Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อ ระบบหัวใจและหลอดเลือด, นางสาวภัคนันท์ ภารมาตย์ รหัสนิสิต…
ยาที่ออกฤทธิ์ต่อ ระบบหัวใจและหลอดเลือด
Antihypertensive drugs
ยาที่มีผลต่อระบบประสาทซิมพาเทติก โดยมีกลไกการออกฤทธิ์ 5 ประเภท
ลดการทางานของระบบประสาทซิมพาเทติกที่สมอง
ปิดกั้นการส่งสัญญาณผ่านปมประสาทอัตโนมัติ
ทาให้ปลายประสาทขาดสื่อ
ปิดกั้นตัวรับแอลฟาที่กล้ามเนื้อเรียบรอบหลอดเลือด
ปิดกั้นตัวรับเบตา-1 ที่กล้ามเนื้อหัวใจ
ยาที่มีผลต่อระบบ Renin-Angiotensin-aldosterone
ยาที่ออกฤทธิ์ปิดกั้นการทางานของเอนไซม์
Angiotensin Converting Enzyme และออกฤทธิ์ปิดกั้นตัวรับของ Angiotensin II
ยาที่ออกฤทธิ์ขัดขวางแคลเซียมเข้าเซลล์
ซึ่งมีความจาเป็นสาหรับการบีบตัวของกล่มเนื้อเรียบรอบหลอดเลือด
การขาดแคลเซียมจะทาให้กล้ามเนื้อเรียบคลายตัว
ยาขับปัสสาวะ ออกฤทธิ์โดยการทาให้ปริมาณเลือดลดลง จะมีการขับน้าและเกลือแร่ออกจากร่างกาย
ยาขับปัสสาวะ
ยาขับปัสสาวะและยาปิดกั้นเบต้า มักจะได้รับการพิจารณาให้ใช้ในขั้นแรกของการรักษา
Thiazide diuretics : Hydrochlorothiazide
โดยเพิ่มการขับน้าและโซเดียมออกจากร่างกาย ทาให้ปริมาตรของเหลวนอกเซลล์ลดลง
ส่งผลให้ Cardiac output และเลือดไปเลี้ยงที่ไตลดลง
หากให้ในระยะยาวจะพบแรงต้านการไหลของเลือดลดลง
อาการที่ไม่พึงประสงค์ คือ ภาวะโพแทสเซียมในเลือดต่า
กรดยูริกในเลือดสูง ซึ่งอาจทะให้หัวใจเต้นผิดจังหวะได้ จึงต้องเฝ้าระวังในผู้ป่วยที่ได้รับยา Digitalis
Loop diuretics : Furosemide
ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์ได้เร็ว ลดแรงต้านของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไต
จึงทาให้เลือดไปเลี้ยงที่ไตเพิ่มขึ้น
อาการไม่พึงประสงค์ คือภาวะโพแทสเซียมต่า และภาวะกรดยูกริกในเลือดสูง
ยาลดการทางานของระบบประสาทซิมพาเทติก
ยาปิดกั้นแอลฟา (Alpha-Blockers)
ออกฤทธิ์โดยการปิดกั้นการออกฤทธิ์ของ Norepinephrine ที่ตัวรับแอลฟา
ทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อเรียบรอบหลอดเลือด
ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง Cardiac output
ยากลุ่มนี้ใช้ร่วมกับ ยาขับปัสสาวะ และยาต้านตัวรับเบต้า
อาการไม่พึงประสงค์ จะทาให้เกิดความดันเลือดลดลงเมื่อเปลี่ยนท่า
ยาปิดกั้นเบต้า (Beta-Blockers)
เมื่อเริ่มให้ยา ยาจะมีผลลด Cardiac output ระงับการหลั่งสารเรนิน และจะมีความจาเพาะเจาะจงต่อตัวรับเบตา-1 และ เบตา-2 ไม่เท่ากัน
Propranolol เป็นยาที่ใช้กันมานานและแพร่หลาย ออกฤทธิ์ปิดกั้นตัวรับทั้งเบตา-1 และ เบตา-2
ห้ามใช้ในผู้ป่วยโรคหืด เนื่องจากจะทาให้หลอดลมตีบ
Atenolol และ Metoprolol มีความจาเพาะต่อตัวรับ เบตา-1 มากกว่า จึงใช้ในผู้ป่วยโรคหืดได้
ใช้ได้ผลดีในคนหนุ่มสาวมากกว่าผู้สูงอายุ
มีประโยชน์ในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตสูงร่วมกับโรคอื่นๆ เช่น หัวใจห้องบนเต้นเร็ว ต้อหิน และปวดศีรษะ
อาการไม่พึงประสงค์ เช่น อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ และประสาทหลอน เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
การหยุดใช้ยาต้องค่อยๆลดขนาดยา ไม่หยุดยากะทันหัน เพราะอาจเกิดหัวใจเต้นผิดปกติได้
ยาลดการส่งสัญญาณประสาทซิพาเทติกจากสมองส่วนกลาง
α2- agonist : Clonidine จะลดการส่งประสาทซิมพาเทติกจากสมองส่วนกลาง
ซึ่งไม่ลดการไหลของเลือดไปเลี้ยงที่ไต
อัตราการกรองที่กรวยไต
เหมาะสาหับผู้ป่วยที่มีภาวะความดันโลหิตสูงและมีโรคไตร่วมด้วย
ซึ่งทาให้เกิดการคั่งของโซเดียมและน้าในร่างกาย
จึงให้ยาขับปัสสาวะร่วมด้วย
อาการที่ไม่พึงประสงค์ คือ ทาให้ง่วงนอน จมูกแห้ง การหยุดยากะทันหันจะทาให้เกิดความดันโลหิตสูงเฉียบพลัน
หากต้องการเปลี่ยนยาต้องค่อยๆลดขนาดยา
α- Methyldopa ออกฤทธิ์ลดความดันเลือดและแรงต้านการไหลของเลือด
ไม่มีผลลด Cardiac output และการไหลของเลือดไปอวัยวะสาคัญ
เหมาะกับผู้ป่วยที่มีภาวะดันความโลหิตสูงร่วมกับโรคไต
อาการไม่พึงประสงค์ ได้แก่ ง่วงนอน ซึมเศร้า
Labetalol มีคุณสมบัติปิดกั้นได้ทั้งตัวรับแอลฟาและเบตา
เมื่อให้ยาโดยการฉีดเข้าหลอดเลือดดา
จะมีประโยชน์ในการลดความดันโลหิตสูงเฉียบพลัน
ยาที่ทาให้ปลายประสาทขาดสื่อ
Reserprin ออกฤทธิ์โดยเข้าไปจับกับสารในถุงที่เก็บ Norepinephrine ในปลายประสาท
ทาให้ไม่สามารถเก็บ Norepinephrine ไว้ได้
เมื่อ Norepinephrine ออกมาอยู่ใน cytoplasm
จะถูกทาลายด้วยเอนไซม์ Monoamine oxidase
ทาให้เมื่อมีสัญญาณประสาทส่งมา
จะทาให้ไม่มีสารสื่อประสาทหลั่งออกมาจากปลายประสาทที่เพียงพอ
ทาให้ Cardiac output และ แรงต้านการไหลของเลือดลดลง
อาการที่ไม่พึงประสงค์ คือง่วงนอน ไม่มีสมาธิ อาจเกิดภาวะซึมเศร้า หรือคิดฆ่าตัวตายได้
Guanethidine
เป็นยาที่ยับยั้งการทางานของระบบประสาทซิมพาเท ติกส่วนนอกสมองส่วนกลาง
โดยยาจะเข้าสู่ปลายประสาทของเซลล์ โดยอาศัย Active transport
Reuptake Norepinephrine กลับสู่ถุงเก็บในปลายประสาท
เมื่อใช้ยานานๆ จาให้ Norepinephrineถูกเก็บไว้ไม่เพียงพอสาหรับการหลั่ง
เมื่อมีสัญญาณประสาทมาถึงปลายประสาท Guanetidine
จะถูกหลั่งออกมาแทน ทาให้ไม่สามารถถ่ายทอดคาสั่งได้
ยาปิดกั้นการส่งสัญญาณผ่านประสาทอัตโนมัติ
Trimethaphan
ปัจจุบันไม่ค่อยนิยมใช้ จะใช้ในกรณีความดันโลหิตสูง เกี่ยวกับ Dissecting aneurysm
ของ Aorta และการทาให้ความดันโลหิตลดลงระหว่างการผ่าตัด
อาการที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ กระเพาะอาหารและลาไส้ไม่เคลื่อนไหว
กระเพาะปัสสาวะทางานผิดปกติ ตาพร่า ปากแห้ง
ยาต้านแคลเซียม
กลไกการออกฤทธิ์ : แคลเซียมเป็นประจุอิสระที่จาเป็นต่อการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ และกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด ยาต้านแคลเซียมส่งผลให้ลดความแรงในการเต้นของหัวใจ หรือการบีบตัวของหลอดเลือด
อาการที่ไม่พึงประสงค์ : ท้องผูก มึนงง ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย
Diphenylalkylamines : Verapamil ออกฤทธิ์ได้แบบไม่เฉพาะเจาะจง ทั้งกล้ามเนื้อหัวใจและกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด และใช้ในการรักษา Angina, Supraventricular tachycardia, arrhythmias และปวดศีรษะไมเกรน ไม่ควรใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
Benzothiazepine : Diltiazem ออกฤทธิ์คล้าย Verapamil แต่ลดความแรงในการเต้นของหัวใจน้อยกว่า
Dihydropyridines : Nifedipine, Amlodipine, Felodipine, Isradipine, Nicardipine, Nisoldipine ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงกับหลอดเลือด ทาให้หลอดเลือดขยายตัว โดยไม่ลดความแรงและความเร้วในการเต้นของหัวใจ
ยาต้านการออกฤทธิ์ Angiotensin converting Enzyme (ACE inhibitors)
ออกฤทธิ์ลดความดันโลหิตโดยการลดแรงต้านความดันโลหิตในหลอดเลือดส่วนปลาย และไม่ทาให้เกิดรีเฟล็กซ์ในการเพิ่ม Caediac output หรือความเร็วและความแรงในการเต้นของหัวใจ
ปิดกั้นการทางานของเอนไซม์ Angiotensin converting enzyme ซึ่งจะเปลี่ยน Angiotensin I ให้เป็น Angiotensin II มีฤทธิ์ทาให้หลอดเลือดหดตัวอย่างแรง
ลดอัตราเร็วในการทาลาย Bradykinin ทาให้หลอดเลือดขยายตัวมากขึ้น
หลั่ง aldosterone ลดลง ทาให้ลดการคั่งของน้าและโซเดียม ปริมาณเลือดลดลง
ใช้ได้ผลดีกับผู้ป่วยที่มีอายุไม่มาก และผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
อาการที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ ไอแห้ง ผื่นคัน มีไข้ โพแทสเซียมในเลือดสูง
ยาปิดกั้นตัวรับ Angiotensin II
Losartan ปิดกั้นการออกฤทธิ์ของ Angiotensin II ที่ตัวรับอย่างเฉพาะเจาะจง มีผลคล้ายกลุ่ม ACEIs แต่ไม่มีผลต่อ Bradykinin
อาการที่ไม่พึงประสงค์ คล้ายกับ กลุ่ม ACEIs ยกเว้นอาการไอที่มีน้อยกว่า
ยาขยายหลอดเลือดชนิดอื่นๆ
Hydralazine ออกฤทธิ์ขยายหลอดเลือดแดงโดยตรง
ทาให้เกิดหัวใจเต้นเร็วและแรง เพิ่มการหลั่งเรนิน
กระตุ้นการทางานขอระบบประสาทซิมพาเทติก
อาการที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หน้าตาแดง ความดันโลหิตต่า หัวใจเต้นเร็ว มึนงง เกิดอาการเจ็บหน้าอก
จะให้ยา Propranolol และยาขับปัสสาวะร่วมด้วยเพื่อลดอาการข้างเคียง
Sodium nitroprusside ออกฤทธิ์ในการลดความดันโลหิตสูงเฉียบพลันในระยะสั้นๆ และใช้ในผู้ป่วยหัวใจห้องล่างซ้ายล้มเหลว อาการไม่พึงประสงค์ อาจเกิดความดันโลหิตลดมากเกินไป
หลักการใช้ยาความดันโลหิตสูงร่วมกัน
ควรเป็นยาที่มีกลไกการออกฤทธิ์ต่างกัน
ยาจะต้องไม่ทาให้พยาธิสภาพของโรคอื่นๆที่ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงขึ้น
มีฤทธิ์ต้านหรือลดอาการไม่พึงประสงค์ของยาเดิม
Antiarrhythmic drugs
Class I (Na channel blocker)
กลุ่ม IA
Disopyramide ใช้ในการรักษา Ventricular arrhytnmias อาการไม่พึงประสงค์ คือ มีฤทธิ์ anticholinergic action เช่น ปากแห้ง ปัสสาวะคั่ง ตาพร่า และท้องผูก
Procainamide อาการไม่พึงประสงค์คือ ซึมเศร้า ประสาทหลอน และโรคจิต หากใช้ในขนาดสูง อาจทาให้เกิด Asystole หรือ Ventricular arrhytnmia
Quinidine ใช้ในการรักษา Atrial, AV-junctional และ Ventricular tachyarrhythmias และใช้ควบคุม Sinus rhythm หลังจากการช็อกหัวใจด้วยไฟฟ้า อาการที่ไม่พึงประสงค์ อาจทาใหเกิด SA block, AV block หรือ Asystole หากให้ในขนาดสูงๆ จะทาให้เกิด Cinchonism ได้แก่ ตาพร่า ได้ยินเสียงในหู ปวดศีรษะ สับสน และเกิดความผิดปกติทางจิต
กลุ่ม IB
Lidocaine ใช้ประโยชน์ในการรักษา Ventricular arrhythmias ในภาวะฉุกเฉิน ให้ยาโดยทางหลอดเลือดดา เนื่องจากหากให้วิธีรับประทานยาจะถูกทาลายที่ตับได้อย่างรวดเร็ว อาการไม่พึงประสงค์ ได้แก่ ง่วงนอน พูดลิ้นรัว ประสาทรับสัมผัสผิดปกติ หงุดหงิด สับสน และชัก
Mexiletine และ Tocainide สามารถให้โดยวิธีรับประทานได้
Tocainide จะมีพิษต่อปอดได้
กลุ่ม IC
Flexcainide และ Propafenone ใช้ลดการนาสัญญาณไฟฟ้าของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ใช้ในกรณีเกิด Premature ventricular contraction
Class II (Beta-adrenoceptor blocker)
Propranolol ใช้ในการลดอุบัติการณ์การเสียชีวิตอย่างกะทันหันจากการเต้นหัวใจผิดปกติหลังการเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย
Metoprolol ปิดกั้นตัวรับเบตา-1
Pindolol กระตุ้นตัวรับเบตาได้เล็กน้อย ทาให้ไม่มีความเสี่ยงในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว
Esmolol ออกฤทธิ์ให้ระยะสั้นๆ ฉีดเข้าหลอดเลือดดาในกรณีหัวใจเต้นผิดปกติเฉียบพลันระหว่างการผ่าตัดหรือภาวะฉุกเฉิน
Class III (K channel blocker)
Sotalol ใช้ในผู้ป่วย Sustained ventricular tachycardia
Bretylium ออกฤทธิ์ Prolong refractory period ใช้เฉพาะกรณีหัวใจหยุดเต้นเนื่องจากหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะ ซึ่งจะทาให้เกิดความดันเลือดต่าเมื่อเปลี่ยนท่าได้อย่างรุนแรง
Amiodarone ใช้ในการรักษา Severe refractory supraventricular และ ventricular tachyarrhythmias อาการไม่พึงประสงค์ ได้แก่ Pulmonary fibrosis สั่น เดินเซ มึนงง แพ้แสง กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย และเซลล์ประสาทตายได้
Class IV (Ca channel blocker)
Verapamil และ Diltiazem
มีประสิทธิภาพในการรักษา Ventricular dysrhythmias, Reentrant supraventricular tachycardia และลดอัตราการบีบตัวของหัวใจห้องล่าง ในผู้ป่วย Atrial flutter และ Atrial fibrillation
สามารถให้ยาโดยวิธีรับประทานได้ เมื่อยาเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนสภาพที่ตับ ต้องใช้ยาอย่างระมัดระวังในผู้ป่วยโรคตับ
Other antiarrhythmic drugs
Digitalis ออกฤทธิ์ย่นระยะ refractory period ของกล้ามเนื้อหัวใจ ทั้งห้องล่างและห้องบนลง และลดการนาสัญญาณไฟฟ้าในเซลล์
Adenosine ออกฤทธิ์ลดความเร็วในการนาสัญญาณไฟฟ้า ยืดระยะเวลา Refractory period และลด Automaticity ที่บริเวณ AV node อาการที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ หน้าแดง แวดบริเวณหน้าอก และความดันเลือดต่า
Drug used in congestive heart failure
ยาขับปัสสาวะ
บรรเทาอาการที่เกิดจากการมีปริมาณของเหลวมากเกินไป เช่น มีการคั่งของน้าในปอด และบวมตามปลายมือปลายเท้า
ลดปริมาณเลือดไหลกลับเข้าหัวใจ ทาให้ลดการทางานของกล้ามเนื้อหัวใจ
ทาให้ความดันเลือดลดลง
ยาขยายหลอดเลือด
ลดแรงต้านในหลอดเลือดแดง ทาให้ลด Afterload ซึ่งเลือดจะไหลออกจากหัวใจได้มากและสะดวกขึ้น
ยาที่ใช้ในการขยายหลอดเลือดดาจะใช้กลุ่มไนเตรต ในกรณีรับประทานยา ACEIs ไม่ได้ จะให้ Hydralazine ควบคู่กับ Isosorbide dinitrate
ยา ACEIs
ลด Preload และ Afterload ทาให้ Cardiac output เพิ่มขึ้น
ยาเพิ่มการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ
เพิ่มความแรงในการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ ส่งผลให้เพิ่ม Cardiac output
แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ Beta-adrenoceptor agonists และ Digitalis glycosides
Beta-adrenoceptor agonists
กระตุ้นตัวรับเบตา ทาให้ประสิทธิภาพของการทางานของหัวใจดีขึ้น โดยเพิ่มความแรงในการเต้นของหัวใจและการขยายหลอดเลือด
Dobutamine ให้ยาโดยฉีดเข้าหลอดเลือดดาใช้กับผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เกิดภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน อาการที่ไม่พึงประสงค์คือทาให้หัวใจเต้นเร็ว
Antianginal drugs
Angina หรือภาวะหัวใจขาดออกซิเจนชั่วคราว
เกิดจากความไม่สมดุลของการใช้ออกซิเจนและการได้รับออกซิเจน
จะมีอาการปวดจุกบริเวณยอดอกเหนือลิ้นปี่และลามไปแขนซ้าย
เกิดจากการบีบตัวหรือหดตัวของหลอดเลือดโคโรนารีแบบเฉียบพลัน
ดจากการอุดกั้นการไหลของเลือด
ยาที่ใช้รักษาภาวะหัวใจขาดเลือดชั่วคราว ได้แก่ ยากลุ่มไนเตรต (Nitrates), ยาต้านตัวรับเบตา และยาต้านแคลเซียม
Nitroglycerin
ออกฤทธิ์โดยการขยายหลอดเลือดดาขนาดใหญ่ ทาให้ปริมาณของเลือดคั่งอยู่ในหลอดเลือดดามาก
การให้ยาจะให้โดยการอมใต้ลิ้นหรือให้ภายนอกโดยการใช้แผ่นยาแปะที่ผิวหนัง
อาการที่พึงประสงค์ ได้แก่ ปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่าขณะเปลี่ยนท่า หัวใจเต้นเร็ว ร้อนแดงบริเวณใบหน้า
Isosorbide dinitrate
เป็นยากลุ่มไนเตรตที่ใช้รับประทาน จะไม่ถูกทาลายที่ตับได้มาก และมีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือดน้อยกว่า Nitroglycerin
ยาต้านตัวรับเบตา
มีประโยชน์ในการลดการทางานของกล้ามเนื้อหัวใจ ทั้งความเร็วและความแรง
ยาที่นิยมใช้ คือ Propranolol, Metoprolol, Atenolol
ยากลุ่มนี้ไม่ใช้กับผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดส่วนปลายผิดปกติ และโรคระบบทางเดินหายใจอุดกั้น
ยาต้านแคลเซียม
มีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดและทาให้แรงต้านการไหลของเลือดลดลง
Nifedipine ใช้ขยายหลอดเลือดแดง มีผลต่อความเร็วในการเต้นของหัวใจน้อย
ใช้ในกรณีเกิดการหดเกร็งของหลอดเลือดโคโรนารีอย่างต่อเนื่อง (Spontaneous coronary spasm)
อาการที่ไม่พึงประสงค์ คือ หน้าตาแดง ปวดศีรษะ ความดันโลหิตต่า บวมบริเวณส่วนปลายมือและเท้า
Verapamil จะลดความเร็วในการเต้นของหัวใจ และลดความต้องการการใช้ออกซิเจน ลดความแรงในการเต้นของกล้ามเนื้อหัวใจ
Diltiazem ลดความเร็วในการเต้นของหัวใจ ลดการหดเกร็งของหลอดเลือดโคโรนารี
Antilipidemic agents
การจัดการกับปริมาณไขมันในเลือดสูง
กรณีไตรกลีเซอไรด์สูงเพียงอย่างเดียว ให้เริ่มด้วยการจากัดอาหาร ถ้าไม่ได้ผลให้ยาอนุพันธ์กรดไฟบริกร่วมกับการจากัดอาหาร หากไม่ได้ผลให้เพิ่มยากลุ่มอนุพันธ์กรดนิโคตินิก
กรณีโคเลสเตอรอลสูงเพียงอย่างเดียว ให้เริ่มด้วยการจากัดอาหาร ถ้าไม่ได้ผลให้เริ่มด้วยยา Cholestyramine ร่วมกับการจากัดอาหาร ถ้าไม่ได้ผลให้ยากลุ่มอื่นร่วมด้วย หรือเปลี่ยนยา หรือใช้ยาหลายอย่าง
กรณีไตรกลีเซอไรด์และโคเลสเตอรอลสูง ให้เริ่มด้วยการจากัดอาหาร ถ้าไม่ได้ผลให้เพิ่มยากลุ่มอนุพันธ์ไฟบริก ถ้าได้ผลไม่ดีให้เพิ่มพวกอนุพันธ์กรดนิโคตินิก
Cholestyramine
เป็นยาประเภทเรซินที่มีโครงสร้างเป็นโพลีเมอร์ ไม่ถูกดูดซึมจากทางเดินอาหาร
ออกฤทธิ์จับกับน้าดีในลาไส้เป็นสารประกอบเชิงซ้อนที่ไม่ถูกดูดซึมและขับออกทางอุจจาระ ทาให้เกิดการกระตุ้นการสร้างน้าดี เพื่อช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลชนิด LDL ในเลือด
อาการที่ไม่พึงประสงค์ คือ คลื่นไส้ อาเจียน และอาจสูญเสียวิตามินที่ละลายได้ในไขมัน และดูดซับยาอื่นจึงควรรับประทานยาอื่นก่อนยาชนิดนี้ 1 ชั่วโมง หรือหลังยาชนิดนี้ 4-6 ชั่วโมง
Probucol
เป็นอนุพันธ์ฟีนอล มีฤทธิ์เจาะจงในการลดระดับโคเลสเตอรอลในซีรัม
ออกฤทธิ์ยับยั้งการขนย้ายโคเลสเตอรอลจากลาไส้เล็ก เร่งการขับถ่ายโคเลสเตอรอลและน้าดีออกทางอุจจาระ และรบกวนการสร้างโคเลสเตอรอล
อาการไม่พึงประสงค์ คือ ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน ใจสั่น เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ
อนุพันธ์กรดนิโคตินิก (Nicotinic acid derivatives)
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Nicotinic acid (วิตามินบี 3) และ Acipimox
ออกฤทธิ์ลดไตรกลีเซอไรด์ในเลือดโดยลดการนากรดไขมันอิสระจากเนื้อเยื่อออกสู่กระแสเลือดเพื่อไปยังตับ ตับจึงขาดกรดไขมันอิสระในการสร้าง VLDL
ออกฤทธิ์ลดโคเลสเตอรอล เกิดจากการสร้างโคเลสเตอรอลและเพิ่มการขับถ่าย
ยากลุ่มนี้เพิ่ม HDL
อาการไม่พึงประสงค์ ได้แก่ คลื่นไส้ ปวดท้อง หลอดเลือดขยายทาให้รู้สึกร้อนผ่าว หน้าถึงคอแดง และคัน
อนุพันธ์กรดไฟบริก (Fibric acid derivatives)
ยาในกลุ่มนี้ได้แก่ Clofibrate, Bezafibrate, Fenofibrate และ Gemfibrozil
อาการไม่พึงประสงค์ ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย เกิดพิษต่อตับ
Gemfibrozil ออกฤทธิ์ยับยั้งการสลายไขมันที่เนื้อเยื่อส่วนปลาย และลดการสร้างไตรกลีเซอไรด์จากตับ อาการไม่พึงประสงค์ ได้แก่ ทางเดินอาหารปั่นป่วน อาหารไม่ย่อย ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย ควรรับประทานยาก่อนอาหารครึ่งชั่วโมง
ยายับยั้งเอนไซม์ HMG-CoA reductase
ออกฤทธิ์ลดโคเลสเตอรอล (LDL) ได้ดีกว่าไตรกลีเซอไรด์ (VLDL)
เป็นยากลุ่ม statins ได้แก่ Atorvastatin, Fluvastatin, Pravastatin, Simvastatin
อาการที่ไม่พึงประสงค์ ได้แก่ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก ท้องอืด กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ย
ข้อห้ามใช้ ข้อควรระวัง
ไม่ใช้กับผู้ป่วยโรคถุงน้าดี โรคตับ และโรคไตขั้นรุนแรง และไม่ควรใช้ในสตรีมีครรภ์และสตรีระหว่างให้นมบุตร
ไม่ควรใช้ยาลดไขมันในเลือดในเด็กอายุต่ากว่า 18 ปี หากจาเป็นต้องใช้ยาจะให้พวกเรซิน โดยอายุต้องมากกว่า7-8 ปี
ระวังการแพ้ยา และอาการข้างเคียงจากการใช้ยา
Digitalis
เพิ่มความแรงของการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ โดยออกฤทธิ์ขัดขวางการทางานของ Pump ทาให้ปริมาณประจุโซเดียมภายในเซลล์เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ Ca/Na pump ทางานเพิ่มขึ้น ปริมาณของประจุแคลเซียมเข้าเซลล์มากขึ้น แล้วไปกระตุ้นการหลั่งแคลเซียมที่เก็บไว้ใน ซาร์โคพลาสมิกเรติคูลิมมากขึ้น ทาให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวแรงขึ้น ทาให้ Cardiac output เพิ่มขึ้น
ใช้ในผู้ป่วยที่มีปัญหาหัวใจห้องล่างซ้ายทางานได้ไม่ดี จะให้หลังใช้ยาขยายหลอดเลือดและยาขับปัสสาวะไม่ได้ผล และไม่ใช้ในผู้ที่มีปัญหาหัวใจล้มเหลวจากหัวใจด้านขวา
อาการที่ไม่พึงประสงค์ได้แก่ หัวใจเต้นผิดปกติ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย สับสน ตาพร่ามัว การมองเห็นสีผิดไป
นางสาวภัคนันท์ ภารมาตย์ รหัสนิสิต 6305010136