Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

การพยาบาลทารกที่มีภาวะเสี่ยงสูง, นางสาว สุชานาถ สุโขประสพชัย …

- - - - ผิวสัมผัสกับวัตถุเย็น
    - - การพาความร้อนจากทารกสู่สิ่งแวดล้อมที่เย็นกว่า
    - - การเสียความร้อนไปที่เย็นกว่าโดยไม่ได้สัมผัส
    - - เมื่อของเหลวเป็นไอน้ำ
  - - - ทารกก่อนกำหนด
        
        นาน 3 นาที ลึก 2.5 ซม.
      - ทารกครบกำหนด
        
        นาน 3 นาที ลึก 3 ซม.
    - - ทารกก่อนกำหนด
        
        นาน 5 นาที
      - ทารกครบกำหนด
        
        นาน 8 นาที
  - - - มือเท้าเย็น ซีด ผิวลายจากเส้นเลือดขยายตัว ซึม ดูดนมช้า น้อย อาเจียน ท้องอืด น้ำหนักลดหรือไม่ขึ้น
  - - - อาจเกิดจากอยู่ในสถานที่ร้อนเกินไป
    - - หุดหงิด เคลื่อนไหวลดลง หายใจเร็ว แรง หรือหยุดหายใจ ซึ่ม อุณหภมิร่างกายอุ่นกว่าปกติ
- - - - Foramen ovale ปิดสมบูรณ์
      - Ductusarteriosusจะหดตัวและปิดกลายเป็นเอ็น
      - Ductusvenosus ปิดเมื่อสายสะดือถูกตัดกลายเป็นเอ็นที่ตับ
  - - - • หายใจเร็ว
      - • หอบเหนื่อย
      - • น้าหนักไม่ขึ้น
      - •ท้องอืด
      - •รับนมได้น้อย
    - - รักษาทั่วไป
        
        ให้ยาควบคุมอาการถ้ามีภาวะหัวใจวาย
      - การรักษาจำเพาะ
        
        โดยใช้ยาเพื่อช่วยยับยั้ง การสร้าง prostaglandin
        
        การผ่าตัด PDA ligation
  - - - ภาวะตัวเหลืองจากสรีรภาวะ
      - ภาวะตัวเหลืองจากพยาธิภาวะ
    - - มีการสร้างบิลลิรูบินเพิ่มข้ึนมากกว่าปกติ จากภาวะต่างๆท่ีมีการทำลายเม็ดเลือดแดง
      - การดูดซึมของบิลิรูบินจากลำไส้มากข้ึน
      - การกำจัดบิลิรูบินได้น้อยลงจากท่อน้ำดีอุดตัน การขาดเอนไซด์บางชนิดแต่กำเนิด
      - มีการสร้างบิลิรูบินเพิ่มมากข้ึนร่วมกับการกำจัดได้น้อยลง
      - มีการดูดซึมของบิลิรูบินจากลำไส้มากขึ้นจากภาวะที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม
    - - ระยะแรก
        
        ซึม ดูดนมน้อยลง ตัวอ่อนปวกเปียก เกร็งหลังแอ่น ชัก มีไข้
      - ระยะยาว
        
        การเคลื่อนไหวผิดปกติของร่างกายและแขนขา
        มีความผิดปกติของการได้ยินและการเคลื่อนไหวลูกตา พัฒนาการช้าระดับสติปัญญาลดลง
    - - เรียกว่า Kernicterus
    - - การส่องไฟ (phototherapy)
      - การเปลี่ยนถ่ายเลือด (exchange transfusion)
- - - - มารดามีเลือดออกทางช่องคลอดก่อนกำหนด
      - ทารกมีภาวะ hypothermia, Perinatal asphyxia
      - ครรภ์ก่อนบุตรมีภาวะ RDS
      - มารดาเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
    - - • เกิดจากการขาดสารลดแรงตึงผิวที่ผิวของถุงลม
      - •โครงสร้างของปอดมีพัฒนาการไม่เต็มที่
    - - ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบทางเดินหายใจ
        
        หายใจเร็ว หน้าอกกับท้องไม่สัมพันธ์กัน
        
        เสียงหายใจผิดปกติมรการกลั่นกายใจขณะหายใจออก
        
        ซีด BPต่ำ
      - ระบบทรวงอก
        
        หน้าอกบุ๋ม
      - ระบบทางเดินอาหาร : ดูดนมไม่ดีอาเจียนท้องอืด
      - ระบบประสาท : ซึมกระสับกระส่าย reflex ลดลงกระหม่อมโปร่งตึง
      - ระบบผิวหนัง : ตัวลาย ผิวหนังเย็น ตัวเหลือง มีจุดเลือดออก
      - เมตาบอลิซึม: Hypoglycemia ภาวะ acidosis
    - - ให้ออกซิเจนตามความต้องการของทารก
      - ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับออกซิเจน
      - ให้สารลดแรงตึงผิวเพื่อทำให้ความยือหยุ่นของปอดดีข้ึน
  - - - ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการคลอด
      - ปัจจัยทางด้านมารดา
      - ปัจจัยเก่ียวกับทารก
    - - ภาวะหยดุหายใจนานกว่า 20 วินาทีร่วมกับมี cyanosis
    - - ภาวะเลือดออกในโพรงสมอง
      - เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เป็นปัญหาสาคัญที่พบในทารกคลอดก่อนกำหนด
    - - การงอกผิดปกติของเส้นเลือด
      - การพยาบาล
        
        ดูแลให้ทารกรับออกซิเจนเท่าที่จำเป็น
        
        ในทารกที่ได้รัออกซิเจน ติดตาม O2 saturation
        
        ดูแลให้ได้รับวิตามินอี
        
        ดูแลให้ทารกได้รับการตรวจ screening ROP
    - - พบในทารกคลอดก่อนกำหนดที่เป็น RDS หรือโรคที่ต้องการ 02 ความเข้มขันสูงเกิน 60% และใช้เครื่องช่วยหายใจนานกว่า 24 ชม.
      - การรักษา
        
        ตามสาเหตุ
        
        ตามอาการ
        
        การให้ 02, ให้ยาขยายหลอดลม,รักษาภาวะแทรกซ้อน, ฟื้นฟูสมรรถภาพปอด
- - - - ท้องอืด ถ่ายอุจาระเหลว อาเจียนเป็นสีน้ำดี มีเลือดออกในทางเดินอาหาร อาหารเหลือค้างใน
        กระเพาะอาหาร อาจมีเยื่อบุช่องท้องอักเสบ
    - - การระงับสิ่งกระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบ ผ่านการพักการใช้ทางเดินอาหาร
      - ยาปฏิชีวนะชนิดสเปกตรัมกว้าง การระงับการติดเชื้อตามระบบต่างๆ ของร่างกาย
      - การพยุงระบบไหลเวียน ด้วยการให้สารสารอาหารทางหลอดเลือด
      - ให้ยากลุ่มกระตุ้นความดันโลหิต
      - การเฝ้าติดตามการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วย ได้แก่ สัญญาณชีพ ปริมาณปัสสาวะ การแข็งตัวของเลือด การ
        เปลี่ยนแปลงของพยาธิสภาพในทางเดินอาหาร
    - - การผ่าตัดแบบเปิดสารวจช่องท้อง
        
        หลังจากรับการผ่าตัดแล้ว จะต้องมีการเฝ้าระวังเพื่อฟื้นฟูร่างกายทารกหลังผ่าตัดให้กลับมาเป็นปกติ
        
        โดยผู้
        ดูแลจะต้องพยุงระบบไหลเวียนด้วยสารน้ำ และยาพยุงความดัน
        
        อีกทั้งต้องเฝ้าระวังความผิดปกติเกี่ยวกับ
        การแข็งตัวของเลือด ภาวะตกเลือดในสมอง ภาวดิดเชื้อในกระแสเลือด
      - การใส่ท่อระบายช่องท้อง
  - - - แรกเกิด-อายุ 4 ชั่วโมง ให้นมภายใน 1 ชั่วโมงแรก ดิดตามระดับน้ำตาลในเลือด 30 นาทีหลังให้นมมื้อแรก
      - *10% D/W 2 mg /kg.และ/หรือ glucose infusion rate (GIR) 5-8 มก/กก/นาที โดยให้ระดับน้ำตาลใน
        เลือด อยู่ในช่วง 40-50 มก./ดล.
    - - จะต้องตรวจหาระดับน้ำตาล ภายใน 1-2 ชม.หลังคลอด
        และติดตามทุก 1-2 ชม.ใน 6-8 ชม.แรก
    - - ถ้ากินไม่ได้ให้สารละลายกลูโดสทางหลอดเลือดดำควบคุมอุณหภูมิห้องและดูแลให้ความอบอุ่นแก่ทารก
  - - - ลักษณะทางพยาธิสรีวิทยาปกติ
      - ลักษณะความผิดปกติทางพยาธิสภาพของรกและทารกในครรภ์ที่ตอบสนองต่อความเครียด
    - - ให้ทารกได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
      - พิจารณาให้ยาตามอาการของทารก เพื่อให้ทารกพักผ่อน ลดการใช้ออกซิเจนในร่างกาย
      - พิจารณาใช้ยาเพื่อขยายหลอดเลือดในปอด กรณีมีภาวะความดันในปอดสูง
      - ให้ยาปฏิชีวนะ ในกรณีมีภาวะหายใจลัมเหลว เพื่อลดการอักเสบเนื้อเยื่อปอด
      - เฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่สาคัญ
    - - เป้าหมายที่สำคัญเพื่อให้ทารกได้รับออกซิเจนเพียงพอ เฝ้าระวังการติดเชื้อ
      - ดูแลให้ได้รับออกซิเจน ติดตามอาการแสดงของการขาดออกซิเจน ได้แก่ หายใจเร็ว อกบุ๋ม ปึกจมูก
        บาน ใช้กล้ามเนื้อช่วยในการหายใจมากขึ้น เขียว
      - วัดความดันโลหิตทุก2- 4 ชั่วโมง เฝ้าระวังการเกิดความดันด่าจาก PPHN
- - - - หลีกเลี่ยงการเหยียดแขนขา พยายามให้ทารกอยู่ในท่าแขน ขางอเข้าหากลางลำตัว
      - ห่อตัวทารกให้แขนงอ มือสองข้างอยู่ใกล้ ๆ ปาก หลีกเลี่ยงการห่อตัวแบบเก็บแขน
      - ใช้ผ้าอ้อมหรือผ้ห่มผื่นเล็กมั่วนวางรอบ ๆ กายของทารกเสมือนอยู่ในครรภ์มารดา
- - - - ติดเชื้อในระยะก่อน ระหว่างการคลอด แสดงอาการภายใน 2-3 วัน แรกหลังคลอดภายใน 72 ชั่วโมงแรก
    - - ติดเชื้อที่แสดงอาการ หลังคลอด 72 ชั่วโมงถึง 1 เดือน
    - - ซักประวัติมารดาขณะตั้งครรภ์ ไข้ ผื่น ด่อม น้าเหลืองโตสัมผัสผู้ป่วยติดเชื้อ
      - ตรวจร่างกาย
      - ตรวจทางห้องปฏิบัติการ Culture 24-48 hr.
      - CBC , Plt count
      - ESR ดกูารตกของเม็ดเลือดขาว ทารกยังไมเกิน 2 mmhr
      - CRP
      - CXR