Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลทารกแรกเกิด ที่มีภาวะเสี่ยงสูง, นางสาวศุภิสรา หงษ์ทอง เลขที่ 84…
การพยาบาลทารกแรกเกิด
ที่มีภาวะเสี่ยงสูง
การจำแนกประเภททารกแรกเกิด
ตามน้ำหนักแรกเกิด
Low birth weight infant
ทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่า 2,500 กรัม
แบ่งเป็น
Very low birth weight
น้ำหนักต่ำกว่า 1,500 กรัม
Extremely low birth weight
น้ำหนักต่ำกว่า 1,000 กรัม
Normal birth weight infant
ทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิด 2,500 - 4,000 กรัม
ตามอายุครรภ์
ทารกเกิดก่อนกำหนด
ทารกแรกเกิดที่มีอายุครรภ์น้อยกว่า 37 สัปดาห์
ทารกแรกเกิดครบกำหนด
ทารกแรกเกิดที่มีอายุครรภ์ มากกว่า 37 - 41 สัปดาห์
ทารกแรกเกิดหลังกำหนด
ทารกแรกเกิดที่มีอายุครรภ์มากกว่า 41 สัปดาห์
การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
การสูญเสียความร้อน
การนำ (conduction)
ผิวทารกสัมผัสวัตถุที่เย็น
การพา (convection)
ทารกสู่สิ่งแวดล้อมที่เย็นกว่า
การแผ่รังสี (radiation)
สูญเสียความร้อนโดยไม่สัมผัสวัตถุ
การระเหย (evaporation)
ของเหลวเปลี่ยนเป็นไอน้ำ
ภาวะอุณภูมิกายต่ำ (Hypothermia)
อุณภูมิกายต่ำกว่า 36.5 องศาเซลเซียส
อาการ
มือเท้าเย็น ซีด
ผิวหนังลาย
ซึม ดูดนมช้า
อาเจียน ท้องอืด
ภาวะอุณภูมิกายสูง (Hyperthermia)
อุณภูมิกายสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส
อาการ
หงุดหงิด เคลื่อนไหวลดลง
หายใจเร็วและแรง
ผิวหนังอุ่นกว่าปกติ
การพยาบาล
1.จัดให้อยู่ในที่อุณหภูมิ 32-34 องศาเซลเซียส
2.วัดอุณหภูมิทารก ควรอยู่ระหว่าง 36.8-37.2 องศาเซลเซียส
3.keep warm
4.ป้องกันการสูญเสียความร้อน 4 ทาง
วัดอุณหภูมิทุก 4 ชั่วโมง
การวัดอุณหภูมิทารก
ทางทวารหนัก
ก่อนกำหนด
นาน 3 นาที ลึก 2.5 ซม.
ครบกำหนด
นาน 3 นาที ลึก 3 ซม.
ทางรักแร้
ก่อนกำหนด
นาน 5 นาที
ครบกำหนด
นาน 8 นาที
ระบบการไหลเวียนโลหิต
ภาวะหลอดเลือดหัวใจเกิน
(Patent Ductus Arteriosus)
อาการ
หายใจเร็ว หอบเหนื่อย
ท้องอืด
เลือดเลี้ยงลำไส้น้อยลง
น้ำหนักไม่ขึ้น
การรักษา
ทั่วไป
ให้ยาควบคุมอาการถ้ามีภาวะหัวใจวาย
จำเพาะ
ใช้ยา
Ibuprofen
ข้อห้ามใช้
BUN > 20 mg/dl
Cr > 1.6 mg/dl
Indomethacin
ข้อห้ามใช้
BUN > 30 mg/dl , Cr > 1.8 mg/dl
Plt. < 60,000 /mm3
urine < 0.5 cc/Kg/hr. นานกว่า 8 hr.
มีภาวะลำไส้เน่าตาย
การผ่าตัด PDA ligation
ภาวะตัวเหลืองในทารกแรกเกิด
(Hyperbilirubinemia)
เกิดจาก
บิลลิรูบินในเลือดสูงกว่าปกติ
แบ่งเป็น
ภาวะตัวเหลืองจากสรีรภาวะ
พบในช่วง 2-4 วันหลังคลอด และหายไปเองใน 1 -2 สัปดาห์
จากเม็ดเลือดแดงอายุสั้นและการทำงานของตับไม่สมบูรณ์
ภาวะตัวเหลืองจากพยาธิภาวะ
ภายใน 24 ชั่วโมงแรกหลังคลอด
ผลต่อสมอง
เกิด Kernicterus
อาการ
ระยะแรก
ซึม ตัวอ่อน ดูดนมน้อย
เกร็งหลังแอ่น ชัก ไข้
ระยะยาว
การเคลื่อนไหวผิดปกติ
การได้ยินและการเคลื่อนไหวของลูกตาผิดปกติ
พัฒนาการช้า
การรักษา
การส่องไฟ (phototherapy)
การพยาบาล
ปิดตาทารกป้องกันการระคายเคือง
ควรเปิดตาทุก 4 ชม.และเปลี่ยนผ้าปิดตาทุก 8-12 ชม.
ทำความสะอาดและตรวจตาทุกวัน
ถอดเสื้อผ้าทารกและจัดให้นอนหงายหรือคว่ำและเปลี่ยนท่าทุก 2-4 ชม.ให้ผิวให้สัมผัสแสงทุกส่วน
วัดและบันทึกสัญญาณชีพทุก 1-4 ชม.
ดูแลให้ทารกได้ตรวจเลือดทุก 12 ชม.
สังเกตภาวะแทรกซ้อนจากการส่องไฟ
เช่น
ขาดน้ำ
ถ่ายเหลว
ผื่นที่ผิวหนัง
ภาวะแทรกซ้อนที่ตา
เปลี่ยนถ่ายเลือด
(exchange transfusion)
การพยาบาล
อธิบายให้บิดามารดาทราบ
เตรียมอุปกณ์ฟื้นคืนชีพให้พร้อม
บันทึกสัญญาณชีพขณะเปลี่ยนถ่ายเลือด
สังเกตภาวะแทรกซ้อน
หัวใจวาย
แคลเซียม น้ำตาลในเลือดต่ำ
ตัวเย็น
หลังให้เลือด วัดสัญญาณชีพทุก 15 นาทีและทุก30 นาที จนคงที่
ระบบการหายใจ
Respiratory Distress Syndrome
(RDS)
ภาวะกลุ่มอาการหายใจลำบาก
พบบ่อยในทารกคลอดก่อนกำหนด นน<1500 กรัม
สาเหตุ
เกิดจากการขาดสารลดแรงตึงผิวที่ผิวของถุงลม
อาการ
หายใจเร็ว>60ครั้ง/นาที ซีด BPต่ำ
หน้าอกบุ๋ม(retraction)
มีกลั้นหายใจขณะหายใจออก
อาเจียน ท้องอืด
กระสับกระส่าย สมองโป่งตีง
ผิวหนังเย็น ตัวเหลือง มีจุดเลือดออก
การรักษา
การให้ออกซิเจนตามความต้องการของทารก
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการให้ออกซิเจน
เช่น
ภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรัง
ภาวะจอประสาทตาพิการ
ให้สารลดแรงตึงผิว
ลดความรุนแรงภาวะหายใจลำบาก
Perinatal asphyxia
ภาวะขาดออกซิเจนของทารกแรกเกิด
ประกอบด้วย
เลือดขาดออกซิเจน(hypoxemia)
คาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดสูง (hypercapnia)
เลือดเป็นกรด
การประเมินคะแนนแอพการ์
คะแนนแอพการ์ 8 –10
No asphyxia
คะแนนแอพการ์ 5 – 7
Mild asphyxia
คะแนนแอพการ์ 3 – 4
Moderate asphyxia
คะแนนแอพการ์ 0-2
Severe asphyxia
การรักษา
ควบคุมทารกให้อุณหภูมิปกติ
ให้ออกซิเจนที่เหมาะสม
งดอาหารทางปากชั่วคราว ให้สารน้ำและอาหารทางหลอดเลือด
หลังจาก 12 ชั่วโมง ให้ระวังอาการชัก
Apnea of prematurity
(AOP)
ภาวะหยุดหายใจนานกว่า 20 วินาที ร่วมกับมีอาการตัวเขียว
แบ่งเป็น
central apnea
ศูนย์ควบคุมทำงานไม่ดี
obstruction apnea
เกิดจากการงอหรือเหยียดลำคอมากเกิน
การพยาบาล
จัดท่านอนให้เหมาะสม
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน
ดูดเสมหะ ระวังการสำลัก
ภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับออกซิเจน
เลือดออกในช่องสมอง
(Intraventricular hermorrhage: IVH)
อาการ
รายที่เลือดออกมาก
หมดสติ ชักเกร็ง หยุดหายใจ กระหม่อมหน้าโป่งตึง
รายที่เลือดออกน้อย
ซีดลง ซึม กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ความรุนแรง
grade 1
มีเลือดออกที่ germinal matrix
grade 2
มีเลือดออกในโพรงสมอง และขนาดของโพรงสมองปกติ
grade 3
มีเลือดออกในโพรงสมอง และขนาดของโพรงสมองใหญ่ขึ้น
grade4
มีเลือดออกในโพรง สมองร่วมกับเลือดออกในเนื้อสมอง
ปอดอุดกั้นเรื้อรัง
(Bronchopulmonary Dysplasia: BPD)
อาการ
หายใจเร็วกว่าปกติ
หน้าอกบุ๋ม
ออกซิเจนในเลือดต่ำ
ความดันปอดสูงในรายที่รุนแรง
ระยะ
ระยะที่ 1
ปอดขยายไม่เต็มที่ มีฝ้าขาวเล็กๆ
ระยะที่ 2
มีฝ้าขาวทั่วปอด
ระยะที่ 3
เห็นก้อนในเนื้อปอด
ระยะที่ 4
มีatelectasis และ hyperaeration กระจายในปอด จะมีความดันในเลือดสูง
จอประสาทตาผิดปกติ
(Retinopathy of Prematurity :ROP)
การวินิจฉัย
ตรวจครั้งแรก
เมื่อทารกอายุ 4-6 สัปดาห์ หรือ อายุครรภ์หลังเกิด 32 สัปดาห์
ถ้าไม่พบ ตรวจซ้ำทุก4สัปดาห์
ถ้าพบ ว่ามีการดำเนินของโรคตรวจซ้ำทุกอาทิตย์
ถ้าพบ ROP ตรวจซ้ำทุก1-2 สัปดาห์
การพยาบาล
ดูแลให้ได้รับออกซิเจน
ติดตามค่าO2sat อยู่ระหว่าง 88-92%
ดูแลให้ทารกได้รับการตรวจ screening ROP
ระบบทางเดินอาหาร
Necrotizing Enterocolitis (NEC)
ภาวะลำไส้เน่าอักเสบ
อาการ
ซึม ไม่ดูดนม ร้องกวน
ตัวเหลือง อุณหภูมิกายต่ำ
หยุดหายใจ หัวใจเต้นช้า
มีภาวะกรดเกิน
อาการเฉพาะ
ท้องอืด ถ่ายเหลว
อาเจียนเป็นน้ำดี
เลือดออกทางเดินอาหาร
การรักษาโดยการผ่าตัด
การผ่าตัดแบบเปิดสำรวจช่องท้อง
การใส่ท่อระบายช่องท้อง
Hypoglycemia
ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
40 mg%
term
35 mg%
preterm
อาการ
ซึม ไม่ดูดนม สั่น
ซีด อุณหภูมิต่ำ ตัวอ่อน
หยุดหายใจ ชักกระตุก
การดูแล
ทารกที่มีอาการร่วมกับน้ำตาล<40มก./ดล.
ให้สารละลายกลูโคสทางหลอดเลือด(10% D/W)
ทารกไม่มีอาการ
แรกเกิด-4ชั่วโมง
ให้นมภายใน1ชม. ติดตามระดับน้ำตาล 30นาที หลังให้นม
Meconium aspiration syndrome
(MAS)
ภาวะที่ทารกสำลักขี้เทาเข้าไปในปอด
อาการ
รุนแรงร้อย
หายใจเร็วระยะสั้นๆ เพียง 24-72 ชม.
อาการมักหายไปใน 24-72 ชั่วโมง
รุนแรงปานกลาง
มีการดึงดั้งของช่องซี่โครง
รุนแรงมาก
ระบบหายใจล้มเหลวทันทีหรือ 2-3ชม.หลังคลอด
การพยาบาล
ดูแลให้ได้รับO2 ติดตามอาการขาดO2
เช่น
หายใจเร็ว
อกบุ๋ม
ใช้กล้ามเนื้อในการหายใจมากขึ้น
มีอาการเขียว
วัดความดันโลหิตทุก 2-4 ชั่วโมง
สังเกตอาการติดเชื้อ
การพยาบาล
พัฒนาการพฤติกรรมทางระบบประสาท
การจัดท่า
หลีกเลี่ยงการเหยียดแขนขา
จัดท่าให้อยู่ในท่าแขนขางอเข้าหาลำตัว
ห่อตัวทารกให้แขนงอ มืออยู่ใกล้ปาก
ใช้ผ้าม้วนๆวางรอบๆทารก
จัดสิ่งแวดล้อมให้มีการกระตุ้นแสงและเสียงน้อยที่สุด
ส่งเสริมการดูด โดยใช้หัวนมหลอก
ส่งเสริมพัฒนาการด้านการสัมผัส
พูดคุยเสียงเบา
มองสบตา
จับต้องด้วยความนุ่มนวล
การส่งเสริมสัมพันธภาพ
กระตุ้นให้มารดาเยี่ยมทารกหลังคลอดให้เร็วที่สุด
ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเจ็บป่วย การรักษาที่ทารกได้รับแก่บิดามารดา
กระตุ้นให้บิดามารดาโอบกอดสัมผัสมารก
เปิดโอกาสให้บิดามารดาซักถาม ระบายความรู้สึก
ส่งเสริมการเลี้ยงทารกด้วยนมมารดา
การวางแผนการจำหน่าย
ให้ความรู้แก่มารดา
การให้นมแก่ทารก
การทำความสะอาดร่างกาย
การสังเกตอาการผิดปกติ
สังเกตพฤติกรรมของทารก
สอนมารดาการคิดอายุจริงของทารก
ใช้ประเมินและส่งเสริมพัฒนาการ
ระบบภูมิคุ้มกัน
Sepsis
แบ่งเป็น
Early onset Sepsis
แสดงอาการภายใน 2-3 วัน แรกหลังคลอด
Late onset Sepsis
แสดงอาการ หลังคลอด 72 ชั่วโมงถึง1 เดือน
อาการ
ซึม ร้องนาน ไม่ดูดนม
ซีด ตัวลายจ้ำ ผิวเย็น
หายใจเร็วและลำบาก
ท้องอืด อาเจียน
สั่น ชัก
การพยาบาล
ประเมินภาวะการติดเชื้อในร่างกาย
ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษาและสังเกตอาการ
ควบคุมอุณหภูมิร่างกายให้ปกติ
ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ
นางสาวศุภิสรา หงษ์ทอง เลขที่ 84 (62111301087)