Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
ภาวะความดันโลหิตสูงวิกฤต
ค่าความดัน
โลหิตซิสโตลิก ตั้งแต่140 มิลลิเมตรปรอท และความดันโลหิตไดแอสโตลิกตั้งแต่90 มิลลิเมตรปรอท
Hypertensive urgency คือ ภาวะความดันโลหิตสูงรุนแรงแต่ไม่มีอาการของอวัยวะเป้าหมายถูก
ทำลาย
Hypertensive emergency หมายถึง ภาวะความดันโลหิตสูงมากกว่า180/120 มม.ปรอท ร่วมกับมี
การทำลายของอวัยวะเป้าหมาย
Hypertensive emergency หมายถึง ภาวะความดันโลหิตสูงอย่าง
เฉียบพลันสูงกว่า 180/120 มม.ปรอท และทำให้เกิดการทำลายของอวัยวะเป้าหมาย
สาเหตุ
การหยุดยาลดความดันโลหิตทันที
Acute or chronic renal disease
Exacerbation of chronic hypertension
การใช้ยาบางชนิดที่มีผลทำให้ความดันโลหิตสูง
อาการ
ความดันโลหิตสูงขั้นวิกฤตที่ทำให้เกิดอาการทางสมอง เรียกว่าhypertensive encephalopathy
การพยาบาล
ในระยะเฉียบพลัน
เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับอาการ
ในระหว่างได้รับยา
ประเมินและบันทึกการตอบสนองต่อยาโดยติดตามความดันโลหิตอย่างใกล7ชิด
การรักษาด้วย short-acting intravenous antihypertensive agents
. ช่วยเหลือผู้ป่วยในการทำกิจกรรม
ให้ความรู้/ข้อมูลแก่ผู้ป่วยเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการรักษา
cardiac dysrhythmias
Atrial fibrillation (AF)
ภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพริ้วจาก atrium
ประเภทของ AF
Paroxysmal AFหายได้เองภายใน 7 วัน
Persistent AFหายได้ดัวยการรักษา
Permanent AFเป็นนานติดต่อกันกว่า 1 ปี
Recurrent AFเกิดซ้ำมากกว่า 1 ครั้ง
Lone AF เป็นในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 60 ปี ที่ไม่มีความผิดปกติของหัวใจ
อาการ
ใจสั่น อ่อนเพลีย เหนื่อยเวลาออกแรง คลำชีพจรที่ข้ิอมือได้เบา
การพยาบาล
ประเมินสัญญาณชีพ
สังเกตอาการลิ่มเลือดอุดตัน
ดูแลให้ได้รับยาควบคุมการเต้นของหัวใจ
ดูแลให้ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด
เตรียมผู้ป่วยและอุปกรณ์ในการทำ Cardioversion
เตรียมผู้ป่วยในการจี้ด้วยคลื่นไฟฟ้าความถี่สูง
Ventricular fibrillation (VF)
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิดที่ ventricle เป็นจุดกำเนิด
อาการและอาการแสดง
อาการเกิดทันที คือ หมดสติ ไม่มีชีพจร รูม่านตาขยาย เนื่องจากหัวใจไม่สามารถสูบฉีดโลหิตออกมา
ได้และเสียชีวิต
การพยาบาล
ตรียมเครื่งมือ อุปกรณ์และยาที่ใช้ในการช่วยฟื้นคืนชีพให้พร้อมและทำ CPR ทันที
ป้องกันภาวะ tissue hypoxia
ติดตามค่าเกลือแร่ในเลือด
ติดตามผลข้างเคียงของยาที่ใช้ในการรักษา
ติดตามและบันทึกอาการแสดงของภาวะอวัยวะและเนื้อเยื่อได้รับเลือดไปเลี้ยงลดลง
ติดตามและบันทึกการเปลี่ยนแปลงของ สัญญาณชีพ
6ให้ยา antidysrhythmia ตามแผนการรักษา
ทำ CPR ร่วมกับทีมรักษาผู้ป่วย
Ventricular tachycardia (VT)
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิดที่ ventricle
Nonsustained VT คือ VT ที่เกิดต่อเนื่องกันเป็นเวลาน้อยกว่า 30วินาที
Sustained VT คือ VT ที่เกิดต่อเนื่องกันเป็นเวลานานกว่า 30วินาที
Monomorphic VT คือ VT ที่ลักษณะของ QRS complex เป็นรูปแบบเดียว
Polymorphic VT หรือ Torsade คือ VT ที่ลักษณะของ QRS complex เป็นรูปแบบเดียว
สาเหตุ
ผู้ป่วยกล้ามเนื้อหัวใจ
อาการ
ใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หัวใจหยุดเต้น
การพยาบาล
นำเครื่อง Defibrillator มาที่เตียงผู้ป่วยและรายงานแพทย์ทันที
ประเมินสัญญาณชีพ
ดูแลให้ได้รับยา
เตรียม
ผู้ป่วยในการทำ synchronized cardioversion
เตรียมเครื่อง Defibrillator เพื่อให้แพทย์
ทำการช็อกไฟฟ้าหัวใจ
ทำ CPR ถ้าหัวใจหยุดเต้น
หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ความหมาย
การเกิดอาการและอาการแสดงของภาวะหัวใจล้มเหลวอย่าง
รวดเร็วจากการทำงานผิดปกติของหัวใจทั้งการบีบตัวหรือการคลายตัวของหัวใจ
สาเหตุ
โรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ภาวะหัวใจวาย
กลไกการไหลเวียนของเลือดผิดปกติเฉียบพลัน โรคหัวใจใดๆที่ทรุดลงตามการดำเนินโรค
อาการและอาการแสดง
Acute decompensated heart failure
ภาวะหัวใจล้มเหลวที่เกิดขึ้น
เฉียบพลันแต่ไม่มีอาการรุนแรงมาก
Hypertensive acute heart failure
มีปอดบวม
น้ำ โดยมีความดันโลหิตสูงรุนแรงร่วมด้วย แต่การทำงานของหัวใจห้องล่างซ้ายยังอยู่ในเกณฑ์ดี
Pulmonary edema
ปอดบวมน้ำร่วมด้วยอย่างชัดเจน ค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนต่ำกว่าร้อยละ 90
Cardiogenic shock
poor tissue perfusion ถึงแม้จะมีการแก้ไขภาวะ
ขาดน้ำแล้วก็ตาม
High output failure
ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจต่อนาทีสูงกว่า
ปกติ
Right heart failure
หัวใจด้านขวาทำงานล้มเหลว มี ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจ
ต่อนาทีลดลง
อาการและอาการแสดงของผู้ป่วยที่พบบ่อย
หายใจเหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ อ่อนเพลีย บวมตามแขนขา ความดันโลหิตปกติหรือ ต่ำ/สูง ท้องอืดโต
แน่นท้อง ปัสสาวะออกน้อยมาก หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว เส้นเลือดดำที่คอโป่งพอง ฟังได้ยินเสียงปอด
การรักษา
การลดการทำงานของหัวใจ
การดึงน้ำและเกลือแรที่คั่งออกจากร่างกาย
การใช้ยา
การรักษาสาเหตุ
กิจกรรมการพยาบาล
การลดการทำงานของหัวใจ
การลดความต้องการใช้ออกซิเจนของร่างกาย
การเพิ่มประสิทธิภาพการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ดูแลให้กล้ามเนื้อหัวใจได้รับการไหลเวียนเลือด
ดูแลการทำงานของเครื่องกระตุ้นจังหวะหัวใจ
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและอาหาร
ดูแลให้ได้รับการตอบสนองตามความต้องการพื้นฐาน
ดูแลติดตามและบันทึกค่า CVP, PCWP
ดูแลติดตามการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
สังเกต/บันทึกปริมาณปัสสาวะทุก 1 ชั่วโมง
จัดสิ่งแวดล้อมให้เอื้อต่อการนอนหลับพักผ่อน
ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ภาวะช็อก
เป็นภาวะที่เกิดความผิดปกติทางสรีรวิทยาสูงผลให้ปริมาณออกซิเจนที่สูงไปเลี้ยงเนื้อเยื่อทั่ว
เป็นภาวะที่เกิดความผิดปกติทางสรีรวิทยาสูงผลให้ปริมาณออกซิเจนที่สูงไปเลี้ยงเนื้อเยื่อทั่ว
นำไปสู่ความผิดปกติของการทำงานของอวัยวะต่างๆจากการขาดออกซิเจนในระดับเซลล์ (Cellular dysoxia)
ระยะของช็อก
(Decompensated shock)
เซลล์ในร่างกายเริ่มตาย การ
รักษาจะใช้เวลามากขึ้น
(Compensated shock)
การรักษาจะดีและมีภาวะแทรกซ้อนเพียง
เล็กน้อย
(Irreversible shock)
อวัยวะต่างๆในร่างกายได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
ประเภทของช็อก
1 ภาวะช็อกจากการขาดสารน้ำ (Hypovolemic shock)
ปริมาณของเลือดหรือสารน้ำในร่างกายลดลง ทำให้ปริมาณของเลือดหรือสารน้ำในร่างกายลดลง อาการมักขึ้นอยู่กับระดับของความรุนแรงของการสูญเสียปริมาณสารน้ำของร่างกาย
ภาวะช็อกจากภาวะหัวใจล้มเหลว (Cardiogenic shock)
เกิดจากหัวใจไม่สามารถส่งจ่ายเลือดไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย โดยที่มีปริมาตรเลือดในระบบไหลเวียนโลหิตอย่างเพียงพอ
ภาวะช็อกจากหลอดเลือดมีการขยายตัว
3.1 ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ (Septic shock)
(Warm shock)
ความดันโลหิตลดลง
ใจเต้นเร็วขึ้น
หายใจเร็วลึก
มีไข้สูง หนาวสั่น
ผิวหนังแดงอุ่น
Cold stage
ผิวหนังเย็นชื้น
หายใจเร็วเบา
ปัสสาวะออกน้อย
ระดับความรู้สึกตัวลดลง
3.2 ภาวะช็อกจากการแพ้(Anaphylactic shock)
เกิดในภาวะ anaphylaxisอาการบวมเฉพาะแห่ง ร้อนแดง (flush) ตัวแดง (flare) ความดันโลหิตต่ำ
ผิวหนังเกิดผื่นแดง
3.3 ภาวะช็อกจากการทำงานผิดปกติของต่อมหมวกไต
ร่างกายไม่สามารถผลิต cortisol ในปริมาณมากพอกับความต้องการของร่างกาย
ภาวะช็อกจากการอุดกั้นการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่หัวใจ
อุดกั้นการไหลเวียนของโลหิตไปสู่หัวใจห้องซ้าย ทำให้ ความดันโลหิตลดต่ำลง ความดัน
ในหัวใจห7องขวาเพิ่มมากขึ้น หลอดเลือดดำที่คอโป่งพอง CVP มีระดับที่สูงขึ้น
สาเหตุ
Cardiac tamponade
tension pneumothorax
pulmonary embolism
ภาวะช็อกจากความผิดปกติของระบบประสาท (Neurogenic shock)
ความบกพร่องในการควบคุมของระบบประสาทอัตโนมัติ
อาการและอาการแสดง
ประสาทส่วนกลาง
กระสับกระส่าย ซึม หมดสติ เซลล์สมองตาย
หัวใจและหลอดเลือด
ชีพจรเบาเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดส่วน
ปลายหดตัว ผิวหนังเย็นซีด
หายใจ
หายใจเร็วลึก
ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ
ระบบหายใจล้มเหลว
ไตและการขับปัสสาวะ
ปัสสาวะออกน้อย
ทางเดินอาหาร
กระเพาะอาหารและลำไส้ขาดเลือด
ตับอ่อนอักเสบ
ดีซ่าน
ตับวาย
เลือดและภูมิคุ้มกัน
การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ
ต่อมไร้ท่อ
น้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำ
ภาวะร่างกายเป็นกรด
กา
การรักษา
การแก้ไขระบบไหลเวียนโลหิตให้ได้ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจต่อนาทีเพียงพอ
การแก้ไขภาวะพร่องออกซิเจนของเนื้อเยื่อและการลดการใช้ออกซิเจน
การรักษาที่เฉพาะเจาะจงตามสาเหตุของภาวะช็อก
การแก้ไขความผิดปกติของภาวะกรดด่าง
การพยาบาล
การป้องกันเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน
ประเมินภาวะขาดออกซิเจน
ดูแลทางเดินหายใจให7โล่ง
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
การส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตอย่างเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ดูแลให้สารน้ำและอิเล็กโตรไลท์
ดูแลให้ยา (Dopamine, Dobutamine, Epinephrine Norepinephrine)
ดูแลจัดท่านอนหงายราบ ยกปลายเท้าสูง 20-30 องศา
ประเมินสัญญาณชีพ รวมถึงค่า MAP ทุก 1 ชั่วโมง
ติดตามค่า CVP
บันทึกปริมาณสารน้ำเข้าออกจากร่างกาย
ติดตามการเปลี่ยนแปลงระดับความรู้สึกตัว
ดูแลให้ได้รับการช่วยเหลือโดยใช้อุปกรณ์พิเศษต่างๆ
การแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะช็อก
ดูแลเตรียมให้ได้รับการตรวจเพื่อหาสาเหตุ
เตรียมผู้ป่วยเพื่อให้ได้รับการทำ PTCA, CABG
ดูแลให้ยาละลายลิ่มเลือดตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
ดูแลให้ยา Chlorpheniramine 1 amp V
ส่งเสริมการปรับตัวของผู้ป่วยและครอบครัวต่อภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้น
ให้ข้อมูล อธิบายเหตุผลก่อนทำกิจกรรมการพยาบาล
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้ระบายความรู้สึก
ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล
ให้ผู้ป่วยและครอบครัวมีส่วนร่วม
ให้กำลังใจและสนับสนุนทางด้านจิตใจ
ช่วยเหลือในการติดต่อสื่อสาร
เตรียมความพร้อมก่อนการย้ายออกจากหอผู้ป่วยวิกฤต
ประเมินระดับความวิตกกังวลของผู้ป่วยและครอบครัวอย่างต่อเนื่อง