Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลด้วยความเอื้ออาทรในผู้ที่มี ความวิตกกังวลผิดปกติ - Coggle Diagram
การพยาบาลด้วยความเอื้ออาทรในผู้ที่มี ความวิตกกังวลผิดปกติ
โรคโซมาโตฟอร์ม
อาการแสดงความรู้สึกผิดปกติของร่างกาย เช่น อาการปวดตามร่างกาย
Somatic Symptom Disorder
กลุ่มโรคจิตเวชผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดเป็นอาการนำมาพบแพทย์
ลักษณะอาการ
พบบ่อยคืออาการปวด ไม่ได้บ่งบอกโรค
Conversion Disorde
r ความผิดปกติของร่างกายเกี่ยวกับอวัยวะที่มีหน้าที่ในการเคลื่อนไหว
ลักษณะทางคลีนิค
การเคลื่นไหว ประสาทสัมผัส การเคลื่อนไหวและการรับรู้ความรู้สึก
Illness Anxiety Disorder
คิดกลัวว่าตนเองเป)็นโรคทางกายที่ร้ายเเรง
ลักษณะอาการ
หมกมุ่นคิดว่าตนเองเป็นโรคร้าย
Body Dysmorphic Disorder
หมกมุ่นคิดว่าร่างกายที่น่าเกลียด ไม่สมบูรณ์
ลักษณะอาการ
ผู้ป่วยค่อยสังเกตดูอวัยวะนั้นอยู่บ่อยๆ บริเวณใบหน้า
การพยาบาลกลุ่มโรคโซมาโตฟอร์ม
1.การประเมินผู้ป่วย
ด้านร่างกาย
ผู้ป่วยมักให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของตนเอง ที่ตรวจไม่พบความผิดปกติ และมักเป็นข้อมูลที่เกินจริง
2.ข้อวินิจฉัย
กลไกการเผชิญปัญหาไม่เหมาะสม เนื่องจากบุคคลิกพึ่งพิงและพัฒนาการไม่สมวัย
3.การปฏิบัติ
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด รับฟังปัญหาและให้ความรู้เรื่องความวิตกกังวล ฝึกให้ผู้ป่วยรู้จักการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
1.Panic Disorder
อาการตื่นกลัว การรับรู้เหตุหารณ์และเหตุผลมีน้อย เกิดโดยไม่มีสิ่งใดมากระตุ้น อาการเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว รุนเเรง เวลา 10-15 นาที ทุเลาลงใน 1 hr
ลักษณะอาการ
เกิดขึ้นอย่างน้อย 4 อาการ ได้แก่
1.ใจสั่น ใจเต้นแรง (หัวใจเต้นเร็วมาก) 2.เหงื่อแตก 3.ตัวสั่น 4.หายใจไม่อิ่ม 5.อึดอัด/แน่นอยู่ข้างใน 6.เจ็บหน้าอก 7.คลื่นไส้ 8.มึนงง วิงเวียน 9.รู้สึกร้อนๆรู้สึกหนาวๆ 10.เสียวซ่าตามผิวหนัง 11.รู้สึกแปลกไป เปลี่ยนแปลงไป 12.กลัวควบคุมตนเองไม่ได้ 13.กลัวว่าตนเองกำลังจะตาย
สาเหตุของPanic Disorder
ปัจจัยด้านชีวภาพ
พันธุกรรม ความผิดปกติในการทำหน้าที่เชื่อมต่อข้อมูลซึ่งกันและกัน ความสมดุลของสารสื่อประสาท กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติชนิดซิมพาเทติก ให้เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ปัจจัยด้านจิตใจ ผู้ป่วยโรคแพนิคมัเกิดขึ้นภายหลังการแยกจาก /ภาวะสูณเสีย ผู้ป่วยมีอาการตื่นตระหนก ที่มีสิ่งกระตุ้น
การบำบัดรักษาพยาบาล
1.การบำบัดด้านร่างกาย การรักษาด้วยยา และจิตบำบัด ยากลุ่ม anxiolytic agent คือ benzodiazepines ใช้ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกจึงค่อยๆลดลง/หยุดยา 2.การบำบัดด้านจิตใจคือการทำจิตบำบัด ประกอบด้วย -พฤติกรรมบำบัด -จิตบำบัดการปรับความคิดและพฤติกรรม 3.การจัดแวดล้อมเพื่อการบำบัด -การสร้างบรรยากาสที่อบอุ่น -ผู้บำบัดควรมีลักษณะจริงใจ
การพยาบาล
1.การประเมินผู้ป่วย
ด้านร่างกาย ผู้ป่วยบอกถึงอาการทางกาย ด้านอารมณ์ วิตกกังวล เสร้า เสียใจ ด้านความคิด ผู้ป่วยอามีความคิดฆ่าตัวตาย
2.ข้อวินิจฉัย
มีความวิตกกังวลอย่างรุนแรง เนื่องจากรับรู้ว่ามีการคุกคามต่อชีวิต
3.ปฏิบักการพยาบาล
จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ ไม่มีสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการ Panic สื่อสารกับผู้ป่วยด้วยคำพูดที่เข้าใจง่าย สั้นๆ ชัดเจน
2.Phobia Disorder
กลัวในสิ่งที่ไม่น่ากลัว กลัวมากจนไม่สมเหตุสมผล กลัววัตถุ/สถานการณ์ที่ไม่น่ากลัว กลัวแต่หักห้ามตัวเองไม่ได้
ลักษณะอาการ
1.Agoraphobia
กลัวการอยู่คนเดียวในที่สาธารณะ Ex.สะพานลอยยาวๆ กลัวตลาด
2.Social phobia
กลัวคนอื่นจ้องมอง กลัวการถูกดูถูก กลัวการทำการอับอาย
3.Specific phobia
เป็นการกลัวสัตว์บางอย่าง เช่น กลัวแมงมุม กลัวเลือด กลัวเข็ม
สาเหตุของPhobia Disorder
1.ปัจจัยด้านชีวภาพ
-สมดุลปริมาณสารสื่อประสาท -การทำงานของสมอง
2.ปัจจัยด้านจิตใจ
ดรคกลัวมีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจ เช่น กลัวสุนัขเนื่องจากเคยถูกสุนัขกัดเมื่อตอนเด็ก
การบำบัดรักษา
1.การบำบัดด้านร่างกาย
การรักษาด้วยยา ใช้ต้านอารมณ์เศร้ากลุ่ม SSRIS ยาคลายวิตกกังวล benzodiazepine
2.การบำบัดด้านจิตใจ
คือการทำจิตบำบัด -พฤติกรรมบำบัด -จิตบำบัดแบบการปรับความคิดและพฤติกรรม
3.การจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการบำบัด
-การสร้างบรรยากาศบำบัด -ผู้บำบัดควรมีลักษณะจริงใจ
การพยาบาล
1.การประเมินผู้ป่วย
ด้านร่างกาย ความกลัวรุนแรงมาก ด้านอารมณ์ ความกลัวต่อสิ่งต่างๆ มีผลต่อการดำเนินชีวิตของผู้ป่วยอย่างไร ด้านความคิด ประเมินการรับรู้สิ่งคุกคามที่ทำให้ผู้ป่วยกลัว ผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต
2.ข้อวินิจฉัย
รู้สึกกลัวไม่สมเหตุสมผล เนื่องจากการอยู่ในสถานที่ที่บุคคลรู้สึกว่าอาจทำให้เกิดอันตรายจากการแยกตัวทางสังคม
3.ปฏิบัติการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด ยอมรับความกลัวของผู้ป่วย ประเมินระดับความวิตกกังวลการรวบรวมข้อมูลจากการประเมินแบบสอบถาม
3.Generlized Anxiety Disorder (GAD)
การหวาดวิตกกังวล เรื่องทั่วไป เรื่องงาน เรื่องการเรียน ผู้ป่วยจะรู้สึกหวาดกลัว/หวาดหวั่น และคาดการณ์ ไปล่วงหน้า มีอาการทางระบบประสาท อาการต่อเนื่องนานอย่างน้อย 5 เดือน
ลักษณะอาการ
เกิดจากความวิตกกังวลนานอย่อย 5 เดือน มีอาการร่วมด้วย 3 อาการ อยู่นิ่งไม่ได้ ระสับกระสาย, อ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย ,ไม่มีสมาธิ ,หงุดหงิดง่าย , กล้ามเนื้อตึงเครียด , มีปัญหาด้านการนอน
สาเหตุของGAD
1.ปัจจัยด้านชีวภาพ
เกี่ยวกับสารสื่อประสาท -การลดลงของ GABA -การลดลงของระดับ Serotonin เป็นสารแห่งความสุข ช่วยให้คิดในแง่ดี -การเพิ่มจำนวนมากเกินไปของ Norepinephrine การกระตุ้นานของระบบประสาทอัตดโนมัติชนิดชิมพาเทติก
2.ปัจจัยทางด้านจิตใจ
อาการวิตกกังวลเกิดจากความขัดแย้งของจิตไร้สำนึก
การบำบัดการรักษา
1.ด้านร่างกาย
รักษาด้วยยากลุ่ม benzodiazepine ใช้ในช่วงเวลาที่สั้น บางรายอาจใช้ยากลุ่มSSRIS
2.ด้านจิตใจ
การทำจิตบำบัด -จิตบำบัดแบบจิตพลวัต -จิตบำบัดแบบการปรับความคิดและพฤติกรรม
3.การจัดสิ่งเเวดล้อมเพื่อการบำบัด
-การสร้างบรรยาการที่อบอุ่น -ผู้บำบัดมีลักษณะจิตใจ -ส่งเสริมการจัดกิจกรรมและกระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรม
การพยาบาล
1.การประเมิน
ด้านร่างกาย มีอาการ เช่นหายใจไม่เต็มอิ่ม ใจสั่น ปวดศรีษะ นอนไม่หลับ ด้านอารมณ์ มีความวิตกกังวล ทุกขืใจเกี่ยวกับเหตุการณืในชีวิตหลายเรื่องมารวมกัน ด้านความคิด มีความคิดฆ่าตัวตาย
2.ข้อวินิจฉัย
วิตกกังวลเนื่องจากการใช้วิธีการเผชิญความเครียดไม่มีประสิทธิภาพ
3. การปฎิบัติ
สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด ประเมินระดับความวิตกกังวลด้วยการรวบรวมข้อมูลจากแบบประเมิน ให้ผู้ป่วยสำรวจความรู้สึก
4.Obsessive-Compulsive Disorder (OCD)
ความวิตกกังวลทางการย้ำคิด และพฤติกรรมย้ำทำ กลัวเกี่ยวกับความปลอยภัย ความกลัวเชื้อโรค
ลักษณะอาการ
1.อาการย้ำคิด
มีความคิด ความรู้/แรงกระตุ้นให้กระทำอะไรบางอย่างซ้ำๆ
2.อาการย้ำทำ
เพื่อป้องกัน/ลด ความไม่สบายใจ เช่น การล้างมือซ้ำๆ
สาเหตุของObsessive-Compulsive Disorder (OCD
)
1.ปัจจัยด้านชีวภาพ
-พันธุกรรม -ระดับ Serotonin มีความผิดปกติ -การทำงานผิดปกติของสมองใหญ่ส่วนหน้า
2.ปัจจัยทางด้านจิตใจ
ป้องกันตนเองทางจิตเพื่อจัดการกับความรู้สึกขัดแย้งในระดับจิตไร้สำนึก
การบำบัดรักษา
** 1.ด้านร่างการ
การใช้ยา
2.ด้านจิตใจ
-พฤติกรรม -การปรับความคิดและพฤติกรรม -การบำบัดทางความคิด
3.การจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการบำบัด
-การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น -ผู้บำบัดควรมีลักษณะจริงใจ -จัดกิจกรรมอื่นที่น่าสนใเเละกระตุ้นให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรม
การพยาบาล**
การประเมิน
-ด้านร่างกาย พบผู้ป่วยอาจมีผิวหนังแห้ง นอนไม่หลับ -ด้านอามณ์ มีความกังวล เครียดเศร้า -ด้านความคิด อาการย้ำคิด
ข้อวินิจฉัย
การทำหน้าที่ตามบทบาทไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจาก มีพฤติกรรมย้ำทำ
การปฎิบัติ** สร้างสัมพันธภาพเพื่อการบำบัด ประเมินระดับความวิตกกังวลด้วยการรวบรวมข้อมูลจากแบบประเมิน ให้ผู้ป่วยสำรวจความรู้สึก
5.Post-Traumatic Stess Disorder
ความวิตกกังวลที่เกิดจากภาวะความเครียดรุนแรง ภายหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ เช่น ถูกข่มขืนภัยสงคราม
ลักษณะอาการ
อาการหวาดกลัวอย่างรุนเเรง รู้สึกสิ้นหวัง การนอนแปรปรวน ตกใจง่าย หงุดหงิด เกิดขึ้นต่อเนื่องนานกว่า 4สัปดาห์
สาเหตุของPost-Traumatic Stess Disorder
1.ปัจจัยด้านชีวภาพ
-การทำงานที่ผิดปกติของยีน -การเผชิญความเครียดจากเหตุการณ์นานๆ
2.ปัจจัยด้านจิตใจ
แนวคิดจิตวิเคราะห์ เหตุการณ์รุนแรงเกิดจากการไร้จิตสำนึก
การบำบัด
1.ด้านร่างกาย
ยารักษา ยาต้านอารมณ์เศร้า ยาคลายวิตกกังวลและยานอนหลับ
2.ด้านจิตใจ
การปรับความคิดและพฤติกรรม การจัดการกับภาวะวิตกกังวล การให้คำปรึกษา การให้ความรู้แก่ผู้ป่วยและครอบครัว
3.การจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อการบำบัด
การสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ผู้บำบัดควรมีลักษณะจิตใจ
การพยาบาล 1.การประเมิน
ด้านร่างกาย
อาการหวาดกลัว
ด้านอารมณ์
รู้สึกผิด ตกใจ โกธร
ด้านความคิด
ผู้ป่วยคิดฆ่าตัวตาย
2.ข้อวินิจฉัย
วิตกกังวลเนื่องจากการใช้วิธีการเผชิญความเครียดไม่มีประสิทธิภาพ
3.การปฎิบัติ
สร้างสัมพัธภาพเพื่อการบำบัด ประเมินระดับความวิตกกังวลการรวบรวมการประเมินแบบสอบถาม สนับสนุนให้กำลังใจทจัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ
โรควิตกกังกล*
เกิดจากพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อม ปัจจัยเสี่ยงรวมทั้งประวัติถูกทารุณกรรมในวัยเด็ก ความผิดปกติทางครอบครัว ความยากจน อาการอย่างน้อย 6 เดือน มีความกัวลเกินเหตุ มีปัญหาในการดำรงชีวิต มีปัญหาทางจิตเวช
โรควิตกกังวล
ความรู้สึกตระหนก หวาดหวั่น สะพรึงกลัวโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน ร่วมกับมีอาการทางกายหลายอย่าง