Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2563 - Coggle Diagram
พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2563
5 หมวด 78 มาตรา
หมวด 1 คกก.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
2.คำสั่งทางปกครอง
-เจ้าหน้าที่
-คู่กรณี
-การพิจารณา
-รูปแบบคำสั่งทางปกครอง
-การอุทธณณื
-การเพิกถอน
การขอพิจารณาใหม่
-การบังคับ
3.ระยะเวลาและอายุความ
4การแจ้ง
5คกก.ที่มีอำนาจดำเนินการในการพิจารณาทางปกครอง
หมวด 5คณะกรรมการที่มีอำนาจดำเนินการพิจารณาทางปกครอง
ทำไมต้องมี
ในการพิจารณาจัดทำคำสั่งทางปกครองจะกระทำโดยเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในเรื่องนั้น
เช่น คกก.พิจารณาการลงโทษวินัย คกก.พวกนี้จะต้องมีบุคคลที่เชี่ยวชาญเฉพาะ
เนื้อหาสำคัญในหมวดนี้
กรณีกรรมการพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ผู้มีอำนาจแต่งตั้งกรรมการแทนได้
กรรมการใน คกก วินิจฉัยข้อพิพาทพ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระไม่ได้ เว้นแต่พ้นตากคุฯสมบัติ บกพร้องในหน้าที่
นัดประชุมทำเป็นหนังสือ แจ้งล่วงหน้า 3 วัน
รายงานประชุมทำเป็นหนังสือ
คำวินิจฉัย ต้องมีลายมือชื่อของกรรมการผู้นั้น
บทเกริ่น
พ.ร.บ. ตราขึ้นโดยคำแนะนำและยินยอมของใคร= รัฐสภา
ใช้บังคับเมื่อพ้น 180 วัน
วิธีวิปกครองตามกฎหมายต่างๆ หลักเกณฑ์และมาตรฐาน ให้ทำห้ามต่ำกว่าพ.ร.บ ตัวนี้ แต่ยกเว้นฉพาะการอุทธรณ์และโต้แย้ง อันนี้ไม่ต้องตามส่วนกลาง
พ.ร.บ.ตัวนี้ ไม่บังคับใช้แก่ใครบ้าง
1.รัฐสภาและค.ร.ม
2.องค์การที่ใช้อำนาจ ตาม รธน
3.งานนโยบายของ นายกและ รมต โดยตรง
4.งานพิพากษาของศาล ไม่ว่าตะเป็นงานกระบวนการพิจารณาคดี ยังคับคดี วางทรัพย์
5.การพิจารณาวินิจฉัยร้องทุกข์และการสั่งการ
6.นโยบายต่างประเทศ
7.ราชการทหาร
8.ก.บวนการทางยุติธรรม
9.องค์การทางศาสนา
หากหน่วยไหนนอกเหนือจากนี้ไม่อยากทำตาม วิ.ปกครองนี้ ให้ตราเป็น พ.ร.ฎ. ตามข้อเสนอของคกกวิปกครอง
นิยาม
วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
= 1.เป็นการเตรียมการและการดำเนินการ 2.ของเจ้าหน้าที่
3.เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครอง /กฎ/การดำเนินการใดๆทางปกคอง
การพิจารณาทางปกครอง
= เป็นการเตรียมการและการดำเริรการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครอง
คำสั่งทางปกครอง
คำสั่ง
เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่โดยวิธี
1.สร้างนิติสัมพันธ์ระหว่างบุคคล อันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ ที่ต่่อกระทบตอ่สิทธิ์และหน้าที่ของบุคคล
2.การสั่งการ
3.การอนุญาต
4.การอนุมัต
5.การวินิจฉัยอุทธรณ์
6.การรับรอง
7.การรับจดทะบียน
แต่ไม่รวมการออกฎ
มีผลแค่เธอกับฉัน
สูตรจำ; นิ+สั่ง+ยาต+มัติ+ธรณ์+รับ+จด
กฎ
พ.ร.ฎ/กฏกระทรวง/ประกาศกระทรวง/ข้อบัญยัติทเองถิ่น/ระเบียบ/ข้อบังคับ/บทบัญญัติอื่นที่ผลบังคับใช่ทั่วไป
มีผลกับทุกคน
คกก.วินิจฉัยข้อพิพาท
คกก.ที่จัดตั้งตามกฎหมายที่มีการจัดองค์กรและวิธีพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดและหน้าที่
เจ้าหน้าที่
บุคคล คณะบุคคล หรือนิติบุคคลที่ใช้อำานจหรือรับมอจทางปกครองของรัฐมา
คู่กรณี
1.ผู้ยื่นคำขอ
2.ผู้คัดค้านคำขอ
3.ผู้อยู่ในบังคับหรือผู้จะอยู่ในบัคคับ ของคำสั่งทางปกครอง
4.ผู้ที่เข้ามาในกระบวนการพิจารณา เนื่องจากถูกผลกระทบต่อคำสั่งนั้น
ผู้ที่ถูกกระทบสิทธิ์ของคำสั่งทางปกครอง
หมวด 1 คกก.กรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 17 คน
ปธ= ค.ร.ม.แต่งตั้งจากผู้ทรง
ผู้ทรงไม่น้อยกว่า 5 ไม่เกิน 9
เลขานุการ/ผู้ช่วยเลขา=ข้าราชการในสำนักคกก.กฤษฎีกา
คราวละ 3 ปี
หน้าที่
1.สอดส่องดูแล/ให้คำแนะนำ/ให้คำปรึกษา แก่ เจ้าหน้าที่
2.ออกหนังสือ ให้เจ้าหน้าที่/บุคล/มาชี้แจงหรือแสดงความคิดเห็นได้
3.เสนอการตรา พ.รฎ.และกฎกระทรวง
4.จัดทำรายงาน การปฏิบัติตามพ.ร.บนี้เสนอ----ค.ร.ม
หมวด 2 คำสั่งทางปกครอง (สำคัญ) มี 7ส่วน
1.
เจ้าหน้าที่
ใครไม่สามารถเป็นเจ้าหน้าที่ที่จะทำการพิจารณาได้บ้าง
1.เป็นคู่กรณีซะเอง
2.เป็นคู่หมั้นหรือสมรส
3.เป็นญาติ
4เป็นหรือเคยเป็นผู้แทนโดยชอบธรมของคู่กรณี
5.เป็นเจ้าหนี้หรือลูกหนี้
เอง+หมั้น+ญาติ+แทน+หนี้+อื่น
หากมีคู่กรณีคัดค้านต่อเจ้าหน้าเป็นผู้ตรงกับสมบัติ 5 ข้อ
1.ให้หยุดพิจารณาเรื่องไว้ก่อน
และเเจ้งให้ผู้บังคับบัญชาเหนือต้นขึ้นไปชั้นหนึ่งทราบ
เพื่อความเป็นกลางของผู้ที่จะทำการพิจารณา
2.รู้ตัวเองไม่มีลักษณะตามการคัดค้าน
3.ถูกคู่กรณีคัดค้านแต่เห็นว่าตนเองไมไ่ด้มีลักษณะตามที่กล่าวอ้าง
พิจารณาต่อได้นะ แต่ต้องแจ้งผู้บังคับบัญชาเหนือตนทราบ
หากมีคู่กรณีคัดค้านกรรมการที่มีอำนาจวินิจฉัย เป็นไปตามลักษณะดังกล่าวก็หยุเพิจราณาไปก่อน
1.ให้ประธานกรรมการเรียกประชุมเพื่อพิจารณาเหตุคัดค้านนั้น
2.หากคณะกรรมการคนที่โดนคัดค้านชี้แจ้งข้อเท็จจริงและตอบข้อซักถามตามี่โดนคัดค้านเสร็จแล้ว ต้องออดจากที่ประชุม
3.สามารถกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตอ่ไปได้ แต่ต้องมีคะแนนเสียงไม่ต้อยกว่า 2 /3 ของกรรมการที่เหลือ
วิธีลงคะแนนกระทำเป็นลับทุี่สุด
คณะกรรมการ
การกระทำที่เกิดจาการพิจารณาที่ทำไปแล้ว และถูกโดนคัดค้านระหว่างทาง ไม่ต้องพิจารณาใหม่ เว้นแต่ผู้ถุกคัดค้านคนนั้นออก จะพิจารณาใหม่หรือส่วนใดาส่วนหนึ่งก้ได้
การกระทำตามที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการถูกคัดค้านหรือ ต้องประชุม ให้ยิ่นข้อเท็จริงต่างๆของกรรมการ ไม่บังคับใช้ในกรณีต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วน ล่าช้าไปเกิดความเสียหายต่อสาธารณะหรือสิทธิของบุคคลโดยไม่มีทางแก้ไขได้อีก/หรือหาเจ้าหน้าที่มาแทนได้
คำว่าผู้บังคับบัญาเหนือตนขึ้นไป
= ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดอชอบกำกับ ควบคุม ดุแลของเจ้าหน้าที่นั้น
ถ้าหากกรณีเจ้าหน้าที่ผู้นั้นเป็นรัฐมนตรี= นายกรัฐมนตรี
2คู่กรณี
คือใคร
1.ผู้ยื่นคำขอ
2.ผู้คัดค้านคำขอ
3.ผู้อยู่ในบังคับหรือผู้จะอยู่ในบังคับ ของคำสั่งทางปกครอง
4.ผู้ที่เข้ามาในกระบวนการพิจารณา เนื่องจากถูกผลกระทบต่อคำสั่งนั้น
5.ต้องบรรลุนิติภาวะ หากไม่บรรลุนิติภาวะต้องมีการกำหนดเฉพาะให้สามารถกระทำในเรื่องนั้นได้
ลักษณะของคู่กรณี
1.บุคคลธรรมดา
2.นิติบุคคล
คณะบุคคล
สิทธิ์ของครูกรณีที่สามารถทำได้
1.ครั้งแรกต้องมาปรากฎตัวต่อเจ้าหน้าที่ก่อน มีสิทธิ์นำทนายความ/ที่ปรึกษาเข้ามาในการพิจารณาทางปกครองได้
2.ทำหนังสือแต่งตั้งตัวแทน ซึ่งต้องบรรลุนิติภาวะ มาแทนตนในการพิจารณาทางปกครองได้
เว้นแต่!เรื่องนั้นเรื่องบางเรื่องเป็นหน้าที่โดยตรงของเจ้าตัวเอง
หากผู้แทนไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด เจ้าหน้าที่จะต้องแจ้งคู่กรณีให้ทราบโดยไม่ชักช้า
คู่กรณีตาย ผู้แทนที่แต่งตั้งไม่ถือว่าสิ้นสุด เว้นแต่ผู้สืบสันดานจะถอนการแต่งตั้ง แต่ต้องทำเป็นหนังสือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
กรณีที่คู่กรณีเกิน 50 คน สามารถยื่นข้อความและให้ถือว่าผู้ทีู่กระบุในข้อความตามเสียงข้างมากเป็นตัวแทนร่วม เพื่อเข้ามาพิจารณาแทนได้
ตัวแทนร่วม=ต้องเป็นบุคคลธรรมดา
เมื่อใดก็ได้แต่ต้องทำ เป็นหนังสือแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
3.การพิจารณา
วิธีการพิจารณา
1.เอกสารที่ยื่นต่อเจ้าหน้าที่----
ต้องจัดทำเป็นภาษาไทย
กรณีเป็นภาษาต่างประเทศคู่กรณีต้องแปลเป็นภาษาไทยรับผ่านการรับรองความถูกต้อง ให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่เจ้าหน้าที่กำหนด
วันที่ได้รับคำแปลที่ถูกต้อง=
คือวันที่เจ้าหน้าที่ได้รับเอกสาร
2.สิทธิของเจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้คู่กรณีทราบ
ตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของคำขอ
หากคำขอไม่ถูกต้อง แนะนำให้ผู้ยื่นแก้ไข
1 more item...
3.เริ่มพิจารณาทางปกครองของเจ้าหน้าที่
1.ตรวจสอบข้อเท็จริงของเอกสาร โดยไม่ต้องผูกพันอยู่กับคำขอหรือพยานหลักฐานของคู่กรณี
2 more items...
ปล
*
ให้เจ้าหน้าที่กำหนดเวลาสำหรับการพิจารณา ขึ้นไว้แจ้งให้ทราบ
เพื่ออำนวยความสะดวกและประหยัด ความมีประสิทธภาพในการดำเนินงาน
4.
รูปแบบและผลคำสั่งทางปกครอง
เป็นผลที่ได้มาจาการพิจารณา ขั้นตอนที่ผ่านมา
คำสั่งทางปกครอง มี 3 รูปแบบ
หนังสือ
วาจา
สื่อความหมายรูปแบบอื่น
1 more item...
เหตุ ผู้รับคำสั่งร้องขอโดยมีเหตุสมควร เจ้าหน้าที่ต้องยืนยันเป็นหนังสือภานใน 7 วันนับวันที่มีคำสั่ง
สิ่งที่ต้องระบุในคำสั่งทางปกครอง
1.วันเเดือนปีที่ทำคำสั่ง
2.ชื่อและตำแหน่ง จนท ผู้ทำคำสั่ง
1 more item...
ต้องประกอบด้วยส่วนเนื้อหา ส่วน
ข้อเท็จจริง
2 more items...
การกำหนดเงื่อนในการออกคำสั่งทางปกครอง
เพื่อให้สามารถทำคำสั่งทางปกครองได้บรรลุวัตถุประสงค์
ทำยังไง
1 more item...
คำสั่งทางปกครองที่ออกโดยฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์
3 more items...
5.การอุทธณ์คำสั่งทางปกครอง
มี 2 ประเด็น
1.ไม่ได้ออกโดย รมต และไม่มีกฎหมายกำหนดขั้นตอน การอุทธรณ์ไว้
1.คู่กรณี อุทธรณ์ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
4 more items...
ออกโดย รมต ออกโดยรูปแบบ คกก
ฟ้องศาลปกครอง
*
กรณีคำสั่งทางปกครองของคกก.ต่างๆ
คู่กรณีมีสิทธิโต้แย้ง ภายใน 90 วัน
6.การเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง
คำสั่งทางปกครอง
คำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
4 more items...
คำสั่งทางปกครองที่ชอบด้วยกฎหมาย
3 more items...
ไม่ว่าจะพ้นการกำหนดให้อุทธณ์มาแล้วก็ตาม เพิกถอนได้ตลอด
เพิกถอนโดยเจ้าหน้าที่ พนง
7.การขอพิจารณาใหม่
คู่กรณี
1 more item...
เจ้าหน้าที่สามารถแก้ไข เพิกถอน เพิ่มเติมได้
8.การบังคับทางปกครอง
3 more items...
มี 5 ขั้น
ขั้น 1 เข้าสู่กระบวนการพิจารณ
า
ขั้น 2 การพิจารณาเพื่อออกคำสั่ง
(เพื่อเตรียมการของเจ้าหน้าที่ในการออกคำสั่งทางปกครอง
ขั้นที่ 3 เสร็จกระบวนการพิจารณาแล้วอยู่ในขั้นตอนการออกคำสั่ง
ขั้นที่ 4 ทบทวนคำสั่งทางปกครอง
มี 3 เรื่องที่เข้าใจ 1.อุทธรณ์
2.เพิกถอน
3.การขอพิจารณาใหม่
ขั้นที่ 4 ทบทวนคำสั่งทางปกครอง
ขั้นที่ 4 ทบทวนคำสั่งทางปกครอง
ขั้นที่ 5 ขั้นบังคับคำสั่งทางปกครอง
หมวด 3 ระยะเวลาและอายุความ
วิธีการกำหนด
กำหนดเป็นวัน/สัปดาห์/เดือน/ปี แต่ไม่นับวันแรกรวมด้วย
ระยะเวลาสิ้นสุด
กรณีเจ้าหน้า ให้รับวันสิ้นสุดระยะเวลารวมด้วย แม้วันสุดท้ายเป็นวันหยุด
เช่น พนง ก ต้องพิจารณาคำขอของคู่กรณีภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับ แต่วันสุดท้ายตรงกับเสาร์ก็ถือว่าวันเสาร์คือวันสิ้นสุดระยะเวลาพิจารณา
กรณีบุคคลใดที่ไม่ใช้ จนท ต้องกระทำการภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้นับวันธรรมดาเท่านั้นที่ถือว่าเป็นวันหมดระยะเวลา
เช่น นาง ก โดนพนง บังคับให้ตรวจสอบทรัพย์สินภายในรยะเวลา 7 วัน เเละเริ่มทำตั้งวันจันทร์ แต่ปรากฎว่าวันที่ 6และ7 ตรงกับ เสาร์อาทิตย์ ก็นับเพิ่มไปอีก 2 วันให้ครบ 7วัน
กรณี จนท หรือบุคุลใดไม่สามารถดำเนินการภายในระยะเวลาได้เนื่องด้วยเหตุจำเป็นเร่งด่วน สามารถยื่นคำขอต่อ จนท ภานในระยะเวลา15 วันนับแต่วันที่มีเหตุ และให้นับเฉพาะวันที่มีเหตุ นั้นเพิ่มไป
หมวด 4 การแจ้ง
รูปแบบการแจ้ง
วาจา
หนังสือ
1.แจ้งต่อผู้นั้น มีผลต่อ ได้รับหนังสือ
2.ส่งไปยังภูมิลำเนา ให้ถือว่ามีผลเมื่อได้รับแจ้งขณะที่ไปถึง
3.ให้บุคคลนำไปส่ง มีผลเมื่อ ผู้รับได้หนังสือนั้น
กรณีผู้รับไม่ยอมรับ
1.ส่งให้บุคคลบรรลุนิติภาวะ
2.วาง/ปิดไว้ ในที่ทำงานของคนรับแล้วมีพยานเห็นว่าวางไว้ ถือว่าได้รับแจ้งแล้ว
ไม่พบผู้รับ
ส่งให้บุคคลบรรลุนิติภาวะ
4.ส่งทางไปราณีย์ มี 2 กรณี
ต่างประเทศ มีผลเมื่อ ครบ 15 วันนับแต่วันส่ง
ในประเทศ มีผลเมื่อ ครบ 7 วันนับแต่วันส่ง
สื่อความหมายรูปแบบอื่น
ให้มีผลมีได้แจ้ง
ปิดประกาศ
ติด ณ ที่ทำการขอเจ้าหน้าที่ และที่ว่าการอำเภอ
กรณีนี้ คือต้องมีผู้รับแจ้งเกิน50 คน คืน 51 คนขึ้นไป
มีผลเมื่อ พ้น 15 วันนับแต่วันที่ผิดประกาศจ้า
หนังสือพิมพ์
ไม่รู้ตัวผู้รับ
รู้ตัวแต่ไม่รู้ภูมิลำเนา
รู้แต่และรู้ภมิลำเนาแต่ผู้รับเกิน 100 คน (101คนขึ้นไป)
มีผลเมื่อ พ้น 15 วันนับแต่วันที่ผิดประกาศจ้า
โทรสาร
ใช้ในกรณีเหตุจำเป็น และต้องจัดส่งคำสั่ง ให้แก่ผู้รับได้ทันที
มีผลเมื่อ
ตามวัน เวลา ที่ปรากฎในหลักฐานของหน่วยงานผู้จัดบริการโทรคมนาคม
ตามที่พิสูจน์ได้ว่าไม่มีการได้รับหรือได้รับหรือหลังจากนั้น
เหตุผล 1 เป็นการกำหนดเกณฑ์เพื่อให้การดำเนินงานทางปกครองไปไปโดยถูกกฎหมาย
ฉบับ 2 : เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้ และอำนวยความสะดวกต่อประชาชน จะเกี่ยวกับการพิจารณาต่างๆ
ฉบับ3 ; มีการเพิ่มการบังคับทางปกครองในการำหนดให้ชำระเงิน