โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ
ระบบทางเดิปัสสาวะในเด็ก
ระบบทางเดินปัสสาวะเริ่มสร้างตั้งแต่เดือนแรกหลังปฏิสนธิ ตัวอ่อนจะเริ่มสร้างปัสสาวะเมื่ออายุครรภ์ได้ 11-12 สัปดาห์ มีรกท าหน้าที่ช่วยควบคุมสมดุลน้ า อิเล็คโทรลัยท์และกรด-ด่าง ไตของเด็กจะท าหน้าที่ได้ดีเมื่ออายุ 2 ปีขึ้นไป
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (Urinary Tract Infection: UTI)
หมายถึงการอักเสบของระบบทางเดินปัสสาวะเนื่องจากภาวะติดเชื้อ เป็นการติดเชื้อที่พบบ่อยใน ผู้ป่วยเด็กประมาณร้อยละ 7-8 ของผู้ป่วยเด็กเพศหญิง และร้อยละ 2 ของเพศชาย มีการติดเชื้อในทางเดิน ปัสสาวะในช่วง 8 ปีแรก
อาการและอาการแสดง
- Pyelonephritis ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องหรือ flank pain ไข้สูง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย บางรายอาจมีไข้อย่างเดียว ในทารกแรกเกิดจะไม่มีอาการเฉพาะที่ แต่จะมีอาการของ sepsis เช่น น้ำหนักลด poor feeding
- Cystitisผู้ป่วยจะมีอาการปัสสาวะลำบาก กดเจ็บบริเวณ suprapubic ปัสสาวะมีกลิ่นเหม็น มักไม่มีไข้ ภาวะนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อไต เชื้อ E coli และ adenovirus 11 และ 21เป็นสาเหตุที่พบบ่อยของ acute hemorrhagic cystitis
- Asymptomatic bacteriuria ตรวจพบแบคทีเรียในปัสสาวะโดยไม่มีอาการ พบได้น้อยกว่าร้อยละ 1 ในเด็กก่อนวัยเรียนและวัย เรียน พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย ภาวะนี้มักไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อ
พยาธิสรีรวิทยา
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กมีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของโครงสร้างในระบบทางเดิน ปัสสาวะ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการป้องกันการติดเชื้อได้แก่ การระบายออกของปัสสาวะที่เพียงพอ (adequate urine flow) และความปกติของเยื่อบุทางเดินปัสสาวะ (intact uroepithelium) ในผู้ป่วยเด็กที่มี การอุดกั้นในทางเดินปัสสาวะ มีปัสสาวะค้างในกระเพาะปัสสาวะแบคทีเรียที่ไม่สามารถเกาะติด uroepithelium อาจเป็นสาเหตุให้เกิดการติดเชื้อได้
การวินิจฉัย
- ซักประวัติ ไข้ ที่ไม่มีสาเหตุแน่ชัดโดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ปวดหรือกดเจ็บที่บริเวณท้อง ท้องน้อย หลังหรือบั้นเอวในเด็กที่อายุมากกว่า 4-5 ปี ลักษณะของปัสสาวะ เช่น ขุ่นมีตะกอน แดง มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะไม่พุ่ง ในเด็กแรกเกิดอาการไม่จำเพาะ
- การตรวจร่างกายกดเจ็บที่เหนือหัวเหน่า
- การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
- การตรวจปัสสาวะ (urinalysis)โดยใช้แถบสีตรวจ (dipstick) ได้แก่ การตรวจ
leukocyte esterase และ nitrite ส่วนการตรวจเลือดและโปรตีนเป็นตัวบ่งชี้สำหรับ UTI - การเพาะเชื้อในปัสสาวะ
- การตรวจเลือด
- การตรวจทางรังสีและการตรวจอื่นๆ
การรักษา
- ลดการติดเชื้อโดยการให้ยาปฏิชีวนะเช่น gentamicin
- ป้องกันเนื้อไตถูกทำลาย และป้องกันไตวาย
- ค้นหาและแก้ไขความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ
- ให้น้้ำปริมาณมาก โดยการให้ทางปาก และ/หรือทางหลอดเลือดดำ
- บรรเทาอาการปวดแสบในการถ่ายปัสสาวะ
- ป้องกันการกลับเป็นซ้ำ และการเกิดแผลที่ไต
ไตอักเสบเฉียบพลัน (Acute Glomerulonephritis: AGN)
หมายถึงภาวะที่มีการอักเสบเฉียบพลัน
ของโกลเมอรูลัส
สาเหตุ
การอักเสบของไตไม่ได้มีสาเหตุจากการติดเชื้อที่ไตโดยตรง แต่เกิดขึ้นตามหลังการติดเชื้ออื่นๆของ ร่างกายที่พบบ่อยคือ pharyngitis จากเชื้อ Streptococcus group A. (post-streptococcal glomerulonephritis) หรือการติดเชื้อจากผิวหนัง และการติดเชื้ออื่นๆ
พยาธิ เมื่อมีการติดเชื้อในร่างกายจะมีแอนติเจนกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้น ปริมาณของเซลที่มี การอักเสบที่เพิ่มขึ้น และความสามารถในการผ่านของสารในเซลล์ (basement membrane permeability) ที่ลดลงท าให้พื้นที่การกรอง (glomerular filtration surface) และอัตราการกรอง (glomerular filtration rate: GFR) ลดลง ปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงที่ไตจะลดลงในอัตราส่วนเดียวกับอัตราการกรอง
การวินิจฉัย
1) การตรวจปัสสาวะ ตรวจพบเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว casts และอัลบูมิน ไม่พบแบคทีเรีย หรือ เพาะเชื้อไม่ขึ้น
2) การตรวจเลือด ตรวจพบระดับ Na+, K+, Cl- ปกติหรือสูงในรายที่มีอาการรุนแรง ระดับ BUN ครีเอติ นิน และกรดยูริคสูง
3) การตรวจอื่นๆได้แก่ การเพาะเชื้อจาก pharynx พบ streptococcus ในบางรายท า renal biopsy, EKG และการถ่ายภาพรังสีเพื่อดูภาวะแทรกซ้อน
อาการและอาการแสดง
บวมความดันโลหิตสูง และมีอาการอื่นร่วมเช่นอาการของหัวใจล้มเหลว (congestive heart failure) ซึ่งเป็นผลจากการได้รับน้ำเกิน ร้อยละ 20 อาการปวดท้อง
การรักษา เป็นการรักษาแบบประคับประคองอาการ ผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล มีข้อบ่งชี้ได้แก่ มีอาการบวมมาก ความดันโลหิตสูง ปัสสาวะออกน้อย
- การพักผ่อน ผู้ป่วยที่อาการดีขึ้น และสามารถจำหน่ายให้กลับบ้านได้แล้ว ก็ยังจำเป็นต้องงดออกก าลังกายที่ ต้องใช้แรงมากอย่างน้อย 1 ปี
- อาหารและน้ำดื่ม
- การจำกัดน้ำดื่ม พื้นที่ผิวกาย =(4 W+7)/(w+90 )
(W = น้ำหนักตัวของผู้ป่วย) - จำกัดเกลือ
- การรักษาด้วยยา
- การรักษาอื่นๆ การให้เลือด ในรายที่เสียเลือดทางปัสสาวะหรือมีภาวะซีดจากไตเสียหน้าที่
กลุ่มอาการโรคไต (Nephrotic syndrome : NS)
ภาวะที่มีความผิดปกติของ glomerular basement membrane (GBM) เป็นเหตุให้มีไข่ขาวรั่วออกมามากผิดปกติในปัสสาวะ ท าให้ปริมาณโซเดียมในเลือดต่ำลงมากกว่าปกติ ร่วมกับมีอาการบวมและระดับไขมันในเลือดสูงขึ้น
พยาธิ กลุ่มอาการโรคไตเกิดจากการที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ glomerular basement membrane (GBM)
ท าให้มีการรั่วของโปรตีนเพิ่มขึ้น มีอัลบูมินออกมาในปัสสาวะจ านวนมาก อาการบวม อัลบูมินในเลือดต่ าและ
ไขมันในเลือดสูงเป็นอาการที่ตามมา ซึ่งการเปลี่ยนแปลงความสามารถในการซึมผ่านของโกลเมอรูลัส
(glomerular permeability) เป็นผลของปฏิกิริยาทางอิมมูน จากการตรวจ พบว่า immunoglobulin ติดที่
ไตจากการทำปฏิกิริยาของแอนติเจน ซึ่งอาจเป็นส่วนประกอบของ GBM เอง
อาการและอาการแสดง
- บวม ระยะแรกจะเริ่มบวมที่หนังตา
- ท้องเสีย
- การเจริญเติบโตช้า
การวินิจฉัยโรค
- การตรวจปัสสาวะตรวจหาโปรตีน
- การตรวจเลือด ตรวจพบซีรั่มอัลบูมินต่ำกว่า 2.5 มก./ดล
- พบ fribrinogen และ factor V, VII VII , X เพิ่มขึ้นท าให้เลือดแข็งตัวได้ง่ายขึ้น
- การตรวจอื่นๆ เช่น การตรวจชิ้นเนื้อของไต (renal biopsy)
ภาวะแทรกซ้อน
Hypovolemia
การติดเชื้อ
Thrombosis
ไตวายเฉียบพลัน
ไตวายเรื้อรัง
การเจริญเติบโตและภาวะพร่องฮอร์โมนอื่น
การรักษา
- อาหาร ผู้ป่วยเด็กควรได้โปรตีนที่มีคุณภาพดีร้อยละ 130-140 ของความต้องการปกติในแต่ละวันตามอายุ และได้แคลอรีตามอายุ
- รักษาและป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย
- การรักษาจำเพาะ (specific treatment)
1 การให้ยาสตีรอยด์
2 การให้ยากดภูมิต้านทานชนิดอื่น เช่น cyclosporine, levamisole หรือ ยาในกลุ่ม alkylating agents เช่น cyclophosphamide, chlorambucil หรือ cyclosporine
click to edit