โรคหืด (Asthma)
ปัจจัยและสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการ
- สารก่อภูมิแพ้
ภายในอาคาร ได้แก่ ไรฝุ่น แมลงสาบ
ภายนอกอาคาร ได้แก่ เกสรหญ้า วัชพืช
2.สารระคายเคือง ได้แก่ น้ำหอม กลิ่น สี ทินเนอร์ น้ำยา หรือสารเคมี ละอองยาฆ่าแมลง
- ยาโดยเฉพาะกลุ่ม NSAID ,beta –blocker
- การติดเชื้อไวรสัของทางเดินหายใจส่วนต้น
- สาเหตุอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกาย ความชื้น ความเย็น
พยาธิสรีรวิทยา
เมื่อร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอมครั้งแรกระบบคุ้มกันร่างกายจะตอบสนองร่างกายจะสร้าง IgE จำเพาะศัตรูตัวแรก ยิ่งเจอศัตรูตัวเดิมซ้ำๆ IgE ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นได้ไว
การวินิจฉัย
- ไอ แน่นหน้าอก หายใจหอบมีเสียงหวีด
- มีอาการเมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น
- พบร่วมกับอาการภูมิแพ้อื่น allergic rhinitis conjunctivitis และ dermatitis
การตรวจร่างกาย
- อาจไม่พบความผิดปกติขณะไม่มีอาการ
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
1.การตรวจสมรรถภาพการทำงานของปอด ก่อนและหลังให้ยาขยายหลอดลม
- การวัดค่าความผันผวนของ PEFในแต่ละช่วงเวลา ประมาณ
1-2สัปดาห์
- ขณะมีอาการจะพบอัตราการหายใจเพิ่มขึ้น หายใจลำบาก หายใจออกยาวกว่าปกติ หรือหอบได้ยินสียงหวีด
วิธีการบรรลุเป้าหมายในการรักษาโรคหอบหืด
- การให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว
Asthma medications
- การแนะนำวิธีหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และปัจจัยเสี่ยงต่างๆ
- การประเมินระดับความรุนแรงของโรคหืด
- การจัดแผนการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคหืดเรื้อรัง
- การดูแลรักษาในขณะมีอาการหอบหืดกำเริบเฉียบพลัน
- การดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหืดในกรณีพิเศษ
- Controllers
- Relievers
การควบคุมโรคหืด
1.การให้ความรู้แก่ผู้ป่วย ญาติ
2.แนะนำวิธีการหลีกเลี่ยงหรือขจัดสิ่งที่แพ้และอาการหอบหืด
4.การจดัแผนการรักษาสำหับผู้ป่วยโรคหืดเรื้อรัง
- ระดับความรนุแรงของการควบคุมโรค
5.การจัดแผนการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคหืดกำเริบเฉียบพลัน
6.การจัดระบบให้มีการดูแลรักษาต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ