Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

ต่อมทอนซิลอักเสบ (Tonsillitis), อ้างอิง - Coggle Diagram

- - - - แพทย์จะพิจารณาตัดต่อมทอนซิล เมื่อ
        
        1.เป็นภาวะต่อมทอนซิลอักเสบเรื้อรังที่รักษาด้วยยาไม่ได้ผล หรือเกิดการอักเสบปีละหลายครั้งหลายปีติดต่อกัน ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลง เช่น ต้องขาดงาน หรือขาดเรียนบ่อย
        
        2.เมื่อต่อมทอนซิลโตมาก ๆ ทำให้เกิดอุดกั้นทางเดินหายใจ และมีอาการนอนกรน และ/หรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับตามมา
        
        3.ผู้ป่วยที่มีต่อมทอนซิลโต และแพทย์สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งของต่อมทอนซิลโดยตรง หรือมีมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอ แล้วหาตำแหน่งมะเร็งต้นเหตุไม่เจอ แต่แพทย์สงสัยว่าอาจเป็นมะเร็งที่มาจากต่อมทอนซิล
- - - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        ทําความสะอาดร่างกายและช่องปากโดยการแปรงฟันก่อนไปห้องผ่าตัดเพื่อป้องกันการติดเชื้อขณะผ่าตัด
        2.งดน้ําและอาหารหลังเที่ยงคืน ป้องกันการสําลัก อาเจียนขณะทําการผ่าตัดและหลังผ่าตัดขณะทําการผ่าตัดจะดมยาสลบและฉีดยาชาเฉพาะที่ร่วมด้วยเพื่อบรรเทาอาการปวดหลังผ่าตัด และลดภาวการณ์มีเลือดออกมากหลังทําผ่าตัด
        
        แนะนําให้ฝากของมีค่าและเครื่องประดับต่างๆ ไว้กับญาติหากมีฟันปลอมให้ถอดออกถ้า ไม่มีญาติฝากไว้กับพยาบาลประจําหอผู้ป่วยโดยไม่นํามาห้องผ่าตัดเพื่อป้องกันการสูญหายหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นขณะผ่าตัด
        
        แนะนําให้ปัสสาวะก่อนมาห้องผ่าตัด แจ้งให้ผู้ป่วยทราบขณะเจ้าหน้าที่มารับอาจมีการเคลื่อนย้ายหลายครั้ง ลดความกังวลใจ มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือตลอดเวลา
        
        หลังทําผ่าตัดหากรู้สึกปวดแผล เจ็บคอ สามารถขอยาบรรเทาปวดได้
        
        สังเกตอาการแทรกซ้อนหลังผ่าตัด เช่น เลือดออกมากผิดปกติให้แจ้งพยาบาลประจําหอผู้ป่วยเพื่อรายงานแพทย์ทราบ
        
        แนะนําเรื่องการหายใจเข้าเต็มที่ช้าๆ และการหายใจออกยาวๆ เพื่อลดการแทรกซ้อนของระบบหายใจ
    - - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.กล่าวทักทาย แนะนําตนเองให้ผู้ป่วยรู้จัก ใช้ท่าทีเป็นกันเองให้ผู้ป่วยและญาติเกิดความไว้วางใจ 2.ประเมินระดับความรู้ความเข้าใจ สภาวะจิตใจ ทัศนคติต่อการเข้ารับการผ่าตัด ความร่วมมือโดยเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความรู้สึก ซักถามสิ่งที่ผู้ป่วยวิตกกังวล รวมถึงค่ารักษาพยาบาล ผู้ดูแลหลังการได้รับการผ่าตัด 3.ให้ความรู้เรื่องโรคและการเปลี่ยนแปลงของโรค ความจําเป็นที่ต้องได้รับการผ่าตัด แนวทางการรักษาพยาบาล วิธีผ่าตัด อาการหลังผ่าตัด เพื่อลดความวิตกกังวลโดยเฉพาะการผ่าตัดไม่มีแผลภายนอก เนื่องจากผ่าตัดออกทางปาก 4. อธิบายการเตรียมตัวของผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการผ่าตัด การปฏิบัติตัวขณะผ่าตัด หลังผ่าตัด 5. อธิบายให้ผู้ป่วยทราบถึงที่ตั้งของห้องผ่าตัด กฎระเบียบของห้องเตรียมคนไข้และห้องผ่าตัด 6. บอกระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัด ระยะเวลาที่อยู่ห้องพักฟื้น และแนะนําสถานที่ที่ญาติสามารถนั่งรอได้ 7. ให้ความมั่นใจกับผู้ป่วยว่าจะได้รับการดูแลอย่างดีขณะผ่าตัด
  - - - การดูแลผู้ป่วยระยะนี้มีความสําคัญ ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เต็มที่จึงต้องดูแลและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เริ่มต้นตั้งแต่การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากเตียงผ่าตัดไปถึงห้องพักฟื้น คํานึงถึงความปลอดภัยขณะเคลื่อนย้าย จัดท่าผู้ป่วยนอนตะแคงด้านใดด้านหนึ่ง ป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจ ประเมินสภาพผิวด้านที่กดทับ ประเมินภาวะการมีเลือดออกมากผิดปกติจากแผลผ่าตัด แนะนําการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดคอยสังเกตความผิดปกติของการติดเชื้อมีอาการปวด บวม ไข้สังเกตลักษณะ จํานวนเลือดถ้าเลือดออกมากให้แจ้งพยาบาลเพื่อรายงานแพทย์ทราบ แนะนําให้รักษาความสะอาดในช่องปาก บ้วนปากด้วยน้ําเกลือปราศจากเชื้อหรือน้ํายาบ้วนปากก่อนและหลังรับประทานอาหารทุกครั้ง ในวันแรกหลังผ่าตัดให้ดื่มน้ําเย็นอมน้ําแข็ง รับประทานอาหารเหลวเย็น อ่อนนุ่ม หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเปรี้ยว เผ็ด ร้อนงดอาหารแข็ง กากมาก อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจเรื่องแผลผ่าตัดจะมีแผ่นสีขาวหรือเหลืองปกคลุมห้ามเขี่ยหรือแกะออก ทําให้เลือดออก แผลหายเองใน 14 – 21 วัน ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ใน 1 – 2 วัน และกลับมาตรวจหลังผ่าตัดตามนัด หรือพบสิ่งผิดปกติให้รีบกลับมาพบแพทย์ทันที