Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ - Coggle Diagram
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ความหมาย
การกำหนดแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยการเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชนทุกขั้นตอนอย่างเป็นระบบ
ความเป็นมา
ประเทศไทย ริเริ่มจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2502 ในสมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.ศ. 2504 ประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับแรกขึ้น ซึ่งแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 1 มีระยะเวลาของแผน 6 ปี โดยที่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับต่อ ๆ มา มีระยะเวลาของแผน 5 ปี
หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 1 (พ.ศ. 2504-2509)
สาระสำคัญ
ส่งเสริมการลงทุนของเอกชนในภาคอุตสาหกรรม เพื่อทดแทนการนำเข้า
จัดตั้งมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาค คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
เน้นการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ
นโยบายการศึกษา
การเพิ่มระดับการศึกษาภาคบังคับจาก 4 ปี เป็น 7 ปี
การขยายและปรับปรุงการศึกษาทั้งในด้านสามัญและอาชีวศึกษา
การผลิตครูให้เพียงพอกับความต้องการและส่งเสริมครูให้ครูมีคุณวุฒิเข้าระดับมาตรฐาน
การส่งเสริมอุดมศึกษาให้สามารถผลิตนักศึกษาให้เพียงพอกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ผลที่ได้รับ
เศรษฐกิจขยายตัวสูง มีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น แต่เกิดปัญหาการกระจายรายได้ไม่เป็นธรรม เพราะผู้ได้รับประโยชน์จากการพัฒนาเป็นคนส่วนน้อยที่อยู่ในเมืองและเป็นผู้มีโอกาสทางเศรษฐกิจ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2510-2514)
สาระสำคัญ
เน้นการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของประเทศ คล้ายแผนฯ ฉบับที่ 1
สนับสนุนการลงทุนของชาวต่างชาติ และพัฒนาการผลิตทั้งภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม
มุ่งพัฒนากำลังคนเพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาประเทศ โดยกระจายการศึกษาและการสาธารณสุขขั้นพื้นฐานให้ทั่วถึง และเริ่มให้ความสำคัญกับการพัฒนาชนบทและทรัพยากรธรรมชาติ
ผลที่ได้รับ
การกระจายรายได้ยังกระจุกตัวอยู่กับคนส่วนน้อย
นโยบายการศึกษา
การปรับปรุงคุณภาพการศึกษาและแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ด้วยมาตรการอันเหมาะสม ด้านคุณภาพการศึกษา
การส่งเสริมการศึกษาในโรงเรียนราษฎร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา
การจัดการศึกษาให้สัมพันธ์กับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2515-2519)
สาระสำคัญ
กำหนดเป้าหมายลดอัตราการเพิ่มของประชากรเป็นครั้งแรก ให้เหลือร้อยละ 2.5 ต่อปี เมื่อสิ้นแผนฯ
กระจายความเจริญสู่ชนบทให้มากขึ้น และเน้นการกระจายรายได้ให้เป็นธรรม
เน้นการพัฒนาสังคมมากขึ้น ทั้งการศึกษา การอนามัยและสาธารณสุข
ผลที่ได้รับ
เกิดปัญหาอุปสรรคในเรื่องสภาพดินฟ้าอากาศ (ฝนทิ้งช่วง) การขึ้นราคาน้ำมันครั้งใหญ่ และความผันผวนทางการเมือง โดยเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 และเหตุการณ์ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2519 ทำให้เศรษฐกิจของประเทศซบเซาและมีการว่างงานสูง
นโยบายการศึกษา
การส่งเสริมการศึกษาด้านเกษตรกรรม
การส่งเสริมการศึกษาพลานามัยส่วนบุคคลและส่วนรวม
การส่งเสริมการศึกษาวิจัยสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การปลูกฝังพลเมืองให้มีความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคมและความมั่นคงปลอดภัย
การส่งเสริมจริยธรรม คุณธรรม และวินัยของเด็กในวัยเรียนเพื่อให้มีความเข้าใจและภูมิใจในศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2520-2524)
ผลที่ได้รับ
การพัฒนาทั้งภาคอุตสาหกรรม การค้า และการบริการ ขยายตัวตามเป้า การขึ้นราคาน้ำมันของกลุ่มโอเปค (OPEC) ทำให้สินค้ามีราคาแพงและเกิดเงินเฟ้อ รายจ่ายภาครัฐเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดปัญหาขาดดุลการค้า
นโยบายการศึกษา
การขยายการศึกษาระดับอาชีวศึกษา โดยให้ระดับมัธยมสายอาชีพ รับนักเรียนเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 8 ต่อปี และวิชาชีพขั้นสูงเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 15 ต่อปี
การผลิตบัณฑิตแต่ละสาขาสอดคล้องกับความต้องการของประเทศมากที่สุด
การเปลี่ยนระบบโรงเรียนจากแบบ 4 : 3 : 3 : 2 (3) เป็นแบบ 6 : 3 : 3
สาระสำคัญ
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ
เน้นสร้างความเป็นธรรมในสังคม โดยเน้นการกระจายรายได้ให้ทั่วถึง
เน้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ เพื่อแก้ไขภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่เกิดในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 3 โดยพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก ส่งเสริมการลงทุนและการจ้างงาน
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2525-2529)
ผลที่ได้รับ
การขยายตัวทางเศรษฐกิจต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนด เนื่องมาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจโลก การแข่งขันและการกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ
เกิดปัญหาขาดเสถียรภาพทางการเงิน เพราะการใช้จ่ายเกินตัวทั้งภาครัฐบาลและภาคเอกชน และขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง
ความเสื่อมโทรมในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นโยบายการศึกษา
การส่งเสริมการศึกษาในระบบและนอกระบบโรงเรียนให้มีประมาณและสัดส่วน สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
การปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานของโรงเรียนประถมศึกษาและโรงเรียน มัธยมศึกษาในเมืองและชนบทให้ใกล้เคียงกัน
การกระจายสถานศึกษาทั้งด้านวิชาการและวิชาชีพให้ลงในพื้นที่ที่เหมาะสม
การผลิตกำลังคนให้มีความสอดคล้องและสัมพันธ์กับตลาดแรงงาน
การใช้ทรัพยากรเพื่อพัฒนาการศึกษาและการบริหารการศึกษามีอยู่จำกัดให้เกิด ประโยชน์สูงสุด
สาระสำคัญ
เน้นการพัฒนาชนบท เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน โดยขยายบริการพื้นฐานของรัฐไปสู่ชนบทให้มากขึ้น เช่น การสาธารณสุข การสาธารณูปโภค ฯลฯ แก้ไขปัญหาการว่างงาน และเร่งการกระจายรายได้ที่เป็นธรรม
ฟื้นฟูฐานะทางเศรษฐกิจและการเงินของประเทศ ลดการขาดดุลการค้า เร่งระดมเงินออม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และกระจายอุตสาหกรรมไปยังส่วนภูมิภาค
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 6 (พ.ศ. 2530-2534)
ผลที่ได้รับ
ฐานะทางการเงินและการคลังของประเทศมีเสถียรภาพ คนไทยมีรายได้และการจ้างงานเพิ่มสูงขึ้น ภาระหนี้สินของประเทศลดลง ทุนสำรองระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น
อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงกว่าเป้าหมาย ทั้งนี้เป็นผลจากการส่งออก การลงทุน และรายได้จากการท่องเที่ยว ทำให้เศรษฐกิจไทยเปิดกว้างสู่ระบบเศรษฐกิจสากลมากขึ้น
ผลกระทบ คือ ความเสื่อมโทรมในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำในการกระจายรายได้ระหว่างคนเมืองและคนในชนบทมีมากขึ้น
นโยบายการศึกษา
การปรับปรุงคุณภาพการศึกษาในทุกระดับการศึกษา
การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งบพัฒนาการศึกษาที่เน้นการใช้ทรัพยากรร่วมกัน
การจัดการศึกษาและฝึกอบรมทั้งในและนอกระบบโรงเรียนให้แก่ผู้เรียน และคน ทั่วไป ให้เป็นคนดี มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย ซื่อสัตย์ ขยัน และพึ่งตนเองได้
สาระสำคัญ
เน้นรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ลดหนี้สินต่างประเทศ ปรับปรุงระบบการผลิตและการตลาด เพื่อให้การส่งออกสินค้าไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เน้นพัฒนาอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมควบคู่กันไป
เน้นพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพการบริหารในภาครัฐ เพื่อเร่งการขยายตัวทางเศรษฐกิจและส่งเสริมให้เอกชนมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจ
เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ พัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม การจ้างงาน และกระจายรายได้ แก้ไขปัญหาความยากจน
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2535-2539)
ผลที่ได้รับ
การแก้ปัญหาความยากจนและกระจายรายได้ยังไม่ได้ผล ช่องว่าในรายได้ระหว่างคนเมืองกับคนในชนบทยิ่งห่างกันมากขึ้น
ความเสื่อมโทรมในทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมีมากขึ้น การสูญเสียพื้นที่ป่าไม้ และปัญหามลพิษของสิ่งแวดล้อมขยายตัวอย่างรวดเร็ว
การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปตามเป้าหมาย รายได้ประชาชาติและรายได้เฉลี่ยของประชากรเพิ่มสูงขึ้น
สาระสำคัญ
เน้นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คุณภาพชีวิต และสิ่งแวดล้อม
เน้นพัฒนากฎหมาย รัฐวิสาหกิจ และระบบราชการ ให้มีคุณภาพและสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศ
เน้นการกระจายรายได้และพัฒนาไปสู่ภูมิภาคและชนบท
เน้นรักษาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมให้เติบโตอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ โดยพัฒนาการผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรม เกษตรกรรม และการส่งออก
เน้นการพัฒนาแบบยั่งยืน และสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจควบคู่กับสังคม
นโยบายการศึกษา
การส่งเสริมพัฒนาการของเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยการศึกษาภาคบังคับ
การเร่งขยายการผลิตแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร วิศวกร สถาปนิก นักวิทยาศาสตร์ นักเทคโนโลยี และช่างเทคนิค
การให้ประชาชนได้รับการศึกษาทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียนอย่างกว้างขวาง ทั่วถึงและต่อเนื่อง
การสนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษาของรัฐสามารถดำเนินการได้อย่างมีอิสระและ พึ่งตนเองได้มากขึ้น และทำการวิจัยพัฒนาให้กว้างขวาง
การกำหนดการรับนักศึกษาใหม่ในระดับอุดมศึกษามีสัดส่วนของสายวิทยาศาสตร์ต่อ สายสังคมศาสตร์เป็น ๓๐:๗๐
การส่งเสริมและสนับสนุนให้เอกชนมีบทบาทในการจัดการศึกษาและฝึกอบรมมากขึ้น
การขยายการศึกษาขั้นพื้นฐานจาก ๖ ปี เป็น ๙ ปี ให้ครอบคลุมประชากรในกลุ่มอายุ
การปรับปรุงการจัดการศึกษาตลอดชีพเพื่อปวงชนทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ
. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 (พ.ศ. 2540-2544)
ผลที่ได้รับ
ปลายปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เกิดการว่างงาน ธุรกิจล้มละลาย และปัญหาหนี้สินจากต่างประเทศ จนนำไปสู่การขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการและการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จากวิกฤติการณ์ครั้งนี้จึงได้ปรับวัตถุประสงค์และแนวทางการพัฒนาเพื่อแก้ไขปัญหาและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
นโยบายการศึกษา
การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
การปฏิรูประบบการผลิตและการพัฒนาครูอาจารย์
การพัฒนาคนเพื่อเพิ่มการแข่งขันของประเทศและการพึ่งตนเองทางเทคโนโลยี
การปรับปรุงระบบการบริหารจัดการการศึกษาและฝึกอบรมให้มีประสิทธิภาพ
การเตรียมความพร้อมเด็กปฐมวัย
สาระสำคัญ
เน้นการพัฒนาที่ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะเกิดต่อการพัฒนาคน
เน้นพัฒนาคนหรือเน้นคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา เพื่อเพิ่มศักยภาพความสามารถในด้านต่าง ๆ
. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2555 - 2559)
นโยบายการศึกษา
พัฒนาเด็กวัยเรียนให้มีความรู้ทางวิชาการและสติปัญญาทางอารมณ์ที่เข้มแข็งสามารถศึกษาหาความรู้และต่อยอดองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง
พัฒนาคนทุกช่วงวัยด้วยกระบวนการเรียนรู้สู่วัฒนธรรมการเกื้อกูลเสริมสร้างทักษะให้คนมีการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต
พัฒนาเด็กปฐมวัยอย่างเป็นองค์รวมทั้งด้านสติปัญญา อารมณ์ คุณธรรม และจริยธรรม
การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การพัฒนาคุณภาพคนไทยให้มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง มีการเรียนรู้สู่การปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
สาระสำคัญ
เพิ่มชนชั้นกลางให้กระจายทุกพื้นที่ของประเทศ เพราะชนชั้นกลางเป็นกำลังสำคัญในการประสานประโยชน์และพัฒนาประเทศที่มีความสมดุล
พัฒนาภาคเกษตรให้คงอยู่กับสังคมไทยและผลิตอาหารให้เพียงพอสำหรับทุกคน
มุ่งพัฒนาคนให้มีคุณภาพ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้มั่นคงและสามารถแข่งขันกับประเทศต่างๆ ในโลกได้อย่างต่อเนื่อง
ปรับปรุงการบริหารจัดการภาครัฐ ให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศในอนาคตเกิดความโปร่งใสตรวจสอบได้
เร่งสร้างความสงบสุขให้สังคม โดยร่วมมือกันสร้างสังคมให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545-2549)
สาระสำคัญ
วางรากฐานการพัฒนาประเทศให้เข้มแข็ง ยั่งยืน สามารถพึ่งตนเองได้ และรู้เท่ากันโลก โดยพัฒนาคุณภาพคน ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูปสุขภาพ สร้างเสริมความเข้มแข็งของชุมชน มีการจัดการด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กับการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้มีประสิทธิภาพ ทั้งภาคการเงินและการคลัง ให้มีความเข้มแข็งและสามารถพึ่งตนเองได้
อัญเชิญ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นแนวทางในการพัฒนาและบริหารประเทศ โดยยึดทางสายกลาง ความพอประมาณ และความมีเหตุผล เพื่อให้ประเทศรอดพ้นวิกฤติและนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
แก้ไขปัญหาความยากจน โดยเพิ่มศักยภาพและโอกาสของคนไทยในการพึ่งพาตนเอง ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษา การประกอบอาชีพ การมีรายได้ และยกระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
นโยบายการศึกษา
การปฏิรูปการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การเตรียมความพร้อมและยกระดับทักษะฝีมือคนไทยให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและสอดคล้องกับโครงสร้างการผลิตและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550-2554)
สาระสำคัญ
แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 10 นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นแนวทางปฏิบัติ ควบคู่กับแนวคิดที่ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่สมดุล ยั่งยืน และ เป็นธรรม โดยกำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศให้มุ่งสู่ “สังคมอยู่เย็นเป็นสุขร่วมกัน”
นโยบายการศึกษา
การพัฒนาสมรรถนะและทักษะแรงงานให้รองรับการแข่งขันของประเทศ
การเร่งสร้างกำลังคนที่มีความเป็นเลิศในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ที่นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ
การสร้างและพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความพร้อมด้านสติปัญญา อารมณ์ และศีลธรรม ภายใต้ระบบการศึกษาที่มุ่งการเรียนรู้ทั้งทางปฏิบัติและวิชาการ
การพัฒนาการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีจิตใจที่ดีงาม อยู่ในกรอบของศีลธรรม และมีจิตสำนึกสาธารณะ
การจัดการองค์ความรู้ทั้งเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ระดับชุมชนถึงระดับประเทศ
. แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564)
เป้าหมาย
การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
. การสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การพัฒนาศักยภาพคนให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศและการสร้างสังคมสูงวัยอย่างมีคุณภาพ
การบริหารราชการแผ่นดินที่มีประสิทธิภาพ
การหลุดพ้นจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางสู่รายได้สูง
นโยบายการศึกษา
ปฏิรูประบบการคลังด้านการศึกษา
พัฒนาคุณภาพครู
ปฏิรูประบบบริหารจัดการทางการศึกษา
ปฏิรูประบบการเรียนรู้
. ยกระดับคุณภาพการศึกษาและการเรียนรู้ให้มีคุณภาพ เท่าเทียม และทั่วถึง
สาระสำคัญ
ประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ยึดคนเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม การพัฒนาที่ยึดหลักสมดุล ยั่งยืน โดยวิสัยทัศน์ของการพัฒนาในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 12 ต้องให้ความสำคัญกับการกำหนดทิศทางการพัฒนาที่มุ่งมั่นสู่การเปลี่ยนแปลงผ่านประเทศไทย จากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง มีความมั่นคง และยั่งยืน สังคมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และนำไปสู่การบรรลุวิสัยทัศน์ระยะยาว “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ของประเทศ