Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Cervical cancer - Coggle Diagram
Cervical cancer
ข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ป่วยเพศ
หญิง
อายุ
77 ปี
เชื้อชาติ
ไทย
สัญชาติ
ไทย
ศาสนา
พุทธ
ระดับการศึกษา
ประถมศึกษาปีที่ 4
สถานภาพ
สมรส
อาชีพ
-
รายได้
700บาท (เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ)
สิทธิค่ารักษาพยาบาล
บัตรทอง
การวินิจฉัยโรคแรกรับ
(First Diagnosis) Cervical cancer
ความหมาย
มะเร็งปากมดลูก
การวินิจฉัยโรคในปัจจุบัน
Cervical cancer stage IB1
ความหมาย
มะเร็งปากมดลูกระยะ 1
การผ่าตัด
Expolr-lap Radical Hysterectomy with Node dissection with Bilateral salpingo - oophorectomy
ความหมาย
การผ่าตัดเปิดช่องท้องเข้าไปตัดมดลูก ปีกมดลูก รังไข่ และ 1 ใน 3 ของช่องคลอดส่วนบนออกรวมทั้งเลาะเอากลุ่มต่อมน้ำเหลืองในเชิงกรานออกไปด้วย (Pelvic lymphadenectomy) และตัดเนื้อเยื่อด้านข้างมดลูก (parametrium) และเอ็นที่ยึดมดลูก ออกหมด รวมทั้งคอมดลูก ปีกมดลูก และรังไข่ออกทางหน้าท้อง(วันที่ผ่าตัด 19 เมษายน 2564)
การเปรียบเทียบพยาธิสภาพกับกรณีศึกษา
สาเหตุ
การติดเชื้อ human papilloma virus (HPV)
ชนิดความเสี่ยงสูงโดยเฉพาะการติดเชื้อแบบฝังแน่น ที่ปากมดลูกเป็นขั้นตอนสำคัญของกระบวนการเกิดมะเร็งปากมดลูก ส่วนใหญ่ของการติดเชื้อ HPV บริเวณอวัยวะเพศจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีเชื้อ HPV ซึ่งจะไม่มีอาการทั้งในผู้หญิงและในผู้ชาย มะเร็งปากมดลูกจึงเป็นมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์
กรณีศึกษาไม่มีรายละเอียดข้อมูลถึงสาเหตุของการตัดมดลูกในครั้งนี้ของผู้ป่วย
ปัจจัยเสี่ยง
ปัจจัยเสี่ยงด้านสตรี
อายุ
การร่วมเพศอายุน้อยกว่า 17 ปี
การมีคู่นอนหลายคน
สตรีที่มีบุตรมากกว่า 4 คน
ปัจจัยเสี่ยงด้านคู่นอน
สตรีที่มีเพศสัมพันธ์คู่นอนที่มีประวัติเป็นโรคทางเพศสัมพันธ์ เช่น มะเร็งองคชาติ
สตรีที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนโดยไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
ปัจจัยเสี่ยงด้านอื่น ๆ
สตรีที่ไม่ได้เรียนหรือมีการศึกษาน้อย
การคุมกำเนิด
พันธุกรรม
สัมผัสสารก่อมะเร็ง เช่น บุหรี่
กรณีศึกษาผู้ป่วยเพศหญิง อายุ 77 ปี ปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก คือ ผู้ป่วยมีอายุมาก ผู้ป่วยมีระดับการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เนื่องด้วยระดับการศึกษาของผู้ป่วยอาจทำให้ขาดความรู้ความเข้าใจในการดูแลสุขอนามัยทั่วไป รวมทั้งสุขอนามัยทางเพศที่เหมาะสมและจากกรณีศึกษาพบว่ามีประวัติเจ็บป่วยในครอบครัว ลูกสาวได้รับการผ่าตัดมดลูกประมาณ 5 ปีที่แล้ว
อาการและอาการแสดง
เลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์
เลือดออกทางช่องคลอดที่ไม่ใช่รอบประจำเดือน
เลือดออกทางช่องคลอดหลังจากหมดประจำเดือนไปนานแล้ว
กรณีศึกษาเลือดออกทางช่องคลอด ที่ไม่ใช่รอบประจำเดือน พบเนื้องอกที่มดลูก 1 วัน ก่อนมาโรงพยาบาล
พยาธิ
เกิดจากการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของเซลล์เยื่อบุผิวปากมดลูกเรียกว่า dysplasia หรือ atypical dysplasia การเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกตินี้เกิดขึ้นในบริเวณที่เรียกว่า Transformation zone หรือ squamocolumnar junction คือ บริเวณที่เป็นรอยต่อระหว่าง squamous epithelium กับ columnar epithelium อยู่โดยรอบของ external os โดยปกติแล้วกลไกธรรมชาติจะปรับเปลี่ยนเซลล์เยื่อบุผิวปากมดลูกให้กลับคืนสู่สภาพเดิมได้เองร้อยละ 90 โดยการซ่อมแซมในส่วนที่มีการอักเสบ (Inflammation repair)พร้อมกับการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทน (regeneration metaplasia) กระบวนการดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงเซลล์มะเร็ง แต่ยังไม่จัดอยู่ในระยะต่างๆ ของการเกิดมะเร็งปากมดลูก หากเกิดการติดเชื้อ HPV หรือ ปัจจัยเสี่ยงด้านอื่นๆ ที่ทำให้มีการติดเชื้อ HPV เพิ่มขึ้น เชื้อจะมีระยะฟักตัวนานประมาณ 6 สัปดาห์ ถึง 8 เดือน เซลล์เยื่อบุผิวปากมดลูกบริเวณ T zone จะมีการเจริญเติบโตเพิ่มจำนวนมากขึ้น และลักษณะเซลล์ที่ผิดรูปร่างไปจากเดิมมาก
ระยะของมะเร็ง
ระยะ
I
มะเร็งจำกัดอยู่ภายในปากมดลูกเท่านั้น
ระยะ
IA
มะเร็งระยะลุกลาม ที่ตรวจพบโดย
การตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น ถ้า
เห็นรอยโรคชัดเจน แม้ว่าจะมีการลุกลาม
เพียงเล็กน้อยให้กำหนดเป็นมะเร็งระยะ
IB
กรณีศึกษาได้รับการวินิจฉัยเป็น Cervical cancer stage IB1 คือ ระยะ IB มะเร็งจำกัดอยู่ภายในปากมดลูก หรือรอยโรคที่มีขนาดใหญ่กว่าระยะ IA ระยะ IB1 ขนาดของก้อนมะเร็งที่มองเห็นใหญ่ที่สุด ≤ 4.0 ซม.
การวินิฉัย
ซักประวัติ
ตกขาว
เลือดออก
อาการเจ็บปวด
การตรวจร่างกาย
การตรวจว่ามีต่อมน้ำเหลืองโตขึ้นบริเวณใดที่โตกว่าปกติโดยเฉพาะบริเวณ supraclavicular node มีตับเเละม้ามโตหรือไม่
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
CBC , Electrolytes , BUN , creatinine , LFT, CXR , IVP , cystoscope, sigmoidoscope เป็นต้น
การวินิจฉัยของกรณีศึกษา จากการซักประวัติ ผู้ป่วยมาด้วยอาการเลือดออกทางช่องคลอด ที่ไม่ใช่รอบเดือน พบเนื้องอกที่มดลูก ทำการตรวจที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง (ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจ ว่ากรณีศึกษาได้รับการตรวจเพื่อวินิจฉัยโรคเเบบใดบ้าง) พบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะ IB1
การตรวจภายใน/การผ่าตัด
Pap smear
การตัดปากมดลูกออกด้วยห่วงไฟฟ้า (loop electrosurgical excision procedure, LEEP)
การตัดชิ้นเนื้อ (Cervical punch biopsy)
การขูดชิ้นเนื้อด้านในปากมดลูก (Endocervical curettage: ECC)
การตัดปากมดลูกเป็นรูปกรวยด้วยมีด (Cervical conization)
การตรวจด้วยกล้องขยายทางช่องคลอด (Colposcopy)
การรักษา
ระยะก่อนลุกลาม
กลุ่ม CIN 1 และ II
ใช้การจี้ด้วยไฟฟ้า (Electrocautery) การจี้ด้วยความเย็น
(Cryosergery), LEEP, Laser vaporization (CO2 laser) ตรวจ Pap smear ซ้ำทุก 3-6 เดือน
กลุ่ม CIN III และ CIS
อาจทำผ่าตัด Total abdominal hysterectomy (TAH)โดยเฉพาะในรายที่มีอายุมากหรือมีบุตรเพียงพอแล้ว ส่วนในรายที่ต้องการบุตร อาจรักษาโดยการทำ Therapeutic conization, CO2 Laser, Electrocautery หรือ Cryosurgery
ระยะลุกลาม
การผ่าตัด (Surgical treatment)
มักจะใช้รักษามะเร็งปากมดลูกระยะที่ 1 ด้วยการทำ Wertheim's operation หรือ Radical hysterectomy with pelvic node dissection (RHND)
รังสีรักษา (Radiation therapy)
ใช้รักษาได้ทุกระยะของโรค ด้วยวิธี internal
radiation therapy หรือ external radiation therapy อย่างใดอย่างหนึ่งหรือใช้ 2 วิธีร่วมกัน
ยาเคมีบำบัด (Chemotherapy)
ใช้รักษาในรายที่โรคมะเร็งลุกลามไปมากแล้ว
(advanced stage) หรือในรายที่มะเร็งกลับเป็นซ้ำ (recurrent tumor)
การรักษาร่วม (Combined treatment)
การให้ยาเคมีบำบัดร่วมกับรังสีรักษา (Concurrent chemoradiation) ,การให้ยาเคมีบำบัดก่อนผ่าตัด (Neoadjuvant chemotherapy) , การให้รังสีรักษาหลังการผ่าตัด (Adjuvant radiation therapy)
การผ่าตัดแบบ Radical Hysterectomy with Node dissection with Bilateral salpingo - oophorectomy (RHAD+BSO) การผ่าตัดมดลูกแบบถอนรากถอนโคนร่วมกับการตัดรังไข่และท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างโดยการผ่าตัดมดลูกและ parametrium ออกทั้งหมด 1 ใน 3ของช่องคลอดส่วนบน เอ็นที่ยึดมดลูกรวมทั้งเลาะต่อมน้ำเหลืองในอุ้งเชิงกรานออกมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงมีความเหมาะสมมากสำหรับกรณีศึกษาเนื่องจากผู้ป่วยตรวจพบเป็นนมะเร็งระยะลุกลาม (State IB1) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งไม่ให้ลุกลามมากขึ้น
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ก่อนผ่าตัด
มีภาวะซีด เนื่องจากมีเลือดออกทางช่องคลอด
วิตกกังวล เนื่องจากขาดความรู้ในการปฏิบัติตัวก่อนผ่าตัด
หลังผ่าตัด
1.เสี่ยงต่อภาวะตกเลือด เนื่องจากการบาดเจ็บของหลอดเลือดระหว่างการผ่าตัดรักษามะเร็งปากมดลูก
คลื่นไส้อาเจียน เนื่องจากการเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลงจากฤทธิ์ของยาระงับความรู้สึก
3.เสี่ยงภาวะ deep vein thrombosis เนื่องจากการการเคลื่อนไหวลดลง
4.มีโอกาสเกิดแบบแผนการขับถ่ายปัสสาวะผิดปกติ เนื่องจากการบาดเจ็บต่ออวัยวะในอุ้งเชิงกราน
5.ขาดความรู้ในการดูแลตนเองเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวเมื่อกลับไปอยู่ที่บ้าน
ข้อพื้นฐานเกี่ยวกับสุขภาพของผู้รับบริการ
อาการสำคัญ
เลือดออกทางช่องคลอด พบเนื้องอกที่มดลูก 1 วัน ก่อนมาโรงพยาบาล
ประวัติการเจ็บปัจจุบัน
1 เดือนก่อนมาโรงพยาบาล มีอาการเลือดออกทางช่องคลอด ไปตรวจที่ โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ ตรวจพบมะเร็งปากมดลูก จากนั้น refer มา สถาบันมะเร็งแห่งชาติ เพื่อรับการรักษาต่อ มา Admit ตามนัดเพื่อผ่าตัด Radical Hysterectomy with Node dissection with Bilateral salpingo – oophorectomy
ประวัติการเจ็บในอดีต
มีโรคประจำตัว คือ Ischemic heart disease เป็นมาประมาณ 5ปี เคยได้รับการ Coronary Angiography ที่โรงพยาบาลแพทย์รังสิต, Hypertension เป็นมาประมาณ 3 ปี และ Dyslipidemia เป็นมาประมาณ 2 ปี ได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง และเคยทำหมันแห้ง (Interval sterilization)
ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
ลูกสาวได้รับการผ่าตัดมดลูกประมาณ5 ปีที่แล้ว ที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
อาการและอาการแสดงในปัจจุบัน
18 เมษายน 2564
มีความรู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง ช่วยเหลือตนเองได้ สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ด้วยตนเองรับประทานอาหารได้เอง
มีอาการเลือดออกทางช่องคลอด ไปตรวจที่โรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ แพทย์วินิจฉัยเป็น
มะเร็งปากมดลูกจากนั้น refer มา NCI
Admit ตามนัดเพื่อผ่าตัด RHAD + BSO
สัญญาณชีพแรกรับ อุณหภูมิ 36.5 องศาเซลเซียส ชีพจร 64 ครั้ง /นาที การหายใจ 20 ครั้ง/นาที ความดันโลหิต 159/73 มิลลิเมตรปรอท
19 เมษายน 2564
09.00น. OR มารับเพื่อเตรียมการผ่าตัด
แพทย์สั่งให้ยาระงับความรู้สึก คือ Morphine 0.2 mg via Spinal เวลา 10.35 น. เริ่มทำการผ่าตัด และสิ้นสุดการผ่าตัด เวลา 14.50 น. ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมง
ขณะทำการผ่าตัดผู้ป่วย on oxygen cannula 3 LPM EBL= 650 ml Retained foley’s cath ปัสสาวะออก 210 ml
หลังการผ่าตัด แพทย์สั่งให้ยา Cefazolin 1 gm IV x3 dose , Paracetamol 1 amp IV , Onsia 4 mg IV
ผู้ป่วยย้ายไป ICU On เครื่อง IPC ที่ต้นขา และขาทั้ง 2 ข้าง, 5%DN/2 1000 ml IV 80 ml/hr Retained foley’s cath
20 เมษายน 2564
ย้ายจาก ICU มาหอผู้ป่วยยมะเร็งสตรี เวลา 11.15 น. รู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง
มีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ได้รับยา Onsia 4mg IV แต่อาการยังไม่ดีขึ้น มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ
on oxygen cannula 3 LPM
on 5%DN/2 1000 ml IV 80 ml/hr. บริเวณหลังมือข้างซ้าย
มีแผลผ่าตัด Midline ปิด Top Gauze + Fixumull ไว้ ไม่มี Bleed ซึม มีอาการปวดเล็กน้อย
pain score 2 คะแนน
Retained foley’s cath พบปัสสาวะออก 200 ml ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม
สัญญาณชีพ อุณหภูมิ 37.3 องศาเซลเซียส ชีพจร 104 ครั้ง /นาที การหายใจ 25 ครั้ง /นาที ความดันโลหิต 138/83 มิลลิเมตรปรอท O2 sat 98%
21 เมษายน 2564
ไม่พบอาการคลื่นไส้ อาเจียน
off oxygen cannula สามารถหายใจได้ดี ไม่มีอาการหอบเหนื่อย
เริ่ม Step diet ยังรับประทานอาหารได้น้อย และดื่มนํ้าได้บ่อยๆ
off IVF บริเวณหลังมือข้างซ้ายมีอาการมือ บวม Pitting edema ระดับ 1+
Midline ปิด Top Gauze + Fixumull ไว้ ไม่มี Bleed ซึม ยังไม่เปิดแผล Dressing มีอาการเจ็บหน้าท้อง
เมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย
Retained foley’s cath ปัสสาวะ ออก 500 ml มีลักษณะสีเหลืองใส ไม่มีตะกอน
มีอาการตึงบริเวณน่องขาทั้งสองข้าง เมื่ออกระดกปลายเท้า และพบเท้าบวม Pitting edema ระดับ 1+
22 เมษายน 2564
มีความรู้สึกตัวดี ถามตอบรู้เรื่อง
ไม่พบอาการคลื่นไส้ อาเจียน ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ
D/C with sterile strip