Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
563000012710401
กรณีศึกษา: น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน, B6128623…

กรณีศึกษา: น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน
3.จะประสานงานและแจ้งศูนย์สั่งการอย่างไร
จากสถานการณ์น้ำป่าไหลลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชานชนในพื้นที่ บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมือง จ. เชียงราย ประชาชนได้รับความเสียหายกว่า 20 หลัง เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายและเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว พบผู้บาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 10 ราย สาหัส 6 ราย และบาดเจ็บทั่วไป 3 ราย ต้องทำการนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
-
-

สถานการณ์: ฝนตกหนักตลอดคืนส่งผลให้น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ บ้านกระเหรี่ยงรวมมิตร ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายมากกว่า 20 หลัง เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายและเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
- เมื่อรถ EMS คันแรกที่ไปถึง ( 3 คน ) หัวหน้าทีม ( พยาบาล ) ใส่ชุดทำหน้าที่เป็น Field Commander ชั่วคราว จนกว่าตัวจริงตามแผน หรือผู้ที่อาวุโสกว่าจะมาถึง เลือกจุดจอดรถ เปิดไฟกระพริบ ผู้ช่วย ( EMT ) ทำหน้าที่สื่อสารประสานงาน FR กั้นเขตปฏิบัติการ วางธง และช่วยจัดเตรียมพื้นที่ จุดต่างๆอย่างไร
การเลือกจุดจอดรถ ควรจอดรถในที่สังเกตเห็นได้ง่าย และเปิดสัญญาณไฟสีน้ำเงิน – แดง กรณีเหตุสาธารณภัยจอดในที่เป็นเนินสูงกว่าและอยู่เหนือลม ระยะห่างจากพื้นที่เกิดเหตุไม่น้อยกว่า 30 เมตร จอดหันหน้ารถพร้อมออกได้ทันที สามารถลงปฏิบัติงานได้สะดวก ใส่เบรกมือ ไม่จอดซ้อนคัน ล็อครถ ไม่ควรดับเครื่องยนต์เว้นกรณีจำเป็น
กั้นเขตการปฏิบัติงาน
- เขตปฏิบัติการชั้นนอก เพื่อกั้นประชาชนโดยรอบและผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากเขตปฏิบัติการ
- เขตปฏิบัติการชั้นใน กั้นบุคลากรทางสาธารณสุขออกจากจุดเกิดเหตุให้พ้นอันตราย ประมาณ 100 ฟุตจากจุดเกิดเหตุ
การวางธง วางธงสีส้ม หมายถึง สถานการณ์อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายสูง เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมสถานการณ์ ให้อพยพไปยังสถานที่ปลอดภัย
-

2.การประเมินเรื่อง Safety
- Self safety สังเกตสิ่งที่จะทำให้เกิดอันตรายต่อตนเองและสมาชิกในทีม สวมรองเท้าบู๊ตเนื่องจากพื้นที่นั้นมีดินโคลน สวมชุดและอุปกรณ์ป้องกันตนเองเนื่องจากว่าเราไม่ทราบว่าผู้ป่วยคนใดมีโรคประจำตัวที่สามารถแพร่กระจายได้
- Scene safety หากมีน้ำไหลแรง หรือดินถล่ม ไม่ควรเข้าไปใกล้พื้นที่นั้น ควรให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยนำผู้ป่วยออกมาจากพื้นที่ จากสถานการณ์พบว่ามีบ้านบางหลังที่พังถล่ม หากมีผู้ป่วยอยู่ในนั้น ควรให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยเหลือนำผู้ป่วยออกมาเช่นกัน หากมีเสาไฟล้ม สายไฟฟ้าพาดรอบพื้นที่ที่ผู้ป่วยอยู่ ให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเข้าช่วยเหลือ
- Survivor safety รีบเคลื่อนย้ายผู้ป่วยออกจากจุดที่มีน้ำไหลแรง หรือดินถล่มไปยังจุดปลอดภัยเพื่อให้การรักษา ประเมินผู้ป่วยและให้การพยาบาลเบื้องต้น และรีบนำส่งผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะวิกฤตไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงโดยเร็ว
การประเมิน

Triage sieve

Triage sort
รายที่ 1: ชายอายุ 40 ปี มีแผลที่หน้าอกข้างช้าย หายใจ 45 ครั้งต่อนาที P 130 B/M BP 90/75 mmHg E1V2M1 02 sat 80%
Triage sort: ทำการประเมินคะแนนการบาดเจ็บ (Revised trauma score) ได้เท่ากับ 8 คะแนน เนื่องจาก GCS = 4 คะแนน (Score =1), SBP = 90 mmHg (Score=4), RR =45 ครั้งต่อนาที (Score=3)
จะให้การดูแลแผลที่หน้าอกซ้ายโดยการปิดแผลไม่ลงน้ำหนักมากเกินไป ยึดวัตถุไม่ให้ขยับ เพื่อที่จะไม่เพิ่มแรงปักฝังลึกลงไปอีก และให้มีการส่งต่อผู้บาดเจ็บไปยังศูนย์การดูแลผู้บาดเจ็บหรือโรงพยาบาลใหญ่เพื่อการดูที่ปลอดภัย ระหว่างการส่งต่อดูแลให้ Oxygen mask with bag reservior 10 – 12 LPM
Triage sieve: สีแดง คือ ผู้บาดเจ็บระดับฉุกเฉินหรือวิกฤต เนื่องจาก ผู้ป่วยแผลที่ไม้ทิ่มหน้าอกข้างช้าย หายใจ 45 ครั้งต่อนาที P 130 ครั้งต่อนาที ไม่ทำตามคำสั่งได้
-
-
รายที่ 5: หญิงอายุ 31 ปี ขาหักทั้งสองข้าง หายใจ 24 ครั้ง ชีพจร 132 ครั้งต่อนาที BP 110/82 mmHg E4V5M5
Triage sieve: สีแดง คือ ผู้บาดเจ็บระดับฉุกเฉินหรือวิกฤต เนื่องจาก ผู้ป่วยไม่สามารถเดินได้ต้นขาหักทั้งสองข้าง หายใจ 24 ครั้ง ชีพจร 132 ครั้งต่อนาที
การดูแล
- สังเกตอาการและอาการแสดงว่ามีการบวม รอยฟกช้ำ หรือ จ้ำเลือด บาดแผล ความพิการผิดรูป และคลำอย่างนุ่มนวล
- ให้ส่วนที่บาดเจ็บอยู่นิ่งโดยการดาม ให้เลยตำแหน่งที่ได้รับบาดเจ็บ
- ประเมินระดับความรู้สึกตัว และตรวจร่างกาย โดยตรวจทั้งตัว หัวจรดเท้า
- การเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บ เพื่อเคลื่อนย้ายออกจากสถานที่มีอันตรายไปสู่ที่ปลอดภัยหรือโรงพยาบาล โดยใช้ Long spinal board
- ประคบเย็นและยกส่วนที่บาดเจ็บให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อลดบวม
-
ประเมิน triage sort ได้ดังนี้ ทำการประเมินคะแนนการบาดเจ็บ (Revised trauma score) ได้เท่ากับ 12 คะแนน = T3
-
รายที่6: ชาย 46 ปี นอนกับพื้นมีแผลที่หน้าอก หายใจ 28 ครั้ง/นาที ชีพจร 112 ครั้ง/นาที BP 130/95 mmHg O2 sat 92% E3V3M5
ประเมิน triage sort ได้ดังนี้ ทำการประเมินคะแนนการบาดเจ็บ (Revised trauma score) ได้เท่ากับ 11 คะแนน = T2
การดูแล
- ประเมินเบื้องต้นตามหลัก ABC
- ฟังเสียงปอด เนื่องจากมีการบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอก ( Blunt chest injury)
- ประเมินระดับความรู้สึกตัว
-
- จัดท่านอนศีรษะสูงเพื่อให้หายใจได้สะดวก
-
Triage sieve: สีเหลือง คือ ผู้บาดเจ็บรายนี้อยู่ในความรุนแรงระดับเร่งด่วน เนื่องจาก ผู้ป่วยหายใจ 28 ครั้งนาที ชีพจร 112 ครั้ง/นาที ไม่ทำตามคำสั่ง
-
รายที่ 7: หญิง 33 ปี นอนกับพื้นบอกว่าเจ็บหน้าอก หายใจ 28 ครั้ง/นาที ชีพจร 96 ครั้ง BP 130/95 mmHg E4V5M6 O2 sat 95%
ประเมิน triage sort ได้ดังนี้ ทำการประเมินคะแนนการบาดเจ็บ (Revised trauma score) ได้เท่ากับ 12 คะแนน = T3
การดูแล
- จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 30-45 องศา
- สอบถามลักษณะการเจ็บหน้าอกว่าเป็นแบบใด
- ประเมินบริเวณหน้าอกว่ามีแผลหรือรอยช้ำอะไรหรือไม่
- obs. V/S ทุก 15 นาที 4 ครั้ง 30 นาที 2 ครั้ง หลังจากนั้นทุก 1 hr. เมื่ออาการ คงที่
- ให้ผู้ป่วยนอนพักเพื่อรอเคลื่อนย้ายผู้ป่วย
Triage sieve: สีเหลือง คือ ผู้บาดเจ็บรายนี้อยู่ในความรุนแรงระดับเร่งด่วน เนื่องจาก ผู้ป่วยหายใจ 28 ครั้งนาที ชีพจร 96 ครั้ง
-
รายที่ 8: ชายวัยุร่น นั่งที่พื้น บอกปวดท้องมาก หายใจ 30 ครั้งต่อนาที BP 110/70 mmHg ,P 100 bpm (ให้ GCS E4V5M6)
ประเมิน triage sort ได้ดังนี้ ทำการประเมินคะแนนการบาดเจ็บ (Revised trauma score) ได้เท่ากับ 11 คะแนน = T2
การดูแล
- จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนท่าศีรษะสูง 30-45 องศา
- ประเมินระดับความปวดของผู้ป่วย ใช้ pain score ในการประเมินและสังเกตพฤติกรรมการแสดงออกของผู้ป่วย
- ให้ผู้ป่วยบอกถึงลักษณะการเจ็บปวด ตำแหน่งที่มีการเจ็บปวดเพื่อคาดการณ์ปัญหา
- ประเมินว่ามี Internal bleeding หรือไม่ได้แก่อาการปวด บวม กดเจ็บ รอยช้ำบริเวณที่ได้รับบาดเจ็บ
- ฟัง bowel sound เพื่อประเมินการทำงานของลำไส้
-
Triage sieve: สีเหลือง คือ ผู้บาดเจ็บรายนี้อยู่ในความรุนแรงระดับเร่งด่วน เนื่องจาก ผู้ป่วยหายใจ 30 b/min ชีพจร 124 ครั้ง/นาที
รายที่ 9: หญิง 60 ปี ขาขวาหักมีเลือดออกมาก หายใจ8ครั้ง/นาที ชีพจร125ครั้ง/นาที BP100/85 mmHg CapRefill 3 sec
Triage sieve: สีเหลือง คือ ผู้บาดเจ็บรายนี้อยู่ในความรุนแรงระดับเร่งด่วน เนื่องจาก ผู้ป่วยมาสามรถเดินได้ขาขวาหัก หายใจ 18 ครั้งนาที ชีพจร 110 ครั้ง/นาที
ประเมิน triage sort ได้ดังนี้ ทำการประเมินคะแนนการบาดเจ็บ (Revised trauma score) ได้เท่ากับ 7 คะแนน = T1
การดูแล
- จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนท่าศีรษะสูง 45 องศา
- ประเมินระดับความรู้สึกตัวของผู้ป่วย เพื่อประเมินภาวะช็อคจากการสูญเสียเลือด
- ให้ ออกซิเจน 10 – 12 ลิตร / นาทีโดยใช้ Mask with bag reservoir
- ประเมินปริมาณการสูญเสียเลือด
- เปิดเส้นเพื่อให้สารน้ำ 0.9% NSS IV 1000 cc 80 cc/hr
- วัด V/S และ O2 sat ทุก 15 นาที
- ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ ประคองและจับส่วนที่บาดเจ็บอย่างมั่นคง อย่าพยายามเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บโดยไม่จำเป็น
- ถ้ากระดูกหักโผล่ออกมานอกเนื้อ อย่าดันกลับเข้าที่เดิมเด็ดขาด เพราะจะทำให้เชื้อโรคและสิ่งสกปรกจากภายนอกเข้าไปในแผลส่วนลึกได้ อย่าดึง หรืออย่าพยายามจัดท่าจัดรูปร่างของอวัยวะนั้นกลับที่ตำแหน่งเดิม
-
-
รายที่ 10: ชายอายุ 40 ปี นอนนิ่งมีแผลเปิดที่ศีรษะ มีสมองไหล หลังเปิดทางเดินหายใจ หายใจเองได้ช้าๆ 5 ครั้ง/นาที
Triage sieve: สีดำ คือ ผู้บาดเจ็บรายนี้ได้เป็นผู้เสียชีวิต เนื่องจาก ผู้ป่วยนอนนิ่งมีแผลเปิดที่ศีรษะ มีสมองไหล หลังเปิดทางเดินหายใจ หายได้เองช้าๆ 5 ครั้งต่อนาที
ประเมิน triage sort ได้ดังนี้ ทำการประเมินคะแนนการบาดเจ็บ (Revised trauma score) ได้เท่ากับ 0 คะแนน = Dead
-
-