Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต, น.ส.ภัณฑิรา ประนันท์…
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤตในระบบหัวใจและการไหลเวียนโลหิต
ภาวะความดันโลหิตสูงวิกฤต (Hypertensive crisis)
สาเหตุ
หยุดยาลดความดันโลหิตทันที
Acute or chronic renal disease
ใช้ยาบางชนิดที่มีผลทำให้ความดันโลหิตสูง
ยาคุมกำเนิด, NSAIDs, ยาหม้อ
Exacerbation of chronic hypertension
อาการ
เจ็บแน่นหน้าอกแบบเฉียบพลัน/แบบไม่คงที่
น้ำท่วมปอด
กล้ามเนื้อหัวใจตาย
กลุ่มอาการโรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน
hypertensive encephalopathy
สับสน
การมองเห็นผิดปกติ
คลื่นไส้ อาเจียน
ปวดศรีษะ
ภาวะเลือดเซาะในผนังหลอดเลือดเอออร์ต้า
คำศัพท์ที่สำคัญ
Cardiovascular disease (CVD)
โรคทางระบบหัวใจและหลอดเลือด
Hypertensive urgency
ภาวะความดันโลหิตสูงรุนแรงแต่ไม่มีอาการของอวัยวะเป้าหมายถูกทำลาย
Target organ damage (TOD)
ความผิดปกติที่เกิดแก่อวัยวะในร่างกายจากความดันโลหิตสูง
Hypertensive emergency/
Hypertensive crisis
ความดันโลหิต>180/120 mmHg
มีการทำลายของอวัยวะเป้าหมาย
ความดันโลหิตสูง (Hypertension)
มีค่าความดันโลหิตซิสโตลิก ตั้งแต่140 mmHg และความดันโลหิตไดแอสโตลิกตั้งแต่ 90 mmHg (วัดจากสถานพยาบาล)
ตรวจร่างกาย
วัดสัญญาณชีพ โดยเฉพาะความดันโลหิตเปรียบเทียบกันจากแขนซ้ายและขวา
ถ้าพบ cotton-wool spots and hemorrhages แสดงว่า retina nerves ถูกทำลาย
อาการของ oliguria or azotemia (excess urea in the blood) แสดงถึงภาวะไตถูกทำลาย
ถ้าพบ Papilledema ช่วยประเมินภาวะ IICP
ภาวะเลือดเซาะในผนังหลอดเลือดเอออร์ต้า ให้คลำชีพจรที่แขนและขาทั้ง 2 ข้าง และวัดความดันโลหิตที่แขนทั้ง 2 ข้าง จะแตกต่างกันอย่างชัดเจน
เรียกว่า pseudohypotension ของแขนข้างที่มี intimal flap ที่ไปอุดหลอดเลือดแดงที่มาเลี้ยงแขนข้างนั้น
ตรวจห้องปฏิบัติการ
ตรวจ CBC, Cr, eGFR, Chest X-ray, MRI
ซักประวัติ
โรคประจำตัว
ความสม่ำเสมอในการรับประทานยา
อวัยวะที่ถูกผลกระทบจากโรค (TOD)
อาการเจ็บหน้าอก
การรักษา
ลดความดันโลหิตเฉลี่ย (mean arterial pressure) ลงจากระดับเดิม 20-30% ภายใน 2 ชั่วโมงแรก และ 160/100 มม.ปรอท ใน 2-6 ชั่วโมง
ยาลดความดันโลหิต ออกฤทธิ์เร็วและหมดฤทธิ์เร็ว
sodium nitroprusside
ไม่แนะนำให้ใช้ในผู้ป่วยตับและไตบกพร่อง
nicardipine
nitroglycerin
labetalol
ไม่แนะนำให้ใช้ยา Nifedipine
การพยาบาล
ระยะเฉียบพลัน เฝ้าติดตามอาการ
Neurologic symptoms
confusion, stupor, seizures, coma, stroke.
Cardiac symptoms
aortic dissection, myocardial ischemia, dysrhythmias
Acute kidney failure
BUN Cr สูง
ระหว่างได้รับยา ประเมินและบันทึกการตอบสนองต่อยา
ควบคุมความดันโลหิตให้ต่ำกว่า180/105 mmHg ใน 24 ชั่วโมงแรก แต่ไม่เกินร้อยละ 15 ของค่าความดันโลหิตเริ่มต้น
ประเมินการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนปลายคือ ชีพจร capillary refill
ประเมินการไหลเวียนโลหิตมาเลี้ยงไต คือ บันทึกสารน้ำเข้าออก
รักษาด้วย sodium
nitroprusside
ผสมยาใน D5W และ NS
ก็บยาให้พ้นแสง
ยาเปลี่ยนสีเข้มขึ้น หรือเป็นสีส้ม น้ำตาล น้ำเงิน ห้ามใช้ยา
ห้ามฉีดเข้าหลอดเลือดดำโดยตรง
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
เสี่ยงต่อเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
เสี่ยงต่อเลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อส่วนปลายไม่เพียงพอ
วิตกกังวล
พร่องความรู้
ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน (Acute Heart Failure [AHF])
อาการ
Hypertensive acute heart failure หัวใจล้มเหลวที่มีปอดบวมน้ำ โดยมีความดันโลหิตสูงรุนแรง
Pulmonary edema ปวดบวมน้ำและO2 Sat<90%
Acute decompensated heart failure หัวใจล้มเหลงแต่ไม่มีอาการรุนแรง
Cardiogenic shock systolic<90 mmHg หรือ MAP<60 mmHg
High output failure หัวใจล้มเหลวโดยมีปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจต่อนาทีสูง
Right heart failure หัวใจด้านขวาทำงานล้มเหลว มีปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจต่อนาทีลดลง
การรักษา
ดึงน้ำและเกลือแร่ที่คั่งออกจากร่างกาย
การใช้ยา
ลดการทำงานของหัวใจ
ให้ออกซิเจน, การใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ
การรักษาสาเหตุ
สาเหตุ
โรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ
ภาวะหัวใจวาย กลไกการไหลเวียนของเลือดผิดปกติ
การพยาบาล
ลดความต้องการใช้ออกซิเจน
รับยาลด/ควบคุมการเต้นของหัวใจ Absolute bed rest ควบคุมอาการปวด
เพิ่มประสิทธิภาพการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
รับยาช่วยเพิ่มแรงบีบตัวของหัวใจ
หากอัตราการเต้นของหัวใจ60<ครั้ง/นาที งดให้ยาและรายงานแพทย์
ลดการทำงานของหัวใจ
ยาขับปัสสาวะ ยาขยายหลอดเลือด จำกัดสารน้ำและเกลือโซเดียม จัดท่านอนศีรษะสูง
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
keep urine output >= 0.5 ml/kg/hr.
การเต้นของหัวใจผิดจังหวะ หรือการเสียสมดุลของ preload และafterload
เกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจเดิม (decompensated) หรือ ไม่เคยมีโรคหัวใจเดิมอยู่ (de novo heart failure)
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac arrhythmias: Sustained AF, VT, VF)
Atrial fibrillation (AF)
คือ ภาวะหัวใจห้องบนเต้นสั่นพริ้ว
ถ้าอัตราการเต้นของ ventricle>100 ครั้ง/นาที เรียกว่า rapid ventricular response
ประเภท
Permanent AF AF ที่เป็นนานติดต่อกัน 1 ปีรักษาไม่หาย
Recurrent AF AF ที่เกิดซ้ำ>1 ครั้ง
Persistent AF AF ที่ไม่หายได้เองใน 7 วัน หายดัวยการรักษาด้วยยา
Paroxysmal AF AFที่หายได้เองใน 7 วันโดยไม่ต้องใช้ยา
Lone AF AFในผู้ป่วยอายุ<60 ปี ที่ไม่มีความผิดปกติของหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง
สาเหตุ
โรคหัวใจขาดเลือด โรคหัวใจรูห์มาติก หัวใจล้มเหลว ความดันโลหิตสูง เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจ และ hyperthyrodism
อาการ
คลำชีพจรที่ข้อมือได้เบา
เหนื่อยเวลาอ่อนแรง
อ่อนเพลีย
ใจสั่น
การพยาบาล
1.ประเมินการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณชีพ
2.สังเกตอาการและอาการแสดงของการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน สมอง ปอด แขนและขา
3.ดูแลให้ได้รับยาควบคุมการเต้นของหัวใจ
digoxin, beta-blocker, calcium channel blockers, amiodarone
4.ดูแลให้ได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด
Anticoagulation
5.ทำ Cardioversion เพื่อให้หัวใจกลับมาเต้นในจังหวะปกติ
6.จี้ด้วยคลื่นไฟฟ้าความถี่สูง
(Radiofrequency Ablation)
Ventricular tachycardia (VT)
สาเหตุ
ผู้ป้วยกล้ามเนื้อหัวใจตาย โรคหัวใจรูห์มาติก ถูกไฟฟsาดูด ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่ำ พิษจากยาดิจิทัลลิส
อาการ
ใจสั่น ความดันโลหิตต่ำ หน้ามืด เจ็บหน้าอก หายใจลำบาก หัวใจหยุดเต้น
ประเภท
Nonsustained VT VT ที่เกิดต่อเนื่องกัน<30วินาที
Sustained VT VT ที่เกิดต่อเนื่องกัน>30วินาที มีผลทำให้โลหิตลดลง
Monomorphic VT VT ที่ลักษณะของ QRS complex เป็นรูปแบบเดียว
Polymorphic VT VT ที่ลักษณะของ QRS complex เป็นรูปแบบต่างกัน
การพยาบาล
ผู้ป้วยที่เกิด VT และคลำชีพจรได้ร่วมกับมีอาการของการไหลเวียนโลหิตในร่างกายลดลง
ทำ synchronized cardioversion
ผู้ป่วยที่เกิด VT และคลำชีพจรไม่ได้
ทำ Defibrillator
ทำCPRถ้าหัวใจหยุดเต้น
คือ ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
อัตราที่เร็วมากแต่สม่ำเสมอ 150-250 ครั้ง/นาที
ไม่พบ P wave ลักษณะ QRS complex กว้าง> 0.12 วินาที
Ventricular fibrillation (VF)
สาเหตุ
Hypovolemia, Hypoxia, Hydrogen ion, Hypokalemia, Hyperkalemia, Hypothermia
อาการ
หมดสติ ไม่มีชีพจร รูม่านตาขยาย เสียชีวิต
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
เต้นรัวไม้เป็นจังหวะ ไม่สม่ำเสมอ
ไม่มี P wave ระบุส่วนไหนเป็น QRS complex ไม่ได้
การพยาบาล
ทำ CPR ทันที
ทำ Defibrillator
ภาวะช็อก (Shock)
อาการ
ไตและการขับปัสสาวะ
ปัสสาวะออกน้อย
ทางเดินอาหาร
กระเพาะอาหารและลำไส้ขาดเลือด ตับอ่อนอักเสบ ดีซ่าน การย่อยและดูดซึมอาหารผิดปกติ ตับวาย
หายใจ
หายใจเร็วลึก ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ระบบหายใจล้มเหลว
เลือดและภูมิคุ้มกัน
การแข็งตัวของเลือดผิดปกติ ภาวะลิ่มเลือดกระจายทั่วร่างกาย เม็ดเลือดขาวทำงานบกพร่อง
หัวใจและหลอดเลือด
ชีพจรเบาเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หลอดเลือดส่วนปลายหดตัว ผิวหนังเย็นซีด
ต่อมไร้ท่อ
น้ำตาลในเลือดสูงหรือต่ำ ภาวะร่างกายเป็นกรด
ประสาทส่วนกลาง
กระสับกระส่าย ซึม หมดสติ เซลล์สมองตาย
การรักษา
แก้ไขระบบไหลเวียนโลหิตMAP>=65 mmHg
ให้สารน้ำ ให้ยา
แก้ไขภาวะพร่องออกซิเจน
การให้ยาปฏิชีวนะ
แก้ไขความผิดปกติของภาวะกรดด่าง
ระยะของช็อก
ภาวะช็อกที่สามารถชดเชยได้ในระยะท้าย
วินิจฉัยล่าช้า เซลล์ในร่างกายเริ่มตาย การทำงานของอวัยวะต่างๆลดลง
ภาวะช็อกที่ไม่สามารถชดเชยได้
วินิจฉัยช้าเกินไป จนทำให้เซลล์หรืออวัยวะต่างๆในร่างกายได้รับความเสียหายมาก
ภาวะช็อกที่สามารถชดเชยได้ในระยะแรก
ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เริ่มต้น ได้รับการรักษาเหมาะสม
ประเภท
ภาวะช็อกจากหลอดเลือดมีการขยายตัว
ช็อกจากการติดเชื้อ
ช็อกจากการแพ้
ช็อกจากการทำงานผิดปกติของต่อมหมวกไต
ภาวะช็อกจากการอุดกั้นการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่หัวใจ
ภาวะช็อกจากภาวะหัวใจล้มเหลว
หัวใจไม่สามารถส่งจ่ายเลือดไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย
ภาวะช็อกจากความผิดปกติของระบบประสาท
ความผิดปกติของระบบการไหลเวียนโลหิต
ภาวะช็อกจากการขาดสารน้ำ
สูญเสีย>30-40% ของปริมาตรเลือด
การพยาบาล
การป้องกันเนื้อเยื่อขาดออกซิเจน
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
ดูแลให้ได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
ประเมินภาวะขาดออกซิเจน โดยการติดตามสัญญาณชีพ
การส่งเสริมการไหลเวียนโลหิตอย่างเพียงพอ
ดูแลจัดท่านอนหงายราบ ยกปลายเท้าสูง 20-30 องศา
ประเมินสัญญาณชีพ รวมถึงค่า MAP
ดูแลให้ยา
ติดตามค่า CVP (ปกติ 8-12 cmH2O)
ดูแลให้สารน้ำและอิเล็กโตรไลท์ทดแทน
keep urine output >= 0.5 ml/kg/hr.
การแก้ไขสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะช็อก
ทำ gastric lavage การทำ EGD (กรณีช็อกจากการสูญเสียเลือด)
ทำ PTCA, CABG
ดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะ
ดูแลให้ยา Chlorpheniramine เพื่อ แก้ไขภาวะแพ้
ส่งเสริมการปรับตัวของผู้ป่วยและญาติ
ให้ข้อมูล
เปิดโอกาสใหระบายความรู้สึก วิตกกังวล และซักถาม
น.ส.ภัณฑิรา ประนันท์ 6101210798