บทที่ 5
มาตราฐานการศึกษา : ระบบการวัดผลแบบ OKRs

  1. การใช้ ORs กับการประกันคุณภาพการศึกษา

ความหมาย : OKR : Objective and Key Results คือ เครื่องมือในการตั้งเป้าหมายและก าหนดตัววัดผล

Objectives วัตถุประสงค์
หลัก (What) *ไม่มีตัวเลข

Key Results ผลลัพธ์หลัก (How) *เป็นตัวเลข

กรอบการตั้งเป้าหมาย SMARTER

S หมายถึง เฉพาะเจาะจง (Specific)

M หมายถึง วัดได้(Measurable)

A หมายถึง เห็นพ้องร่วมกัน (Agreed Upon)

R หมายถึง เป็นจริงได้(Realistic)

T หมายถึง มีก าหนดเวลา (Time-Based)

E หมายถึง มีจริยธรรม (Ethical)

R หมายถึง บันทึกผลได้(Recorded)

การบริหารโดยยึดวัตถุประสงค์ MBOs

มีความ
มุ่งมั่นสู่เป้าหมายในทิศทางเดียวกัน

เน้นการก าหนดวัตถุประสงค์ที่มี
ความเฉพาะเจาะจง

มุ่งเน้นการพัฒนาหรือสร้างข้อตกลงที่มี
ร่วมกันระหว่างผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา

การขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพการศึกษา MBOs

  1. การพัฒนาหลักสูตรเน้นให้ประสานงานร่วมกันกับผุ้บริหารและผู้สอน about การตัดสินใจและกำหนดเป้าหมาย
  1. การกำหนดองค์ประกอบและโครงสร้างภายในระบบการเรียน/สอน ต้องสดคล้องเชื่อมโยงกัน

แนวคิดการสร้างวัตถุประสงค์และผลลัพธ์หลัก (Objectives and Key Results)

หลักการสำคัญของ OKRs

ระบบ KPIs จะมุ่งเน้นการรวมศูนย์การตัดสินใจ (Centralization) เป็นหลัก ซึ่งแตกต่าง
จาก ระบบ OKRs ที่จะเน้นการกระจายศูนย์การตัดสินใจไปสู่ผู้ปฏิบัติ(พนักงาน)

MBOs

มีเฉพาะเรื่องวัตถุประสงค์เท่านั้น

มีการประเมินผลรายปีเป็นหลัก

สนใจเฉพาะวัตถุประสงค์ของตนเป็นหลัก

ระบบที่เน้นการบริหารแบบบนล่าง

ใช้เชื่อมโยงกับผลตอบแทนของพนักงาน

เป็นระบบที่มักจะท าให้คนไม่กล้าเสี่ยง

OKRs

มีทั้งเรื่องวัตถุประสงค์และผลลัพธ์หลัก

มีการประเมินรายไตรมาส

เป็นระบบที่มีการเปิดเผยข้อมูลต่าง ๆ มากกว่า

ระบบแบ่งผสมคือทั้งบนล่างและล่างขึ้นบน

ไม่มีการเชื่อมโยงกับผลตอบแทนโดยตรง

สนับสนุนให้คนที่ตั้งเป้าหมายได้ท้าทายมากกว่า

เน้นเฉพาะเรื่องที่สำคัญ

เน้นทำงานเป็นทีม

เน้นผู้รับผิดชอบ / ติดตามง่าย

เน้นตั้งเป้าหมายท้าทาย

ขั้นตอนการออกแบบระบบ OKRs

  1. ออกแบบวัตถุประสงค์
  • กำหนดกลยุทธ์หลักขององค์กร
  • จำนวนไม่กเิน 3-5ข้อ /รายไตรมาส ถึงรายปี
  • มีลักษณะเชิงคุณภาพ
  1. ออกแบบผลลัพธ์หลัก
  • ชัดเจนวัดผลได้ไม่มีความคลุมเครือ
  • มีจำนวนไม่มาก ไม่เกิน 5 ผลลัพธ์/วัตถุประสงค์ 1ข้อ
  • เขียนผลลัพธ์หลัก ต้องออกแบบค่าเป้าหมายและมีค.้ทาทาย

การตรวจสอบ OKRs

ที่ตั้งมีความท้าท้าย เป็นไปได้ไม่ง่าย ไม่ยาก

ผลลัพธ์หลัก ต้องวัดผลได้ชัดเจน

ที่ตั้งมีความสอดคล้องกับ OKRs ในระดับบน (Vertical Alignment)และ OKRs ในระหว่างหน่วยงาน (Horizontal Alignment)

  1. การออกแบบระบบ OKRs

OKRs ระดับปฐมวัย

OKRs ระดับประถมศึกษา

OKRs ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น

OKRs ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/อาชีวศึกษา

OKRs ระดับอุดมศึกษา

1) ผู้เรียนรู้(Learner Person) “รักและรับผิดชอบต่อการเรียนรู้ชอบการอ่านมีความรู้พื้นฐาน ทักษะและสมรรถนะทางภาษา การค านวณมีเหตุผล มีนิสัยและสุขภาพที่ดีมีสุนทรียภาพในความงามรอบตัว”

2) ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Co-Creator)

3) พลเมืองที่เข้มแข็ง (Active Citizen)

“รับผิดชอบในการท างานร่วมกับผู้อื่น มีความรู้ทักษะ สมรรถนะทางดิจิทัลการคิดสร้างสรรค์ภาษาอังกฤษ การสื่อสาร และความรอบรู้ด้านต่าง ๆ”

“แยกแยะผิดถูก ปฏิบัติตนตามสิทธิและหน้าที่ของตนโดยไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เป็นสมาชิกที่ดีของกลุ่ม มีจิตอาสา รักท้องถิ่น และประเทศ”

1) ผู้เรียนรู้(Learner Person)
“รู้จักตนเองและผู้อื่น มีเป้าหมายและทักษะการเรียนรู้บริหารจัดการ ตนเองเป็นมีทักษะชีวิตเพื่อสร้างสุขภาวะ และสร้างงานที่เหมาะสมกับช่วงวัย"

2) ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Co-Creator)
“มีทักษะการทำงานร่วมกัน ทักษะการสื่อสารรอบรู้ทางข้อมูลสารสนเทศและดิจิทัล เพื่อแก้ปัญหาการคิดวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์นำความคิดสู่การสร้างผลงาน”

3) พลเมืองที่เข้มแข็ง (Active Citizen)
“เชื่อมั ่นในความถูกต้อง ยุติธรรม มีจิตประชาธิปไตย มีส านึกและภาคภูมิใจในความเป็นไทยและพลเมืองอาเซียน”

1) ผู้เรียนรู้(Learner Person)
“ชี้นำการเรียนรู้ด้วยตนเอง มีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีความรอบรู้ รู้ทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อพัฒนาสุขภาวะ คุณภาพชีวิตและอาชีพ”

2) ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Co-Creator)
“สามารถแก้ปัญหาสื่อสารเชิงบวก ทักษะข้ามวัฒนธรรม ทักษะการสะท้อนคิด การวิพากษ์เพื่อสร้างนวัตกรรม และสามารถเป็นผู้ประกอบการได้”

3) พลเมืองที่เข้มแข็ง (Active Citizen)
“เชื่อมั่นในความเท่าเทียม เป็นธรรม มีจิตอาสากล้าหาญทางจริยธรรม และเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้นร่วมสร้างสังคมที่ยั่งยืน”

1) ผู้เรียนรู้(Learner Person) “เรียนรู้ตลอดชีวิต พร้อมเผชิญความเปลี่ยนแปลงและมีความเป็นผู้นำเพื่อสร้างสัมมาอาชีพที่ดีต่อตนเองครอบครัว และสังคม”

2) ผู้ร่วมสร้างสรรค์นวัตกรรม (Innovative Co-Creator)
“ร่วมแก้ปัญหาสังคม การบูรณาการข้ามศาสตร์สร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อเพิ่มโอกาสและมูลค่าแก่ตนเองสังคมส่วนรวม และประเทศ”

3) พลเมืองที่เข้มแข็ง (Active Citizen)
“กล้าต่อต้านการกระทำในสิ่งที่ผิด ให้คุณค่ากับความรู้ความสามารถร่วมมือสร้างสรรค์การพัฒนาที่ยั ่งยืน ขจัดความขัดแย้งและสร้างสันติสุขทั้งในสังคมไทยและประชาคมโลก”

  1. ขั้นตอนการนำOKRs ไปใช้ในทางปฎิบัติ
  • การทำความเข้าใจในแนวคิดของ OKRs
  • เริ่มต้นออกแบบ OKRs
  • สื่อสารให้ทุกคนเข้าใจวิธีนำไปใช้
  • การนำOKRs ไปใช้ในทางปฏิบัต

หลักสำคัญ

C : Conversation หรือ การสนทนา
F : Feedback หรือการให้ข้อมูลย้อนกลับ
R : Recognition หรือ การให้การยอมรับ

การประเมินผลการทำงาน

ข้อดี 2 ประการ
1) ทุกคนกล้าท้าทาย หากทำได้ไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้ง
2) ทุกคนมีค.คิดสร้างสรรค์ หรือ นวัตกรรม
(ไม่ส่งผลต่อเงินเดือนหรือขั้นทำงาน)

ปัญหาที่เกิดจากการใช้ OKRs ในสถานศึกษา

  • ตั้งเป้าหมายไม่ท้าทาย
  • นำงานประจำทั่วไปที่ไม่สำคัญมาตั้งเป็นวัตถุประสงค์
  • ตั้งวัตถุประสงค์ไม่สอดคล้องไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์องค์กร
  • ตั้งผลลัพธ์ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
  1. บทสรุปการใช้ OKRs

การใช้OKRs ในการประกันคุณภาพสถานศึกษา

ปัญหา

  • ตัวชี้วัดไม่เหมาะสมกับลักษณะ รร.
  • เน้นหลักฐานรเอกสารมากเกินไป
  • ใช้เวลามาก ครูไม่มีเวลาจัดเตรียมการสอน
  • ผู้ประเมินไม่เข้าใจบริบทของแต่ละรร.

ประโยชน์ทีมีต่อสถานศึกษาและภาครัฐ

บทสรุป

ต่อสถานศึกษา

นำแนวคิดการออกแบบและการนำ OKRs ไปใช้กับโรงเรียน ปรับให้เข้ากับบริบทของแต่ละโรงเรียน

ต่อภาครัฐ

ระบบ OKRs ไปใช้กับโรงเรียน เพื่อก าหนดวัตถุประสงค์และผลลัพธ์หลักให้สอดคล้องกับนโยบายและโครงการของกระทรวง

1) โฟกัสและจัดลำดับความสำคัญ

2) ปรับแต่งและเชื่อมโยงการทำงานเป็นทีม

3) ติดตามผลเพื่อแสดงค.รับผิดชอบ

4) เป้าหมายที่ท้าทายเพื่อผลงานที่แปลกใหม่

ข้อจำกัด

ไม่สามารถกำหนด OKRs ประเภทที่ต้องท ากับประเภทที่อยากทำให้แตกต่างกันได้

ขาดความเชื่อมั่นในการกำหนด OKRs ประเภทที่อยากทำ

กำหนดผลลัพธ์ที่สำคัญไม่เพียงพอต่อการบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์

นางสาว วิศรุตา จันทร์สีมุ่ย 61202315