Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต - Coggle Diagram
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
ภาวะความดันโลหิตสูงวิกฤต(Hypertensive crisis)
Hypertensive crisis หมายถึง ภาวะความดันโลหิตสูงอย่างเฉียบพลันสูงกว่า 180/120 mmHg.ร่วมกับการทำลายของอวัยวะเป้าหมาย TOD
สาเหตุ
การหยุดยาลดความดันโลหิตทันที
การใช้ยางบางชนิดที่ทำให้ความดันโลหิตสูง
Acute or Chronic renal disease
Exacerbation of chronic hypertension
อาการและอาการแสดง
Hypertensive encephalopathy อาการทางสมองมีอาการปวดศรีษะ มองเห็นผิดปกติ สับสน คลื่นไส อาเจียน
กลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน
กล้ามเนื้อหัวใจตาย
เจ็บแน่นหน้าอกแบบเฉียบพลัน/แบบไม่คงที่
น้ำท่วมปอด
ภาวะเลือดเซาะในผนังหลอดเลือดเอออร์ต้า
การซักประวัติ
ซักประวัติการเป็นโรคประจำตัว สาเหตุเกี่ยวกับTOD
การตรวจร่างกาย
วัด BP เปรียบเทียบซ้ายและขวา
ตรวจหาความผิดปกติที่เกิดจาก TOD
Papilledema
Cotton-wool spots and hemorrhages
Oliguria or azotemia
Aortic dissection
การรักษา
MAP ลดลงจากระดับเดิม20-30%ภายใน2ชั่วโมงแรก และ 160/100mmHg ใน2 ชั่วโมง
ยาลดความดันโลหิตควรออกฤทธิ์เร็วและหมดฤทธิ์เร็ว
Sodium nitroprusside
การพยาบาล
ในระยะเฉียบพลันเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
Neurologic symptoms
Cardiac symptoms
Acute kidney failure
ประเมินและบันทึกการตอบสนองต่อยาโดยติดตามความดันโลหิต
การรักษาด้วย Short-acting intravenous antihypertensive agents
Sodium nitroprusside
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ(Cardiac arrhythmias)
Atrial fibrillation(AF)
หมายถึง ภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพริ้ว ไม่สามารถบอก
P Wave QRS complex ไม่เปลี่ยนแปลง
การเต้นของ Ventricle60-100ครั้ง/นาที เรียกว่า Controlled response
การเต้นของ Ventricle มากกว่า 100ครั้ง/นาที เรียกว่า rapid ventricular response
สาเหตุ
โรคหัวใจรูห์มาติก
ภาวะหัวใจล้มเหลว
โรคหัวใจขาดเลือด
ความดันโลหิตสูง
เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
หลังผ่าตัดหัวใจ
ไทรอยด์
อาการและอาการแสดง
ใจส่น อ่อนเพลีย เหนื่อยเวลาออกแรง คลำชีพจรมือเบา
การพยาบาล
ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจและจังหวะให้กลับสู่ sinus rhythm
ให้ยา Anticoagulation ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
Ventricular tachycardia(VT)
หมายถึง ภาวะหัวใจเต้นเต้นผิดจังหวะ ชนิดที่ Ventricle เป็นจุดกำเนิด ในอตราเร็วมากแต่สม่ำเสมอ 150-250 ครั้ง/นาที ไม่พบP Wave QRS complex กว้าง
ประเภทของ VT
Nonsustained VT คือ เกิดต่อเนื่องเวลาน้อยกว่า 30 วินาที
Sustained VT คือ เกิดจ่อเนื่องนานกว่า 30 วินาที
Monomorphic VT คือ QRS complex รูปแบบเดียว
Polymorphic VT คือ QRS complex รูปแบบต่างกัน
สาเหตุ
กล้ามเนื้อหัวใจตายบริเวณกว้าง
โรคหัวใจรูห์มาติก
ถูกไฟฟ้าดูด
โพแทสเซียมในเลือดต่ำ
พิษจากยา Digitalis toxicity
กล้ามเนื้อหัวใจถูกกระตุ้นจากการตรวจสวนหัวใจ
อาการและอาการแสดง
ใจสั่่น ความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หัวใจหยุดเต้น
การพยาบาล
คลำชีพจร ประเมินสัญญาณชีพ ระดับความรู้สึกตัว เจ็บหน้าอก สวนปัสสาวะ
ผู้ที่คลำชีพจรไม่ไ้ให้เตรียมครื่อง Defibrillator
Ventricular fibrillation(VF)
หมายถึง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ชนิดที่ventricle เป็นจุดกำเนิด เต้นรัวไม่เป็นจังหวะ ไม่มี P wave ไม่เห็นรูปร่างของ QRS complex
สาเหตุ
Hypovolemia
Hypoxia
Acidosis
Hypokalemia
Hyperkalemia
Hypothemia
Tension pneumothorax
Cardiac tamponade
Toxins
Pulmonary thrombosis
Coronary thrombosis
อาการและอาการแสดง
หมดสติ ไม่มีชีพจร รูม่านตาขยาย
การพยาบาล
ป้องกันภาวะ tissue hypoxia ระดับที่ปลอดภัย 90-94 %
ติดตามค่าเกลือแร่
ติดตามผลข้างเคียงของยา
ติดตามและบันทึกอาการแสดงของภาวะอวัยวะและเนื้อเยื่อ
ติดตามและบันทึกสัญญาณชีพ
ให้ยา antidysrhthymia ถ้าอัตราการเต้นช้ากว่า60ครั้ง/นาที เตรียมอุปกรณ์ใส่temporary pacing
ภาวะหัวใจล้มเหลว(Acute Heart Failure)
หมายถึง การเกิดอาการและอาการแสดงและอาการแสดงของภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างรวดเร็วจากการทำงานผิดปกติขอหัวใจ ทั้งการบีบตัวหรือคลายตัวของหัวใจ การเต้นของหัวใจผิดจังหวะหรือการเสียสมดุลของPreloadและafterload
สาเหตุ
โรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน
ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
ภาวะหัวใจวาย
กลไกการไหลเวียนของเลือดิดปกติเฉียบพลัน
ภาวะความดันลหิตสูงวิกฤต
กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจากความผิดปกติอื่นๆ
หลอดเลือดปอดอุดตันเฉียบพลัน
เกิดจากปัจจัยกระตุ้น
ความผิดปกติทางหัวใจและหลอดเลือด
ความผิดปกตินอกระบะบหัวใจและหลอดเลือด
อาการและอาการแสดง
Acute decompensated heart failure
มีอาการภาวะหัวใจล้มเหลวที่เกิดขึ้นเฉียบพลันแต่ไม่รุนแรงมาก
Hypertensive acute heart failure
อาการภาวะหัวใจล้มเหลวที่มีปอดบวมน้ำ ความดันโลหิตสงรุนแรงร่วม
การทำงานของหัวใจล่างซ้ายอยู่ในเกณฑ์ดี
Pulmonary edema
อาการแสงของปอดบวมน้ำ ค่าออกซิเจนต่ำกว่า 90
Cardiogenic shock
ร่างกายมีpoor tissue perfusion
BP Systolic ต่ำกว่า 90mmhg หรือ MAP < 60mmHg
ปัสสาวะออกน้อยกว่า 0.5/kg/hr.
High output failure
หัวใจเต้นเร็ว ปลายมือปลายเท้าอุ่น ร่วกับภาวะน้ำท่วมปอด
Right heart failure
ภาวะหัวใจด้านขวาทำงานล้มเหลว
การเพิ่มขึ้นของหลอดเลือดดำที่คอ
การบวมของตับ ร่วมกบความดันต่ำ
อาการและอาการแสดงที่พบบ่อย
หายใจเหนื่อย นอนราบไม่ได้ อ่อนเพลีย
บวมตามแขนขา ความดันโลหิตสูง/ต่ำ
ท้องอืดโต แน่นท้อง
ปัสสาวะออกน้อย/มาก
หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว เส้นเลือดดำที่คอโป่งพอง
Lung crepitation
Wheezing
Pleural effusion
ตรวจพบหัวใจโต ตับโต
การรักษา
การลดการทำงานของหัวใจ
การให้ออกซิเจน
การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
การใส่บอลลูน
การดึงน้ำและเกลือแร่ที่คั่งออกจากร่างกาย
การใหห้ยาขับปัสสาวะ
การจำกัดสารน้ำและเกลือโซเดียม
การเจาะระบายน้ำ
การใช้ยา
กิจกรรมการพยาบาล
การลดการทำงานของหัวใจ
การลดความต้องการใช้ออกซิเจนของร่างกาย
การเพิ่มประสิทธิภาพการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
ประเมินอัตราการเต้นหากต่ำกว่า 60ครั้ง/นาที งดให้ยาและรายงานแพทย์
4.ดูแลให้ได้รับออกซิเจน
5.ดูแลให้กล้ามเนื้อหัวใจได้รับการไหลเวียนโลหิต
ดูแลการทำงานของเครื่องกระตุ้นหัวใจ
ดูแลให้ได้รับสารน้ำและอาหาร
ตอบสนองความต้องารพื้นฐาน
ประเมินสัญญาณชีพทุก1-ชั่วโมง
ติดตามและบันทึกค่าCVP,PCWP
สังเกต/บันทึกปัสสาวะทุก1ชั่วโมง
keep urine output >0.5/kg/hr.
ภาวะช็อก(Shock)
ประเภทของช็อก
ภาวะช็อกจากการขาดสารน้ำ(Hypovolemic shock)
เกิดจากการลดลงของปริมาณเลือหรือสารน้ำ(มากกว่า30-40%ของปริมาตรเลือด) ปริมาณเลือดกลับเข้าสู่หัวใจลดลง การเพิ่มระดับการเต้นของหัวใจ ร่างกายจะทำให้มีการหดตัวของหลอดเลือดส่วนปลาย ส่งผลให้SVRสูงขึ้น เพื่อเพิ่ม Cardiac output
สาเหตุ
การสูญเสียเลือด
การสูญเสียน้ำ
ภาวะช็อกจากภาวะหัวใจล้มเหลว(Cardiogenic shock)
เกิดจากหัวใจไม่สามารถส่งจ่ายเลือดไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
สาเหตุ
ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ
ความผิดปกติขอวลิ้นหัวใจและผนังหัวใจ
ภาวะหัวจเต้นผิดจังหวะ
ภาวะช็อกจากหลอดเลือดมีการขยายตัว(Vasodilatory shock)
เกิดจากหลอดเลือดส่วนปลายขยายตัว ทำให้เกิดการลดลงของแรงต้านของหลอดเลือด(SVR) ร่วมกับมีการไหวเวียนเลือดในระบบลดลงจากการไหลเวียนของเลือดลัดเส้นทาง
ภาวะช็อกจากการทำงานผิดปกติของต่อมหมวกไต(Adrenocortical)
ภาวะช็อกจากการติดเชื้อ(Septic shock)
ภาวะช็อกจากการแพ้(Anaphylactic shock)
ภาวะช็อกจากการอุดกั้นการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่หัวใจ(Obstructive shock)
เกิดจากการอุดกั้นการไหลเวียนของโลหิตสู่หัวใจห้องล่างซ้าย ส่งผลให้ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง มักมีความดันโลหิตต่ำลง ร่วมกับระดับของความดันในหัวใจห้องขวาเพิ่มมากขึ้น มีหลอดเลือดดำที่คอโป่งพอง CVP สูงขึ้น
สาเหตุ
Cardiac tamponade
tension pneumothorax
Pulmonary embolism
ภาวะช็อกขากความผิดปกติของระบบประสาท(Neurogenic shock)
เกิดจากความบกพร่องในการควบคุมของระบบประสาทอัติโนมัติ ที่ควบคุมการขยายตัวและหดตัวของหลอดเลือดเป็นผลให้มีการขยายตัวของหลอดเลือดดำและหลอดเลือดแดงขึ้นทันที ส่งผลให้เลือดมีการกระจายตัวไปยังหลอดเลือดส่วนปลายมากขึ้นหัวใจมีการเต้นช้าลง
สาเหตุ
เกิดจากการทำงานของประสาทซิมพาเธติก และการบาดเจ็บของไขสันหลัง
หมายถึง เกิดจากความผิดปกติจากทางสรีวิทยาเป็นผลให้เกิดการไหลเวียนโลหิตไปยังอวัยวะต่างๆไม่เพียงพอ ทำให้ปริมาณออกซิเจนที่ส่งไปเลี้ยงเนื้อเยื่อไม่เพียงพอ ทำให้เสียสมดุลของการเผาผลาญระดับเซลล์ อวัยวะต่างๆขาดออกซิเจน และสูญเสียหน้าที่
ระยะของช็อก
Compensated shock
Decompensated shock
Irreversible shock
การรักษา
การแก้ไขระบบไหลเวียนโลหิตให้ได้ปริมาณเลือดออกจากหัวใจต่อนาทีเพียงพอ MAP > 60mmHg
การให้สารน้ำ
การให้ยาที่มีผลต่อการบีบของหัวใจ
การแก้ไขภาวะพร่องออกซิเจนของเนื้อเยื่อและลดการใช้ออกซิเจน
การรักษาที่เฉพาะเจาะจงตามสาเหตุของภาวะช็อก
การแก้ไขความผิดปกติของภาวะกรดด่าง
กิจกรรมการพยาบาล
การป้องกันภาวะเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน
การส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตอย่างเพียงพอ
การแก้ไขสาหตุที่ทำให้เกิดภาวะช็อก
ส่งเสริมการปรับตัวของผู้ป่วยและครอบครัวต่อภาวะวิกฤต