามไปที่กระดูกหรือปอด ช่วยทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่ดีขึ้น
    - - เคมีบำบัด ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ไม่สามารถรับผ่าตัดได้ อาจทำให้ก้อนมะเร็งมีขนาดเล็กลงจนสามารถผ่าตัดได้ หรืออาจให้หลังผ่าตัดแล้ว เพื่อลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ และทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตยืนยาวขึ้น
    - - เป็นท่อขนาดเล็ก มีความยืดหยุ่น โค้งงอได้ มีกล้องและดวงไฟขนาดเล็กมากติดอยู่ที่ปลายท่อ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.8 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 100-120 เซนติเมตร ใส่ผ่านทางปาก
        
        การตรวจดูเยื่อบุภายในหลอดอาหาร ช่องท้องและลำไส้เล็กส่วนต้น
        
        การส่องกล้องเพื่อตรวจวินิจฉัยระบบทางเดินอาหาร เป็นการตรวจเพื่อหาความผิดปกติโดยการใช้กล้องส่องที่มีลักษณะยาว เล็กและโค้งงอ มีกล้องวิดีโอขนาดเล็กและหลอดไฟอยู่ส่วนปลาย ซึ่งจะมีการบันทึกวิดีโอและปรากฏบนหน้าจอ ทำการตรวจผนังของทางเดินอาหารตั้งแต่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ไปจนถึงลำไส้ การส่องกล้องทางเดินอาหารสามารถแบ่งการตรวจเป็น 3 แบบ ตามอวัยวะส่วนที่ตรวจ ดังนี้
        
        การส่องกล้องเพื่อตรวจหลอดอาหาร กระเพาะอาหาร และสำไส้เล็กส่วนต้น (Gastroscopy : EGD)
        
        การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy)
        
        การส่องกล้องตรวจท่อทางเดินน้ำดีและตับอ่อน (Endoscopic Retrograde Cholangiopancreatography : ERCP)
      - อาการและความผิดปกติ
        ที่ตรวจพบ
        
        กลืนลำบาก ปวดท้อง เลือดออกในทางเดินอาหาร
        
        โรคแผลในกระเพาะอาหาร และ เนื้องอก
      - ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
        
        มีอาการเจ็บคอ ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือปวดท้อง โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง หรือน้อยกว่านั้น
        
        หากมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการปวดมากบริเวณลำคอ หน้าอก ท้อง หายใจลำบาก มีไข้สูง ควรรีบมาพบแพทย์
      - ผลการตรวจ
        
        ผลการตรวจที่เป็นปกติ
        
        มีสีชมพูออกเหลือง มองเห็นหลอดเลือดชัดเจน มีการเต้นของชีพจรที่ผนังหลอดอาหาร
        
        ผลการตรวจที่ผิดปกติ
        
        พบรอยหลอดเลือดขด พบมีการฉีกขาดบริเวณรอยต่อระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร
        
        Total gastrectomy with esophagojejunostomy
        
        การผ่าตัดแบบ gastrojejunostomyหรือ Billroth II เป็นการผ่าตัดโดยนำเอากระเพาะอาหารส่วนล่างออกและนำกระเพาะอาหารส่วนบนไปเย็บต่อกับลำไส้เล็กส่วนกลาง โดยการผ่าตัดชนิดนี้จะทำในผู้ที่เป็นที่เป็นกระเพาะทะลุ, ลำไส้เล็กอุดตัน หรือในรายที่มีอาหารคั่งค้างในกระเพาะอาหาร โดยการผ่าตัดนั้นแพทย์จะผ่าในแนวกลางลำตัวตั้งแต่ระดับเหนือสะดือจนถึงกระดูกหน้าอกรอยผ่าตัดในแนวกลางร่างกาย
        
        7 more items...
        
        การดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัด Gastrojejunostomy
        
        4 more items...
        
        Billroth I (gastroduodenostomy) เป็นการตัดส่วนปลายของกระเพาะอาหาร รวมทั้ง antrum ออก แล้วเอากระเพาะอาหารที่เหลือไปต่อกับ duodenum
- - - - ปัจจัย
        
        อายุที่เพิ่มมากขึ้น เพิ่มโอกาสเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารมากขึ้น
        
        เพศชายมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารสูงกว่าเพศหญิงถึง 2 เท่า
        
        ผู้มีประวัติบุคคลใกล้ชิดในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
        
        การติดเชื้อ Pylori แบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของแผลในกระเพาะอาหารและสร้างภาวะอักเสบ หากปล่อยทิ้งไว้เรื้อรังอาจนำไปสู่โรคมะเร็ง
      - อาการ
        
        ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรืออาหารไม่ย่อยเป็นประจำ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร แสบร้อนบริเวณหน้าอก หากปล่อยไว้โรคอาจรุนแรงขึ้น
      - Esophagogastroduodenoscopy (EGD) with Biopsy (การส่องกล้องการส่องกล้องทางเดินอาหารส่วนบนร่วมกับการตัดชิ้นเนื้อเพื่อส่งตรวจ)
        
        Gastric cancer
        
        Total gastrectomy with esophagojejunostomy
        
        สำหรับก้อนมะเร็งที่อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหารโดยจะเลาะเอาต่อมน้ำเหลืองรอบๆออกด้วย
        
        ภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
        
        ภาวะDumpingsyndrome
        
        Early Dumping syndrome:เกิดภายหลังรับประทานทาน อาหาร ประมาณ 5-30 นาที
        
        1 more item...
        
        Late Dumping syndrome:เกิดภายหลังรับประทานทาน อาหาร ประมาณ 1-3 ชั่วโมง เกิดจากอาหารที่มีความเข้มข้นสูง ลงมาอยู่ในลำไส้ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
        
        1 more item...
        
        เมื่อมีการทํา Bypass หรือ Resection ของStomach ทําให้ Pyloric Function Impairment เป็นผลให้อาหารที่ทานเข้าไป (Hyperosmolar Chyme)ผ่านลงสู่ลําไส้เล็กส่วนต้นเร็วขึ้น เป็นผลให้มี Shift ของ Extracellular Fluid เข้าสู่ Intraluminal of Intestineอย่างรวดเรว็ ทําให้มีการลดลงของ Intravascular Volume จนร่างกายตอบสนองดวยการหลั่งสารสื่อสารทางประสาท ได้แก่Serotonin, Neurotensin และ Vasoactive Intestinal Polypeptide ทําให้เกิดอาการทาง Vasomotor ได้เช่น
        
        6 more items...
        
        ภาวะแทรกซ้อนระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ Atelectasis, Pneumonia, Airway obstruction และหนองในช่องเยื่อหุ้มปอด เนื่องจากการเจ็บปวดแผลหลังผ่าตัด ทำให้ผู้ป่วยไอและขับเสมหะไม่สะดวก
        
        การตีบของรอยต่อหลอดอาหารและกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยจะรู้สึกยังมีอาการกลืนลำบากหลังผ่าตัด
        
        การรั่วของน้ำเหลืองเข้าไปในทรวงอก ซึ่งจะสังเกตได้จากปริมาณของสารน้ำจากท่อระบายทรวงอก ที่มีลักษณะสีเหลืองใสออกมาเป็นปริมาณมากกว่าปกติติดต่อกันหลายวัน และจะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น เมื่อผู้ป่วยรับประทานอาหาร
      - การกระจายของมะเร็งกระเพาะอาหาร
        
        ผ่านทางเนื้อเยื่อ โดยเซลล์มะเร็งนั้นจะผ่านไปได้ยังเนื้อเยื่อปกติโดยรอบ โดยลุกลามลงไปตามชั้นเยื่อบุกระเพาะอาหาร แล้วทะลุชั้น serosa ออกไปยังอวัยวะข้างเคียง เช่น ตับ ตับอ่อน ม้าม
        
        ผ่านทางระบบน้ำเหลือง เซลล์มะเร็งสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆของร่างกาย โดยผ่านทางท่อน้ำเหลือง และกลุ่มน้ำเหลืองรอบกระเพาะอาหารตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น
        
        ผ่านทางเลือดโดยเซลล์มะเร็งสามารถผ่านเข้าสู่เส้นเลือดดำ เส้นเลือดฝอยและแพร่ไปยังอวัยวะส่วนอื่นๆเช่น ปอด ตับ กระดูกต่อมน้ำเหลืองบริเวณไหปลาร้า
        
        ผ่านทางช่องท้อง โดยอาจทำให้เกิดน้ำในช่องท้อง หรือการกระจายของมะเร็งไปทั่วๆเยื่อบุช่องท้อง