Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาหยอดตา ยาหยอดหู และยารักษามะเร็ง, นางสาวภัคนันท์ ภารมาตย์ รหัสนิสิต…
ยาหยอดตา ยาหยอดหู และยารักษามะเร็ง
ยาหยอดตา
ยาหยอดตาชนิดน้้าใส (Ophthalmic solutions)
ข้อดี : หยอดได้ง่าย ไม่ท้าให้เกิดอาการตามัว และไม่มีปฏิกิริยาต่อผิวหนังของเปลือกตา
ข้อเสีย : จะสัมผัสตาได้ฝนระยะสั้น การออกฤทธิ์สั้น
ยาหยอดตาชนิดยาน้้าแขวนตะกอน (Ophthalmic suspensions)
ข้อดี : อยู่ที่ถุงตาได้นานและมีระยะเวลาในการออกฤทธิ์นานกว่ายาหยอดตาชนิดน้้าใส
ข้อเสีย : ผู้ใช้ต้องเขย่าขวดก่อนใช้ เพราะอาจท้าให้ตัวยากระจายไม่ทั่วถึง ส่งผลต่อการรักษา
ยาขี้ผึ้งป้ายตา (Ophthalmic ointment)
ข้อดี : สัมผัสกับตาได้นาน ออกฤทธิ์ได้นานกว่าการหยอดตา ไม่ท้าให้เกิดการระคายเคือง และไม่มีการไหลของยาลงไปในท่อน้้าตาและลงไปในคอ ซึ่งจะท้าให้การดูดซึมเข้าสู่ร่างกายน้อยกว่า
ข้อเสีย : จะรู้สึกเหนอะหนะและขี้ผึ้งจะท้าให้เกิดฝ้า ซึ่งรบกวนการมองเห็นของผู้ใช้ จึงใช้ป้ายก่อนนอน
แบ่งตามฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา (Pharmacology)
ยาต้านฮีสตามีน (Antihistamine)
น้้าตาเทียม (Antificial tears)
ยากลุ่มสเตียรอยด์หรือยาต้านการอักเสบ (Glucocorticoid/Anti-inflammatory)
ยารักษาโรคต้อหิน (Glaucoma)
ยารักษาโรคต้อกระจก (Cataract)
ยาต้านแบคทีเรีย (Antibacterial), ยาต้านไวรัส (Antiviral), ยาต้านเชื้อรา (Antifungal)
ยาต้านแบคทีเรียร่วมกับยากลุ่มสเตียรอยด์ (Antibacterial+Glucocorticoid)
ยาขยายม่านตา (Mydriatic)
ยาชาเฉพาะที่ (Local anesthesia)
ยาเตรียมเฉพาะราย (Extemporaneous preparation)
เทคนิคการหยอดตา
ล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้ง
จัดท่า ท่านั่งแหงนประมาณ 45 องศา หรือท่านอนหงายราบ
ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดดึงเปลือกตาล่างลง จนเห็นกระพุ้งตาด้านล่าง
เหลือบตาขึ้นด้านบน
ใช้มือข้างที่ถนัดถือขวดยาลอยเหนือดวงตา ระวังปลายขวดสัมผัสขนตา
บีบขวดยาเบาๆให้ยาออกมาเพียง 1 หยด
หากมียาไหลซึมให้ใช้ส้าลีแห้งหรือผ้าสะอาดมาซับเฉพาะส่วนที่ล้นออกมาก
หลับตานิ่งประมาณ 1 นาที ไม่กระพริบตา
ถ้ามียาที่ต้องหยอดตาพร้อมกันหลายขนานให้หยอดห่างกัน 5 นาที
ยาหยอดตาที่เปิดใช้แล้วมีอายุการใช้งาน 1 เดือน
ยาหยอดหู
แบ่งตามฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา (Pharmacology)
ยาต้านจุลชีพ
ยาระงับปวด (กลุ่มยาชาเฉพาะที่)
ยาต้านการอักเสบ (กลุ่มยาสเตียรอยด์)
ยาต้านเชื้อรา
ยาละลายขี้หู
เทคนิคการหยอดหู
ล้างมือให้สะอาดเช็ดให้แห้ง และปรับอุณหภูมิของยาให้ใกล้เคียงกับอุณหภูมิของร่างกาย
เอียงศีรษะให้หูข้างที่จะหยอดยาอยู่ด้านบน หยอดยาเข้าไปในรูหูตามที่ก้าหนด โดยระวังไม่ให้หลอดหยดสอดเข้าไปในรูหู
เอียงตะแคงหูอยู่ในท่าเดิมอย่างน้อย 5-10 นาที
ก่อนลุกขึ้นหรือหยอดหูอีกข้าง ควรน้าส้าลีอุดที่ช่องหูชั้นนอกข้างที่หยอดยา เพื่อให้ยาค้างและสัมผัสกับช่องหูได้นานที่สุด และสามารถน้าส้าลีออกหลังจากผ่านไป 20-30 นาที
ยารักษามะเร็ง
ยาเคมีบ้าบัดเป็นกลุ่มของยาที่น้ามาใช้รักษามะเร็ง โดยเป็นวิธีหนึ่งของการรักษา เพื่อจ้ากัดการเพิ่มจ้านวน การลุกลาม และการแพร่กระจายไปบริเวณอื่นของเซลล์มะเร็ง ซึ่งอาจใช้ร่วมกับวิธีการรักษาวิธีอื่น
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ แบ่งตามการออกฤทธิ์ต่อวงจรชีพของเซลล์ และแบ่งตามกลไกการออกฤทธิ์ทางชีวเคมี
แบ่งตามการออกฤทธิ์ต่อวงจรชีพของเซลล์
1) ยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงต่อระยะใดระยะหนึ่งของวงชีพของเซลล์ (Cell cycle phase specific drugs)
2) ยาที่ออกฤทธิ์ไม่เฉพาะเจาะจงต่อระยะใดระยะหนึ่งของวงชีพของเซลล์ (Cell cycle phase non-specific drugs)
3) ยาที่ออกฤทธิ์ไม่เฉพาะเจาะจงต่อวงชีพของเซลล์ (Cell cycle non-specific drugs)
แบ่งตามกลไกการออกฤทธิ์ทางชีวเคมี
1) Antimetabolites
เป็นกลุ่มของยาที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับสารที่มีอยู่ในร่างกาย และเป็นสารที่มีความจ้าเป็นส้าหรับการท้าหน้าที่ตามปกติของเซลล์
ออกฤทธิ์รบกวนการสร้างกรดนิวคลีอิก ท้าให้ดีเอ็นเอของเซลล์มะเร็งเกิดบกพร่อง เซลล์จึงหยุดการแบ่งตัว
ยาที่ใช้จึงเป็นพิษต่อเซลล์ในระยะ S ของวงจรชีพ ซึ่งมีการแบ่งตัวมาก
2) Alkylating agents หรือ ยากลุ่มที่จับแบบโควาเลนต์กับดีเอ็นเอ (Covalent DNA binding drugs)
เป็นยาที่จับนานด้วย Covalent bonds กับ DNA RNA และโปรตีน และจะมีผลทางชีวเคมีที่ต่อเนื่องก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของดีเอ็นเอ Cross-linking ของดีเอ็นเอ และการแตกออกของเส้นดีเอ็นเอ ท้าให้มีผลต่อการเพิ่มจ้านวนของดีเอ็นเอ การถอดรหัสของอาร์เอ็นเอ การแปลรหัสของ mRNA เพื่อสร้างโปรตีน
มีผลท้าลายเซลล์มะเร็งทุกระยะวงชีพของเซลล์
3) ยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง (Antitumor antibiotics หรือ Noncovalent DNA binding drugs)
เป็นยากลุ่มที่สามารถจับแทรกเข้าไปในระหว่างคู่เบสของอีเอ็นเอ เกิดการจับระหว่างยากับดีเอ็นเอ มีผลท้าให้เกิดยับยั้งการสังเคราะห์อาร์เอ็นเอ ท้าให้สายดีเอ็นเอขาดเป็นท่อน เกิดการเป็นพิษต่อเซลล์
4) ยาที่ยับยั้งการท้างานของโครมาติน (Inhibitors of chromatin function)
5) ยาที่มีผลต่อหน้าที่ของต่อมไร้ท่อ (Drugs affecting endocrine function)
6) เอนไซม์ (Enzymes)
ยารักษามะเร็ง
Inhibitors of chromatin function โดยโครมาตินเป็นสารที่มีในนิวเคลียส มีบทบาทส้าคัญในขณะแบ่งเซลล์
Drugs affecting endocrine function ออกฤทธิ์เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนเพศ และฮอร์โมนจากต่อมหมวกไต ที่มีบทบาทส้าคัญในการควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ในอวัยวะที่ออกฤทธิ์
กดไขกระดูก
อาการคลื่นไส้อาเจียน
ท้าลายเนื้อเยื่อเฉพาะที่
เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูง
เยื่อเมือกอักเสบ
ผมร่วงและศีรษะล้าน
กดการท้างานของต่อเพศ
แพ้ยา
นางสาวภัคนันท์ ภารมาตย์ รหัสนิสิต 6305010136