การดูดเสมหะ

การดูดเสมหะ หมายถึง การใช้สายยางดูดเสมหะซึ่งปราศจากเชื้อผ่านเข้าทางปาก จมูก หรืออุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปในหลอดลม เช่น Endotracheal, Tracheostomy tube เป็นต้น เพื่อนำเสมหะออกจากทางเดินหายใจ เนื่องจากผู้ป่วยไอขับเสมหะออกเองไม่ได้ หรือการเก็บเสมหะเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ

อุปกรณ์

  1. Mask
  1. น้ำสะอาดปราศจากเชื้อ/ น้ำต้มสุก ใส่ในขวดขนาด 500-1000 ml. สำหรับล้างสายดูดเสมหะภาชนะใส่ถุงมือและสายดูดหลังภายหลังการใช้งาน
  1. แอลกอฮอล์ 70%

1.เครื่องดูดเสมหะ*

3.ท่อต่อลักษณะรูปตัว Y

  1. ถุงมือสะอาดปราศจากเชื้อ
  1. สำลีปราศจากเชื้อ

2.สายดูดเสมหะที่สะอาดปราศจากเชื้อ
(เลือกขนาดให้เหมาะสมกับผู้ป่วย)

การเตรียมผู้ป่วย

1.อธิบายให้ผู้ป่วยให้เข้าใจ เพื่อช่วยลดความกลัวและให้ความร่วมมือ

2.การจัดท่าที่เหมาะสมในการดูดเสมหะ คือต้องจัดท่านอนศีรษะสูง 30 องศา (Semi - Fowler,s position) เพื่อป้องกันการสำลัก

3.เพื่อป้องกันภาวะพร่องออกซิเจนเนื่องจากการเสมหะ ก่อนดูดเสมหะทุกครั้ง ควรปฏิบัติดังนี้

ผู้ป่วยที่หายใจเอง ควรกระตุ้นให้ผู้ป่วยหายใจลึกๆ 2-3 ครั้ง ตามด้วยการบีบ bag c
Hyperoxygenate อีก 4 -6 ครั้ง

ผู้ป่วยที่หายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ ควรให้ออกซิเจนความเข้มข้นสูง (Hyperoxygenate) นาน 30 -60 วินาที

การประเมินสภาพผู้ป่วย/ ข้อบ่งชี้

  1. การประเมินเพื่อการดูดเสมหะ อาการที่ตรวจแล้วจำเป็นต้องได้รับการดูดเสมหะ

ปัจจัยเสี่ยงต่อเสมหะอุดกั้นภายในทางเดินหายใจ

ผู้ป่วยขับเสมหะออกเองไม่ได้

เสมหะปริมาณมาก ลักษณะเสมหะเหนียว

อาการแสดงของเสมหะอุดกั้นภายในทางเดินหายใจ

ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อย หายใจลำบาก

หายใจเสียงดัง หรือการได้ยินเสียงเสมหะภายในหลอดลมของผู้ป่วย

อัตราชีพจรและการหายใจเพิ่มขึ้น

การฟังปอดได้เสียงผิดปกติ (Adventitions sound) เช่น Crepitation, Rhonchi เป็นต้น

ผิวหนัง เล็บมือ หรือเล็บเท้า มีสีเขียวคล้ำจากการพร่องออกซิเจน (Cyanosis)

2.การประเมินที่ควรหาความผิดปกติอื่นๆ ด้วย เนื่องจากภาวะพร่องออกซิเจนของผู้ป่วยอาจมีสาเหตุนอกเหนือจากเสมหะอุดกั้นภายในทางเดินหายใจ ดังนั้น เมื่อผู้ป่วยมีอาการร่วมที่แสดงถึงภาวะพร่องออกชิเจน พยาบาลจำเป็นต้องประเมินสภาพผู้ป่วยเพื่อหาสาเหตุต่างๆ ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีอาการร่วมดังกล่าว

อาการกระสับกระส่าย หรือซึมลง

ค่า Oxygen Saturation ต่ำ

การประเมินผลการดูดเสมหะ

การดูดเสมหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. ปริมาณเสมหะลดลง

2 อัตราการหายใจ 12- 20 ครั้ง/ นาที และอัตราชีพจร 60 - 80 ครั้ง/ นาที

3 ไม่มีอาการหายใจลำบาก

4 ไม่มีเสียงเสมหะภายในหลอดลมของผู้ป่วย

5 ผิวหนัง เล็บมือ หรือเล็บเท้า มีสีเขียวคล้ำจากการพร่องออกซิเจน

นางสาว ภัสสรา อ่อนศรียัง 6305010303
คณะพยาบาลศาสตร์ (วัชรพล)