Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กลุ่มที่ 2 (เลขที่ 10-18) การแยกแก๊สธรรมชาติและผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ,…
กลุ่มที่ 2 (เลขที่ 10-18) การแยกแก๊สธรรมชาติและผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ
ผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ
คาร์บอนไดออกไซด์ CO2 ⛽️
ประโยชน์
‼️
ผลิตน้ำแข็งแห้ง🧊
น้ำยาดับเพลิง🧯
สารตั้งต้นในการทำฝนเทียม🌧
สร้างหมอกควันจำลองในสถานการณ์ต่างๆ🌫
ส่วนประกอบในอุตสาหกรรมผลิตเครื่องดื่มอัดแก๊ส🥤
เลขที่ 18 ผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ (ไนโตรเจน N2 ) - ใช้ทำแอมโมเนียและปุ๋ย
ผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ เลขที่14
โพรเพน(C3H8)-ถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงในการทำอาหารหลากหลาย
: :
เลขที่ 12 ผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ
อีเทน:C₂H₆
ใช้ผลิตเอทีลีน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นสำหรับเม็ดพลาสติก โพลิเอทีลีน (PE) เพื่อใช้ผลิตถุงพลาสติก หลอดยาสีฟัน โพลิโพรพิลีน (PP) เช่น ยางในห้องเครื่องรถยนต์ หม้อแบตเตอรี่ กาว สารเพิ่มคุณภาพน้ำมันเครื่อง
ใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรม
อีเทนสามารถใช้เป็นสารทำความเย็นในระบบทำความเย็นแบบ cryogenic
คุณสมบัติ
ก๊าซไม่มีสีไม่มีสี ETHANE ติดไฟได้ง่าย ไอระเหยหนักกว่าอากาศ เอธานสามารถทำให้สึกกร่อนได้ด้วยการแทนที่อากาศ เมื่อได้รับความร้อนสูงหรือเกิดความร้อนสูงภาชนะบรรจุอาจแตกออกอย่างรุนแรงและจรวด การสัมผัสกับของเหลวอาจทำให้เกิดอาการบวมเป็นน้ำเหลือง
อันตราย
อันตรายต่อสุขภาพ
เมื่อความเข้มข้นไอสูงสามารถทำหน้าที่เป็นภาวะขาดอากาศหายใจได้ง่าย ของเหลวทำให้เกิดอาการบวมเป็นน้ำเหลืองรุนแรง
อันตรายจากไฟไหม้
เปราะบางมาก จะติดไฟได้ง่ายโดยประกายไฟหรือเปลวไฟ จะเกิดเป็นส่วนผสมที่ระเบิดได้กับอากาศ ไอระเหยจากแก๊สเหลวจะหนักกว่าอากาศและกระจายไปตามพื้นดิน ข้อควรระวัง: ไฮโดรเจน (UN1049), ดิวเทอเรียม (UN1957), ไฮโดรเจน, ของเหลวเย็น (UN1966) และ METHANE (UN1971) มีน้ำหนักเบากว่าอากาศและจะเพิ่มขึ้น ไฮโดรเจนและไฟดิวเทอเรสยากต่อการตรวจจับเนื่องจากเปลวไฟลุกโพลง ใช้วิธีอื่นในการตรวจจับ (กล้องความร้อนด้ามไม้กวาดเป็นต้น) ไอระเหยอาจเคลื่อนที่ไปยังแหล่งกำเนิดประกายไฟและย้อนกลับ กระบอกสูบที่โดนไฟอาจระบายอากาศและปล่อยก๊าซไวไฟผ่านอุปกรณ์บรรเทาแรงดัน ภาชนะอาจระเบิดเมื่อถูกความร้อน กระบอกสูบแตกอาจจรวด
เลขที่ 10 ขั้นตอนที่ 1-2 ของการแยกแก๊สธรรมชาติ
1.หน่วยกำจัดสารปรอท เพื่อป้องกันการผุกร่อนของท่อ
จากการรวมตัวกับปรอท
2.หน่วยกำจัดเเก๊ส H2S เเละ CO2 เนื่องจาก H2S มีพิษเเละกัดกร่อน ส่วน CO2 ทำให้เกิดการอุดตันของท่อเพราะว่าที่ระบบเเยกเเก๊สมีอุณหภูมิต่ำมาก การกำจัด CO2ทำโดยใช้สารละลาย K2CO3ผสมตัวเร่งปฎิกิริยา CO2 ที่ได้นำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ทำน้ำเเข็งเเห้ง น้ำยาดับเพลิงเเละฝนเทียม เป็นต้น
เลขที่ 11 ขั้นตอน 3-5 ของการแยกแก๊สธรรมชาติ
3.หน่วยกำจัดความชื้นเนื่องจากความชื้นหรือไอน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งทำให้ท่ออุดตันทำโดยการกรองผ่านสารที่มีรูพรุนสูง และสามารถดูดซับน้ำออกจากแก๊สได้ เช่น ซิลิกาเจล
4.แก๊สธรรมชาติที่ผ่านขั้นตอนแยกสารประกอบที่ไม่ใช่สารประกอบไฮโดรคาร์บอนออกไปแล้ว จะถูกส่งไปลดอุณหภูมิและทำให้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว แก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว
5.ส่งต่อไปยังหอกลั่นเพื่อแยกแก๊สมีเทนออกจากแก๊สธรรมชาติ ผ่านของเหลวที่เหลือซึ่งเป็นไฮโดรคาร์บอนผสมไปยังหอกลั่น เพื่อแยกแก๊สอีเทน แก๊สโพรเพน แก๊สปิโตรเลียมเหลว (C3+C4) และแก๊สโซลีนธรรมชาติหรือแก๊สธรรมชาติหลว (liquefied natural gas) (C 5 อะตอมขึ้นไป)
เลขที่ 16 ผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ (เพนเทน C5H12)
ใช้ผลิตปุ๋ยและเมทานอล
เลขที่13 ผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ มีเทน CH4
เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์
เป็นเชื้อเพลิงให้ความร้อนในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมปิโตรเคมี เช่นเดียวกับก๊าซอีเทนและก๊าซโพรเพน
เป็นเชื้อเพลิงหรือก๊าซหุงต้มในครัวเรือน
และใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า
เลขที่ 15 ผลิตภัณฑ์จากแก๊สธรรมชาติ
(บิวเทน C4H10)
ใช้เป็นเชื้อเพลิงและผลิตยางเทียม
ประโยชน์
:fire:
:warning:
: