Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
บทที่ 5 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา ระบบประสาทเเละกล้ามเนื้อ, image, image,…
บทที่ 5 การพยาบาลเด็กที่มีปัญหา
ระบบประสาทเเละกล้ามเนื้อ
โรค/ความผิดปกติของระบบประสาทในเด็ก
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Meningitis)
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ผู้มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ
ผู้ป่วยผ่าตัดม้าม
ผู้ป่วยผ่าตัดทางเดินน้ำไขสันหลัง
ผู้ป่วยโรคหูติดเชื้อหรือไซนัสอักเสบเรื้อรัง
คนที่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
สาเหตุ
เชื้อ bact. Virus รา ปรสิต เจริญและ
แบ่งตัวที่ subarachnoid space
อาการและอาการแสดง
อาการแสดงการระคายเคืองเยื่อหุ้มสมอง
อาการแสดงของภาวะ IICP
Poor feeding
Fever
ในเด็กแรกเกิดอายุไม่เกิน 1 เดือน อาการที่พบบ่อยคือ
มีไข้มักมีไข้สูง แต่อาจมีไข้ต่ำได้
เด็กกระสับกระส่าย ร้องโยเย ร้องไห้เสียงสูง
ไม่ดูดนม อาจมีอาเจียน
อาจชัก
บริเวณกระหม่อมโป่งนูนจากการเพิ่มความดันในสมอง
ในเด็กวัยอื่นและคนทั่วไป อาการที่พบบ่อยคือ
ไข้สูง ปวดศีรษะรุนแรง คอแข็ง
คลื่นไส้ อาเจียน
ตากลัวแสง
อาจชัก
มึนงง สับสน และอาจหมดสติ
ในผู้สูงอายุและคนมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคต่ำ อาการที่พบได้บ่อยคือ
ไม่ค่อยมีไข้ อาจมีเพียงสับสน มึนงง และง่วงซึม
การวินิจฉัยโรค
การซักประวัติ
การตรวจร่างกาย
การท้า CT scan
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การเจาะหลัง
การรักษา
ยาปฏิชีวนะ
ยาลดการหลั่งสารที่ท้าให้อักเสบ : Dexamethasone
ลดไข้
ให้ออกซิเจน
ให้ยาระงับชัก
สารน้้าและเกลือแร่ 75-80%
NPO ถ้าไม่รู้สึกตัว
การป้องกัน : ฉีดวัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
การป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่สำคัญที่สุด
คือ การป้องกันการติดเชื้อซึ่งคือ การรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน
หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย
ล้างมือให้สะอาดบ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนกินอาหารและหลัง
จากเข้าห้องน้ำ
กินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่
ไข้สมองอักเสบ (Encephalitis)
สาเหตุ
การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปรโตซัว เชื้อรา
**เชื้อไวรัสที่ส าคัญคือ เชื้อ Japanese B. Encephalitis viruses
**ไวรัสชนิดนี้ : ยุงรำคาญ หมู
สารเคมี ตะกั่ว
พบเป็นภาวะแทรกซ้อนจากหัด คางทูม อีสุกอีใส
พบมากในเด็กอายุ 5-15 ปี
พยาธิสภาพ
เชื้อโรคเข้าสู่สมอง < การอักเสบ < สมองบวม
เซลล์สมองถูกท้าลาย/สูญเสียหน้าที่ < IICP
อาการ
ปวดศีรษะ
อาเจียน
มีไข้ต่ำๆ
ไม่มีแรง
คอแข็ง
ชัก อาการทางประสาทเฉพาะที่
การวินิจฉัย
1.ประวัติและอาการ
CSF culture ,CBC , H/C ,Stool c/s
,Nasophalyngeal ,secretion c/s
การรักษา
ระยะแรก
ลดภาวะสมองบวม
จำกัดน้ำ ให้ยาขับปัสสาวะ
ให้ steroid, ATB
ให้ยาควบคุมการชัก
ให้ยาลดไข้
ventilator
ระยะหลัง
Rehabilitation
รักษา ควบคุมอาการชัก
แก้ไขความพิการ
ดูแลภาวะปัญญาอ่อน
การป้องกัน
ฉีดวัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบ
Japaness Encephalitis B
ไม่ให้ยุงร าคาญกัด
ไม่เลี้ยงสัตว์พวกหมูไว้ใต้ถุนบ้าน
โรค/ความผิดปกติของระบบประสาทในเด็ก
สมองพิการ (Cerebral palsy : CP)
กลุ่มอาการที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับท่าทาง
การทรงตัวและการเคลื่อนไหว
สาเหตุ
เกิดจากการท้าลายเนื้อสมองในขณะที่เด็กมีการเจริญเติบโต
ระยะตั้งครรภ์ มารดา ทารก เช่น ขาดสารอาหาร ได้รับรังสีช่วไตรมาส
แรกของการตั้งครรภ์ ติดเชื้อ ครรภ์เป็นพิษ
ระยะคลอด เช่น ได้รับอันตรายจากการคลอด คลอดยาก สมองขาด O2
สำลักน้ำคร่ำ
ระยะหลังคลอด เช่น ได้รับการกระทบกระเทือนที่ศีรษะ ชัก น้ำตาล
หรือCa ในเลือดต่ำ
พยาธิสภาพ
ส่วนใหญ่สมองมีขนาดเล็ก สมองฝ่อ โพรงสมองใหญ่ขึ้น
เนื่องจากสมองน้อย
อาการและอาการแสดง
แบบกล้ามเนื้อหดเกร็ง
เคลื่อนไหวผิดปกติตลอดเวลาขณะตื่น ไม่สามารถควบคุมได้
มีอาการผิดปกติของ cerebellum จะเดินเซ ล้มง่าย ควบคุม
การทรงตัวไม่ได้
Mixed type เป็นแบบที่มีอาการร่วมกันระหว่างแบบกล้ามเนื้อ
หดเกร็งและแบบ athetoidsis
การวินิจฉัย
การซักประวัติอาจพบปัจจัยเสี่ยงที่ท าให้เกิดสมองพิการ
การตรวจร่างกายพบความผิดปกติของท่าทางและการ
เคลื่อนไหว
การตรวจพิเศษ เช่น ultrasound, CT scan, MRI
การรักษา
การลดความตึงตัวและการเกร็งของ
กล้ามเนื้อ การให้ยาคลายกล้ามเนื้อ
การออกก้าลังโดยการท้า ROM
การใช้เครื่องมือทางกายภาพ เช่น
การประคบเย็น-น้้าอุ่น
-การฉีดสารเคมีที่เส้นประสาทโดยตรง
-การผ่าตัด
กายภาพบำบัดของกล้ามเนื้อแขน ขา
การแก้ไขภาวะผิดปกติของการรับรู้ที่สำคัญ
การแก้ไขความผิดปกติของระบบประสาท
การพยาบาล
โดยการกระตุ้นให้เด็กนั่งคลาน เดิน ตามวัยของเด็ก
จัดหาของเล่นที่จะกระตุ้นให้เด็กเกิดการเคลื่อนที่หรือการเคลื่อนไหว
ส่งเด็กไปท้ากายภาพบำบัดเพื่อป้องกันความพิการอื่นๆ
ให้ยาคลายกล้ามเนื้อในเด็กที่มีอาการเกร็ง
แนะนำเรื่องการฝึกการขับถ่าย
จัดสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัย พื้นต้องแห้งและไม่มีสิ่งของเกะกะ
ติดตามและประเมินพัฒนาการเป็นระยะๆ
การพยาบาลเมื่อมีภาวะ IICP
ประเมิน V/S and N/S
ให้ออกซิเจนตามแผนการรักษา
ถ้ามีเสมหะอุดตัน ดูดเสมหะด้วยความระมัดระวัง
นอนศีรษะสูง 30-45 องศา ใช้หมอนรองจากหลังคอ
หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำคอพับ งอสะโพก 90 องศา
ระวังการได้รับน้ าเกิน (<0.6-1 มล./กก./วัน); I/O
ดูแลอาการอย่างใกล้ชิด สังเกตทุก 15-30 นาที
การพยาบาลเมื่อผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว
ดูแลเกี่ยวกับกิจวัตรประจ้าวัน
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง
ดูแลผิวหนัง ป้องกันแผลกดทับ
ทำกายภาพบ้าบัด ป้องกันข้อติดแข็ง
พลิกตะแคงตัวตามสภาพการณ์ เพื่อป้องกัน Embolism
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดกับการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
กระตุ้นประสาทสัมผัสโดยใช้ภาษาที่อ่อนโยน การสัมผัสที่นุ่มนวล
กระตุ้นการรับรู้ : โดยบอกวัน เวลา สถานที่ บุคคล
การดูแลเมื่อผู้ป่วยมีความพิการหลงเหลือ
ส่งเสริมการเคลื่อนไหวหรือลดความเสียหายที่
เกิดจากการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ
ส่งเสริมการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางร่างกาย
อารมณ์ จิตใจ
ลดการเกิดอุบัติเหตุ
ส่งเสริมให้มีการสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความกำซาบเลือดของเนื้อเยื่อในสมองลดลง ให้ได้
รับ O2 เพียงพอทั้งปริมาตร, ความเข้มข้น, ความชื้น
สังเกตเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เช่น ชัก pupils
ไม่เท่า หดตัวช้า
ท่านอนหัวสูง 20 – 30 องศา
ประสิทธิภาพในการทำทางเดินหายใจโล่งลดลง
รับประทานยาตามแนวการรักษาอย่างต่อเนื่อง
มีการเตรียมพร้อมรับการชักอย่างเหมาะสม
หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นการชัก