Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
…
พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2546
เป็นปีที่ 58 ในรัชกาลปัจจุบัน
-
-
-
-
หมวด 5
การรักษาราชการแทน
มาตรา 56
การเป็นผู้รักษาราชการแทนตามพระราชบัญญัตินี้ไม่กระทบกระเทือน อํานาจของ นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงหรือผู้ดํารงตําแหน่งเทียบเท่าปลัดกระทรวง เลขาธิการหรือผู้ดํารงตําแหน่งเทียบเท่าเลขาธิการ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาที่จะแต่งตั้งข้าราชการอื่น เป็นผู้รักษาราชการแทนตามอํานาจหน้าที่ที่มีอยู่ตามกฎหมาย
-
มาตรา 54
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองผู้อำนวยการสถานศึกษารักษาราชการแทน ถ้ามีรองผู้อำนวยการสถานศึกษาหลายคน ให้ผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่งตั้งคนใดคนหนึ่ง รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาแต่งตั้งข้าราชการในสถานศึกษาคนใด คนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้
มาตรา 53
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษารักษาราชการแทน ถ้ามีหลายคน ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่งตั้งคนใดคนหนึ่งรักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรองผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานแต่งตั้งข้าราชการในเขตพื้นที่การศึกษาซึ่งดํารงตําแหน่งเทียบเท่ารองผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือดํารงตําแหน่งไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการสถานศึกษาหรือตําแหน่งเทียบเท่าขึ้นไปคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้
มาตรา 52
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งผู้อำนวยการสํานัก หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองผู้อำนวยการสํานักเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีหลายคนให้ปลัดกระทรวงหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี แต่งตั้งคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรองผู้อำนวยการสํานัก หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ปลัดกระทรวงหรือเลขาธิการแต่งตั้งข้าราชการในสํานักซึ่งดํารงตําแหน่งเทียบเท่ารองผู้อำนวยการสํานักคนหนึ่ง เป็นผู้รักษาราชการแทน ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรองผู้อำนวยการสํานัก หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้ปลัดกระทรวงหรือเลขาธิการ แล้วแต่กรณี แต่งตั้งข้าราชการในสํานัก บริหารงานหรือสํานักซึ่ง
ดํารงตําแหน่งเทียบเท่ารองผู้อำนวยการสํานักเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้
มาตรา 51
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งเลขาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองเลขาธิการเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองเลขาธิการหลายคน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรองเลขาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งข้าราชการในสํานักงานซึ่งดํารงตําแหน่งเทียบเท่ารองเลขาธิการ หรือข้าราชการตําแหน่งเลขาธิการ
สํานักหรือ ผู้อำนวยการสํานักหรือเทียบเท่าขึ้นไปคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอาจแต่งตั้งข้าราชการคนหนึ่งซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ำกว่า รองเลขาธิการหรือเทียบเท่ามาเป็นผู้รักษาราชการแทนก็ได้
มาตรา 50
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งปลัดกระทรวง หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองปลัดกระทรวงเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรองปลัดกระทรวงหลายคน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรองปลัดกระทรวง หรือมี แต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงซึ่งดํารงตําแหน่งไม่ต่ำกว่าเลขาธิการหรือเทียบเท่า เป็นผู้รักษาราชการแทน
มาตรา 49
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีหลายคนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตั้งข้าราชการในกระทรวงคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน
มาตรา 48
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้ามีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการหลายคนให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน
บทเฉพาะกาล
มาตรา 64
ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ อัตรากําลัง ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการ
การศึกษาประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสํานักงานศึกษาธิการอําเภอ ในสังกัดสํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรา 65
ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของทบวงมหาวิทยาลัย สํานักงานสภาสถาบันราชภัฏ กระทรวศึกษาธิการ และกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวกับราชการของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และบรรดาอํานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ทบวงมหาวิทยาลัย สํานักงานสภาสถาบันราชภัฏ กระทรวงศึกษาธิการ และกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ในส่วนที่เกี่ยวกับราชการของสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
มาตรา 66
ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ อัตรากําลัง ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณของทบวงมหาวิทยาลัย สํานักงานสภาสถาบันราชภัฏ กระทรวงศึกษาธิการ และ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
มาตรา 67
ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน และบรรดาอํานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
มาตรา 68
ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ อัตรากําลัง ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณของกรมอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
มาตรา 69
ให้หน่วยงานทางการศึกษาที่จัดการศึกษาในลักษณะโรงเรียน วิทยาลัย หรือสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่ในสังกัดกรมสามัญศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาประถมศึกษาแห่งชาติ เป็นสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการบริหารและการจัดการในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาที่สถานศึกษานั้นตั้งอยู่ เว้นแต่ศูนย์การศึกษาพิเศษสําหรับคนพิการและโรงเรียนสําหรับคนพิการโดยเฉพาะ
มาตรา 70
ในวาระเริ่มแรกระหว่างที่ยังมิได้มีการกําหนดตําแหน่งหรือวิทยฐานะ ของข้าราชการที่โอนมาสังกัด
สํานักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามมาตรา 58,60,62,64,66,68 และ 82 วรรคหนึ่ง ให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการพลเรือนในมหาวิทยาลัย และข้าราชการครู ยังคง
ดํารงตําแหน่งเดิม โดยให้มีสิทธิได้รับเงินเดือน เงินประจําตําแหน่ง ตลอดจนมีสิทธิอื่น ๆ ตามที่เคยมีสิทธิอยู่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการกําหนดตําแหน่งหรือวิทยฐานะใหม่
มาตรา 71
ให้บรรดาอํานาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย และอํานาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี ในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติ ราชการของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติตามที่มีกฎหมายกําหนดไว้ เป็นอํานาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 72
ให้บรรดาอํานาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย และ อํานาจหน้าที่ของปลัดทบวงมหาวิทยาลัย ในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติราชการของทบวงมหาวิทยาลัย ตามที่มีกฎหมายกําหนดไว้ เป็นอํานาจหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี
มาตรา 73
บรรดาบทกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคําสั่งเกี่ยวกับ การศึกษาที่ใช้บังคับอยู่ในวัน
ก่อนที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และไม่ขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติของพระราชบัญญัตินี้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไป จนกว่าจะได้มีการดําเนินการปรับปรุงแก้ไขตามหลักเกณฑ์ที่ กําหนดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ใช้บังคับ
มาตรา 74
ให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ปลัดทบวงมหาวิทยาลัย ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้
ใช้บังคับ รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ให้เลขาธิการคณะกรรมการ
การศึกษาแห่งชาติ ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ รักษาราชการแทน
เลขาธิการสภาการศึกษา
มาตรา 75
ในวาระเริ่มแรก เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประกาศ ในราชกิจจานุเบกษากําหนดเขตพื้นที่
การศึกษาแล้ว ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตามจํานวนเขตพื้นที่การศึกษาที่ประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา และให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการและรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามมาตรา 37 ไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
มาตรา 76
ในวาระเริ่มแรกในระหว่างที่ยังมิได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสภาการศึกษาและคณะกรรมการ
การอุดมศึกษา ให้คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ตามกฎหมายว่าด้วย คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ และคณะกรรมการทบวงมหาวิทยาลัย ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบการปฏิบัติราชการของทบวงมหาวิทยาลัย แล้วแต่กรณี ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ปฏิบัติหน้าที่สภาและคณะกรรมการดังกล่าว ทั้งนี้ จนกว่าจะได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสภาการศึกษาและ
คณะกรรมการการอุดมศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 59
ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่ที่เกี่ยวกับราชการของสํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด และสํานักงานศึกษาธิการ อําเภอ และบรรดา อํานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสํานักงานศึกษาธิการอําเภอ ไปเป็นของสํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ
มาตรา 60
ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ อัตรากําลัง ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณของ
สํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ ยกเว้นสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสํานักงานศึกษาธิการอําเภอ ไปเป็นของสํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ
มาตรา 80
ในระหว่างที่ยังมิได้ดําเนินการให้มี อ.ก.พ. ของสํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ อ.ก.พ. สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา อ.ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อ.ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และ อ.ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่ทําหน้าที่ อ.ก.พ. กระทรวงในแต่ละส่วนราชการ ให้องค์กรต่อไปนี้ปฏิบัติหน้าที่บริหารงานบุคคลเป็นการชั่วคราวสําหรับข้าราชการแต่ละสังกัด
- ให้ อ.ก.พ. กระทรวงศึกษาธิการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ อ.ก.พ.
สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ สําหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดสํานักงานรัฐมนตรีและสํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ ตามพระราชบัญญัตินี้ ในฐานะ อ.ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาสําหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดสํานักงานสพฐ. และในฐานะ อ.ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สําหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
- ให้ อ.ก.พ. ทบวงมหาวิทยาลัย ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ อ.ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาสําหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
- ให้ อ.ก.พ. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ อ.ก.พ. สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สําหรับข้าราชการพลเรือนสามัญในสังกัด
สํานักงาน เลขาธิการสภาการศึกษา
มาตรา 79
ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับ อ.ก.ค. สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ อ.ก.ค. กรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ และ อ.ก.ค. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการไปเป็นของ อ.ก.ค. สํานักงานปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 78
ให้ข้าราชการครูในสังกัดสํานักงานสภาสถาบันราชภัฏ สถาบัน เทคโนโลยีราชมงคล และสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน กรมอาชีวศึกษา อยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงเป็นข้าราชการครู
ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูต่อไปจนกว่าจะมีการกําหนดตําแหน่งหรือวิทยฐานะตาม
กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา
มาตรา 77
ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับ อ.ก.พ. สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ อ.ก.พ. กรมการศึกษานอกโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ อ.ก.พ. สํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ และ อ.ก.พ. สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการครู กระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นของ อ.ก.พ.
ของสํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ที่จัดตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 63
ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสํานักงานศึกษาธิการอําเภอ ในสังกัดสํานักงาน ปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ และบรรดาอํานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดและสํานักงานศึกษาธิการอําเภอ ในสังกัดสํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ ไปเป็นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
มาตรา 62
ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ อัตรากําลัง ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สํานักนายกรัฐมนตรี ไปเป็นของสํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
มาตรา 61
ให้โอนบรรดาอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของสํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ
สํานักนายกรัฐมนตรี และบรรดาอํานาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ สํานักนายกรัฐมนตรี ไปเป็นของสํานักงานเลขาธิการ สภาการศึกษา
มาตรา 58
ให้โอนบรรดากิจการ ทรัพย์สิน หนี้ อัตรากําลัง ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณของสํานักงานเลขานุการรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ และสํานักงานเลขานุการรัฐมนตรี ทบวงมหาวิทยาลัย ไปเป็นของสํานักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการที่จัดตั้งขึ้นตาม
พระราชบัญญัตินี้
มาตรา 57
ให้โอนอํานาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการของสํานักงานเลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ และสํานักงานเลขานุการรัฐมนตรี ทบวงมหาวิทยาลัย ไปเป็นของ
สํานักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 82
ให้สถานศึกษาที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นสถานศึกษาในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย และให้สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งสถานศึกษานั้นโดยเฉพาะ และมีฐานะเป็นกรมตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มีฐานะเป็นสถานศึกษาที่เป็นนิติบุคคลในสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาโดยให้สถานศึกษาดังกล่าวยังคงมีอํานาจในการบริหารบรรดา กิจการ ทรัพย์สิน หนี้ ข้าราชการ ลูกจ้าง และเงินงบประมาณ ตลอดจนบังคับบัญชาข้าราชการและ ลูกจ้างของสถานศึกษานั้น ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้และตามกฎหมายจัดตั้งสถานศึกษานั้น ตลอดทั้งกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป
มาตรา 81
ให้ดําเนินการออกกฎกระทรวงตามมาตรา 11,14 วรรคห้า มาตรา 15 วรรคสี่ มาตรา 16 วรรคสี่ มาตรา 17 วรรคห้า มาตรา 34 วรรคสี่ มาตรา 36 วรรคสาม มาตรา 38 วรรคสองและวรรคสาม และมาตรา 34 วรรคสาม ภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 8
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอํานาจ
ออกกฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศเพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้รวมทั้งให้มี
อํานาจตีความและวินิจฉัยชี้ขาดปัญหาอันเกี่ยวกับการปฏิบัติการอํานาจหน้าที่ของ
ผู้ดํารงตําแหน่ง หรือหน่วยงานต่าง ๆ ตามที่กําหนดไว้ในบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวง ระเบียบ และประกาศนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ให้ใช้บังคับได้
มาตรา 4
ให้นำกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดินและกฎหมายว่าด้วยการศึกษาชาติมาใช้บังคับแก่กระทรวงศึกษาธิการโดยอนุโลม เว้นแต่ในพระราชบัญญัตินี้จะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
-
มาตรา 6
- ระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
- ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
- ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
มาตรา 7
การกําหนดตําแหน่งและอัตราเงินเดือนของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ให้คํานึงถึงคุณวุฒิ ประสบการณ์ มาตรฐานวิชาชีพ ลักษณะหน้าที่ความรับผิดชอบ และคุณภาพของงาน แล้วแต่กรณี การบรรจุและการแต่งตั้งบุคคลให้ดํารงตําแหน่งหน้าที่ราชการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
มาตรา 3
- พระราชบัญญัติระเบียบการปฏิบัติราชการของทบวงมหาวิทยาลัย พ.ศ. 2520
- พระราชบัญญัติระเบียบการปฏิบัติราชการของทบวงมหาวิทยาลัยฉบับที่ 2 พ.ศ. 2537
- พระราชบัญญัติคณะกรรมการประถมศึกษา พ.ศ. 2523
- พระราชบัญญัติคณะกรรมการการประถมศึกษาฉบับที่ 2 พ.ศ. 2535
- พระราชบัญญัติคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2535
-
มาตรา 5
กระทรวงศึกษาธิการมีอำนาจหน้าที่ตามกฏหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติและกฎหมายว่าด้วยการปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม
-
นางสาวชฎาพร พละศักดิ์ รหัสนักศีกษา 610113115038
นางสาวปานดาว ศรีบุรี รหัสนักศึกษา 610113115045
ชั้นปีที่ 4 หมู่ 2 สาขาวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์