Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
4.2ภาวะโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (Hypertensive disorders of pregnancy), image…
4.2ภาวะโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
(Hypertensive disorders of pregnancy)
ระดับความดันโลหิตในสตรีตั้งครรภ์
ความดันโลหิตในสตรีตั้งครรภ์จะต่ำกว่าขณะที่ไม่ตั้งครรภ์ และจะต่ำสุดในระยะไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ หลังจากนั้นจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 3 จนกระทั่งอยู่ในระดับเดียวกับขณะที่ไม่ได้ตั้งครรภ์
ขณะตั้งครรภ์จะมีการกระตุ้นให้ผลิต ฮอร์โมน และเอนไซม์มากขึ้น
ระดับของ เอนซัยม์ renin ในพลาสมา จะสูงขึ้นมากกว่าสตรีที่ไม่ตั้งครรภ์ประมาณ 3-4 เท่า
ความหมายของภาวะโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
ภาวะความดันโลหิตสูง
ภาวะที่ค่าความดันโลหิตช่วงหัวใจบีบตัว
(systolic BP) อย่างน้อย 140 mmHg. หรือค่าความดันโลหิตช่วงหัวใจคลายตัว (diastolic BP) อย่างน้อย 90 mmHg
ภาวะความดันโลหิตสูงเนื่องจากการตั้งครรภ
พบในระยะครึ่งหลังของการตั้งครรภ์
พบร่วมกับการมีโปรตีนในปัสสาวะ มีอาการบวม
ภาวะความดันโลหิตสูงหลังคลอด
มีความดันโลหิตสูงขึ้นในช่วง 2 สัปดาห์หลังคลอด ถึง 6 เดือนหลังคลอด
ชนิดของภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ
แบ่งเป็น 4 ชนิด
ความดันโลหิตสูงเรื้อรัง
เป็นมาก่อนการตั้งครรภ์
เกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ gestational trophoblastic diseases
อายุครรภ์ 20 สัปดาห์ ความดันโลหิตนั้นยังคงสูงอยู่นานกว่า 12 สัปดาห์หลังคลอด
ครรภ์เป็นพิษ
พบครั้งแรกในขณะตั้งครรภ์หลังอายุครรภ์ 20 สัปดาห์
โปรตีนในปัสสาวะอย่างน้อย 300 มิลลิกรัม
ภาวะความดันโลหิตสูงคงอยู่ไม่เกิน 12 สัปดาห์หลังคลอด
ครรภ์เป็นพิษระยะชัก
ภาวะครรภ์เป็นพิษที่มีภาวะชักร่วมหาสาเหตุของการชักไม่ได้ อาจเกิดลมบ้าหมู หรือโรคทางสมอง
ความดันโลหิตสูงจากการตั้งครรภ์
ภาวะความดันโลหิตสูงที่วินิจฉัยได้ครั้งแรกในอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ โดยไม่มีโปรตีนในปัสสาวะ
ีโปรตีนในปัสสาวะน้อยกว่า 300 mg
ความดันโลหิตกลับสู่ระดับปกติภายใน 12 สัปดาห์หลังคลอด
ครรภ์เป็นพิษซ้อนทับกับความดันโลหิตสูงเรื้อรัง
ภาวะครรภ์เป็นพิษก่อนระยะชัก
กลุ่มอาการที่เกิดเฉพาะกับการตั้งครรภ์
เกณฑ์การวินิจฉัย
โปรตีนในปัสสาวะ
เกล็ดเลือดต่ำ
ไตผิดปกต
ตับผิดปกติ
อาการทางสมอง
เกณฑ์การวินิจฉัยเกี่ยวกับโปรตีนในปัสสาวะ
ตรวจการเก็บปัสสาวะ 24 ชั่วโมง
การตรวจโดย urine dipstick 5 ระดับ
+1 = 30 มิลลิกรัม%
Trace = มีเพียงเล็กน้อย (น้อยกว่า 300 มิลลิกรัม/ลิตร)
+2 = 100 มิลลิกรัม%
+3 = 300 มิลลิกรัม%
+4 = มากกว่า 1000 มิลลิกรัม% (1 กรัม)
ยกเลิกเกณฑ์การวินิจฉัยภาวะครรภ์เป็นพิษระดับรุนแรง
proteinuria มากกว่า 5 กรัมในปัสสาวะ 24 ชั่วโมง
ภาวะครรภ์เป็นพิษระยะชัก (eclampsia)
ชักแบบ generalized convulsions ชักเกร็งแบบชักกระตุก
เกิดได้ทั้งในผู้ที่มีความดันโลหิตสูงไม่มาก ไม่มี proteinuria ไม่มีอาการบวม และ patellar reflexes ปกติ
การชักอาจเกิดได้ในขณะหลับและไม่มีสิ่งกระตุ้น และเกิดการชักซ้ำได้หากไม่ได้รับการรักษา
สาเหตุและพยาธิกำเนิดของภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
ระยะที่ 1 ระยะก่อนแสดงอาการ
มีการปรับเปลี่ยนจากลักษณะเนื้อเยื่อบุผิวไปเป็นลักษณะเนื้อเยื่อบุโพรงหลอดเลือด psuedovasculogenesis
ครรภ์เป็นพิษ จะเกิดความผิดปกติของการฝังตัวของรกความผิดปกติของ endovascular trophoblastic remodeling
การฝังตัวของรกที่ผิดปกติจะมีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของภาวะครรภ์เป็นพิษ
ระยะที่ 2 ระยะแสดงอาการ
รกที่ขาดออกซิเจนจะมีการหลั่งสารต่าง ๆออกมาในกระแสเลือด
โพรงหลอดเลือดบาดเจ็บ และขาดเลือด เกิดความผิดปกติ
อาการ ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ภาวะมีโปรตีนในปัสสาวะ
พยาธิสรีรภาพของภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
ระบบไต (renal system)
ทำลายของชั้นเยื่อบุหลอดเลือดในไต เกิด glomerular capillary endotheliosis ทำให้ glomerularinfiltration rate ลดลง
ปริมาณปัสสาวะลดลง และระดับ serum uric acid และ creatinineเพิ่มขึ้น
ระบบหัวใจและปอด
plasma albumin ลดลง เนื่องมาจากเกิด proteinuria และการรั่วของ capillaries นี้ทำให้ colloid osmotic pressure ลดลง
เกิดน้ำท่วมปอด
สารน้ำในระบบไหลเวียนโลหิตจะรั่วออกไปคั่งตามเนื้อเยื่อ
ระบบเลือดและการแข็งตัวของเลือด
เกล็ดเลือดไปจับตัวเกาะกลุ่มตามเยื่อบุหลอดเลือดที่ถูกทำลาย
ระบบตับ
อาการปวดใต้ชายโครงขวา หรือจุกแน่นใต้ลิ้นปี่ คลื่นไส้อาเจียน
มี blood glucose ลดลง ในรายรุนแรงอาจพบมีตับแตก
ระบบประสาท
พบอาการปวดศีรษะ ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง มี hyperreflexia
มีอาการชักเกร็ง-ชักกระตุก
ระบบการมองเห็น
หดรัดตัวของหลอดเลือดที่จอตา ทำให้เกิด retinal edema เกิดอาการตาพร่ามัว
การมองเห็นผิดปกติ
อาจทำให้เกิดการหลุดของจกตา
สมองส่วนท้าย occipital lobe อาจทำให้เกิดอาการตาบอด
รก และมดลูก
มีการแตกทำลายของเม็ดเลือดและการจับตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เกิดการตายของเนื้อรกและผนังมดลูก การทำหน้าที่ของรกเสื่อมลง
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
สตรีที่ไม่เคยคลอดบุตรมาก่อน (nulliparity)
ประวัติครรภ์เป็นพิษในครรภ์ก่อน
ผ่านการคลอดบุตรคนก่อนมาอย่างน้อย 10 ปี
สตรีอายุมากขึ้นตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป
ดัชนีมวลกายตั้งแต่ 30 kg/m2 ขึ้นไป
การตั้งครรภ์แฝด ครรภ์แฝดที่มีจำนวนทารกมาก
ประวัติพันธุกรรมครรภ์เป็นพิษในครอบครัวของสตรีตั้งครรภ์
ประวัติมีความเจ็บป่วยทางอายุรกรรมที่เกี่ยวข้อง
ความผิดปกติทางสูติกรรม
ภาวะโภชนาการบกพร่อง เช่น ขาดวิตามินซี วิตามินอี ขาดแคลเซียม
อาการและอาการแสดง
ภาวะ preeclampsia
ปวดศีรษะส่วนหน้า
การมองเห็นผิดปกติ
ปวดใต้ชายโครงขวา
จุกแน่นใต้ลิ้นปี่
อาการแสดง
1.Systolic BP ≥ 160 mmHg Diastolic BP ≥ 110 mmHg.
2.น้ำท่วมปอด
3.มีอาการชักแบบชักทั้งตัว
4.เลือดออกในสมอง
5.ตาบอดจากครรภ์เป็นพิษในสมอง
ภาวะ Eclampsia
ระยะก่อนชัก
กระสับกระส่าย
ตามองนิ่งอยู่กับที่
ศีรษะหมุนไปด้านหนึ่งจนตึง
รูม่านตาขยาย
ระยะเริ่มแรกของอาการชัก
อาการกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้า
มุมปากกระตุก ริมฝีปากเบี้ยว
ระยะชักเกร็ง
เกร็งกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
ลำตัวเหยียด ศีรษะหงายไปด้านหลัง มือกำแน่น แขนงด
อาจมีการหยุดหายใจ หน้าเขียว
ระยะชักกระตุก
การกระตุกของขากรรไกร อาจกัดลิ้นบาดเจ็บ
น้ำลายฟูมปากใบหน้าบวมสีม่วง ตาแต้มเลือด หนังตาจะปิดและเปิดสลับกัน
ระยะหมดสติ
หมดสติ
ร่างกายมีการปรับโดยการหายใจเร็ว
ผลกระทบต่อภาวะสุขภาพของสตรีตั้งครรภ์และทารก
เพิ่มอัตราการเจ็บป่วยหรืออัตราการเสียชีวิตได้
ผลกระทบต่อสตรีตั้งครรภ
รกลอกตัวก่อนกำหนด
เลือดแข็งตัวผิดปกติ
หัวใจขาดเลือด
หัวใจล้มเหลว
ไตวายเฉียบพลัน
น้ำท่วมปอด
เลือดออกในสมอง
เลือดออกในตับจนมีการตายของเซลล์ตับ
เกล็ดเลือดต่ำ
ตาบอดชั่วคราว
หลอดเลืออุดตัน
12.รชัก
ผลกระทบของภาวะครรภ์เป็นพิษต่อทารก
ทารกโตช้าในครรภ์
ขาดออกซิเจน เลือดเป็นกรด
ทารกคลอดก่อนกำหนด
แท้งหรือเสียชีวิตในครรภ์
ทารกตายในครรภ์เฉียบพลันหรือตายในระยะแรกเกิด
การประเมินและวินิจฉัย
การซักประวัติ
อาการแสดงของภาวะ preeclampsia เช่น ปวดศีรษะ
การตรวจร่างกาย
การประเมินความดันโลหิติ
การประเมินระดับรีเฟล็กซ์
การประเมินอาการบวม
ประเมินอาการบวมกดบุ๋ม
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจพิเศษ การตรวจพิเศษเพื่อทำนายการเกิด preeclampsia
Angiotensin sensitivity test เป็นการทดสอบโดยฉีดสาร angiotensin II เข้าทางหลอดเลือดดำ
Roll over test เป็นการทดสอบที่ทำเมื่ออายุครรภ์อยู่ระหว่าง 28-32 สัปดาห์ วัดความดันโลหิตขณะอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย 15 นาที
Isometric exercise เป็นการทดสอบโดยให้สตรีตั้งครรภ์เกร็งกล้ามเนื้อแขน
Specific blood testing เช่น การตรวจหาระดับ angiogenic factors
Doppler velocimetry เป็นการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงตรวจการไหลเวียนเลือดของหลอดเลือดแดงในมดลูก
MAPมากกว่า 90 mmHg แสดงว่าสตรีตั้งครรภ์รายนั้นมีความเสี่ยงสูง
ยาที่ใช้ในการรักษา
ยาป้องกันการชัก
ยาลดความดันโลหิต
Nifedipine
Labetalol
Hydralazine
การพยาบาล
การพยาบาลสตรีที่มีภาวะ preeclampsia
นอนตะแคงซ้าย
ประเมินความดันโลหิตทุก 4 ชั่วโมง
ติดตามประเมินผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษ
ติดตาม อาการและอาการแสดงของ preeclampsia
ดูแลให้รับประทานอาหารธรรมดา
ดูแลติดตามการประเมินสุขภาพทารกในครรภ์
ประเมินและให้การประคับประคองสภาวะทางอารมณ์
การพยาบาลสตรีตั้งครรภ์ที่มีภาวะ eclampsia
จัดให้นอนตะแคง ใส่ไม้กั้นเตียง โดยใช้หมอนรองรับรอบด้าน
ให้ออกซิเจนขณะชัก และภายหลังชัก และประเมินความรุนแรงของการขาดออกซิเจน
ดูแลให้ได้รับยาระงับชักตามแผนการรักษา
ดูแลป้องกันการชักซ้ำภายหลังคลอด
ให้การดูแลป้องกันการตกเลือดหลังคลอด
ดูแลทารกแรกเกิด ซึ่งอาจมีภาวะขาดออกซิเจน