Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลระยะคลอด1-4ระยะ : - Coggle Diagram
การพยาบาลระยะคลอด1-4ระยะ :
การพยาบาลระยะคลอดที่1
การพยาบาลด้านสุขวิทยาส่วนบุคคล
1.2 การขับถ่าย
การขับถ่ายปัสสาวะ
กระตุ้นให้ถ่ายปัสสาวะทุก 2–4ชั่วโมง
ในรายที่ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะได้เองต้องสวนปัสสาวะให้เป็นคร้ังๆ ไป
การขับถ่ายอุจจาระ
หลังจากสวนอุจจาระเมื่อรับใหม่แล้ว 12-24 ชั่วโมง หากยังไม่คลอดควรสวนอุจจาระซ้ำในรายที่ไม่มีข้อห้ามโดยสวนทุก12ชั่วโมง
1.1 การรับประทานอาหาร
latent
ดูแลให้ผู้คลอดรับประทานอาหารอ่อน
active
ดูแลให้ได้รับอาหารเหลวโดยเฉพาะน้ําหวาน
เมื่อปากมดลูกใกล้เปิดหมด
งดอาหารและน้ําทางปาก (NPO)
1.3 การพักผ่อนและการนอนหลับ
ดูแลความสะอาดของร่างกาย
จัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม เช่น ก้ันม่าน ปิดหน้าต่างไม่ให้แสงสว่างมากเกินไป
ดูแลให้ผู้คลอดได้พักผ่อนและนอนหลับในท่าที่จะสามารถทําได้
ค้นหาสาเหตุที่ทําให้ผู้คลอดไม่สามารถพักผ่อนและแก้ไขทันที
ลดกิจกรรมบางอย่างที่รบกวนผู้คลอดเพื่อให้พักผ่อนได้ ไม่อ่อนล้าในระยะเบ่งคลอด
3.การพยาบาลด้านจิตสังคม
3.2 active
ให้การพยาบาลโดยให้กําลังใจและให้ความมั่นใจว่าจะสามารถผ่านการคลอดไปได้อย่างดี
ไม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว หรือดุว่าโต้ตอบผู้คลอด
3.3 transitional
พยาบาลควรยอมรับพฤติกรรม แสดงความเข้าใจ
ให้กําลังใจและชมเชยเป็นระยะ
3.1 latent
รับฟังสิ่งที่ผู้คลอดพูดคุยด้วยท่าทีที่สนใจ
ตอบข้อชักถามที่ผู้คลอดสงสัยด้วยข้อมูลที่ถูกต้อง
2.การพยาบาลเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด
2.1ให้ความรู้เกี่ยวกับการคลอด
2.2 ให้เทคนิคการผ่อนคลายความเจ็บปวด
การลูบท้อง
การเพ่งจุดสนใจ
เทคนิคการหายใจ
การเบี่ยงเบนความสนใจ
การนวดหลัง
2.4 ประคบด้วยความร้อนและความเย็น
2.3 การบรรเทาปวดด้วยน้ํา
ให้ผู้คลอดอาบน้ําหรือนอนแซ่ในอ่างอาบน้ําอุ่น ๆ
4.ส่งเสริมความก้าวหน้าของการคลอด
กระตุ้นให้เปลี่ยนท่านอน นั่ง ยืน หรือเดิน ทุก30นาที
Fetal Distress
5.2 วัดสัญญาณชีพ ฟังเสียงทารกในครรภ์
5.3 ตรวจภายในเพื่อประเมินปากมดลูก
5.1 ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
การพยาบาลระยะคลอดที่2
1.การประเมินสภาพ
1.3 แรงเบ่ง
ประเมินลักษณะการเบ่งของผู้คลอดว่าถูกต้องหรือไม่
เบ่งแล้วการคลอดก้าวหน้าหรือไม่
1.4 กระเพาะปัสสาวะ
ประเมินว่ามีกระเพาะปัสสาวะเต็มหรือไม่
1.2การเคลื่อนต่ำของส่วนนํา
ตรวจภายในเพื่อประเมินระดับส่วนนําของทารก
การสังเกตบริเวณผีเย็บ
การเคลื่อนต่ำลงของตําแหน่งเสียงหัวใจทารกที่ฟังได้ชัดเจนที่สุด
1.5 สภาวะของทารกในครรภ์
ฟังเสียงหัวใจทารกทุก 15 นาที เป็นอย่างน้อย
รายที่มีภาวะผิดปกติ ต้องฟังทุก 5 นาที
1การหดรัดตัวของมดลูก
ประเมินทุก 5 นาที หรือทุกครั้งที่มดลูกมีการหดรัดตัวและคลาย ซึ่งในการดูแลเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายควรอยู่ระหว่าง 45-60 วินาที
1.6 สัญญาณชีพ
โดยการจับชีพจร นับการหายใจ และวัดความดันโลหิตทุก 15 นาที
1.7 สภาวะร่างกายของผู้คลอด
ประเมินว่าผู้คลอดมีภาวะอ่อนเพลีย หมดแรง ขาดน้ํา ขาดอาหารหรือไม่
ประเมินระดับความเจ็บปวดและพฤติรรมการเผชิญความเจ็บปวดของผู้คลอด
1.8 สภาวะจิตใจของผู้คลอด
การประเมินความรู้สึกวิตกกังวล และความหวาดกลัวของผู้คลอดต่อการคลอด
2.บทบาทหน้าที่
ช่วยจัดท่าผู้คลอด
เตรียมและดูแลเครื่องมือเครื่องใช้สําหรับการทําคลอดให้เรียบร้อยเช่น ถังผ้าเปื้อน Crib รับทารก ไฟตั้ง และเทน้ํายาชนิดต่าง ๆ เป็นต้น
ดูแลให้ผู้คลอดเบ่งอย่างถูกวิธีและให้กําลังใจผู้คลอดในการเบ่งคลอด
วัดสัญญาณชีพผู้คลอดทุก 15 นาที (ยกเว้นอุณหภูมิ)
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกทุก 5 นาที
ฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ทุก 15 นาที ในรายปกติและทุก 5 นาที ในรายที่ทารกเสี่ยงต่อภาวะขาดออกซิเจน
ดูแลความสุขสบายทั่วไปของผู้คลอด เช่น ใช้ผ้าชุบน้ําเย็นเช็ดหน้า หรือช่วยนวดบริเวณต้นขาให้ผู้คลอด
สังเกตอาการของผู้คลอดและบันทึกรายงานให้เรียบร้อย
รายงานหัวหน้าเวรกรณีที่มีภาวะผิดปกติเกิดขึ้น เช่น ผู้คลอดเจ็บปวดมาก ทุรนทุราย มดลูกหดรัดตัวไม่ดี การคลอดไม่ก้าวหน้า ทารกในครรภ์มีภาวะขาดออกซิเจนเป็นต้น
บันทึกเวลาการคลอด
เขียนและผูกป้ายข้อมือทารก
วัดความดันโลหิตภายหลังรกคลอดทันที และฉีดยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก ได้แก่ methergin หรือ syntocinon
นําทารกไปดูดนมมารดาบนเตียงคลอดเพื่อส่งเสริมสัมพันธภาพระหว่างมารดาและทารก
ชั่งน้ําหนักทารก
การพยาบาลระยะคลอดที่3
การประเมินสภาพ
1.1 วัดสัญญาณชีพ
1.2 มดลูก
ยอดมดลูก (fundus)
ขนาดและความแข็งตัวของมดลูก
การพยาบาล
2.1 การรักษาความสะอาด (aseptic and antiseptic)
2.2 ท่าของผู้คลอด (position)
จัดให้นอนหงาย
2.3การป้องกันการตกเลือด
ก่อนรกลอกตัว ห้ามคลึงมดลูกหรือกระตุ้นมดลูกโดยวิธีต่าง ๆ
การฉีดยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก (Oxytocin agent)
ตรวจสอบลักษณะของแผลผีเย็บ และทําการซ่อมแซม แผลฝีเย็บให้เรียบร้อยโดยรวดเร็ว และนุ่มนวล
2.4 ช่วยเหลือการคลอดรกที่ถูกวิธี
การทําคลอดรก
3.1 การเตรียมผู้คลอด
การเตรียมด้านจิตใจของผู้คลอด ควรแจ้งให้ผู้คลอดทราบว่าจะทําคลอดรกให้เพื่อผู้คลอดให้ความร่วมมือขณะทําคลอดรก
การเตรียมร่างกายผู้คลอด
กระเพาะปัสสาวะของผู้คลอดจะต้องว่าง
จัดให้อยู่ในท่านอน หงายชันเข่า แยกขาออกจากกัน
แนะนําให้ผู้คลอดสูดหายใจเข้าทางจมูกและอ้าปากหายใจออกยาว เพื่อให้ผนังหน้าท้องหย่อนขณะที่ทําคลอดรก
ตรวจดูอาการแสดงของรกลอกตัว
เตรียมภาชนะที่จะรองรับรก
3.2 การตรวจรก และเยื่อหุ้มทารก
เพื่อตรวจว่ารกและเยื่อหุ้มทารกคลอดครบหรือไม่
ตรวจเพื่อศึกษาลักษณะทั่วไป
ขนาดของแผลในโพรงมดลูก
ลักษณะสัมพันธ์กับทารกที่คลอดออกมา
ลักษณะของรกที่ผิดปกติ
การพยาบาลระยะคลอดที่4
การพยาบาล
2.2 การพยาบาลที่หน่วย 2 ชั่วโมงหลังคลอด
จัดให้ผู้คลอดนอนศีรษะสูงเล็กน้อย (semi Fowler's position) เพื่อความสุขสบาย การหายใจ สะดวกได้รับออกซิเจนเต็มที่
ดูแลลสภาพร่างกายผู้คลอดให้สะอาด โดยเปลี่ยนผ้าที่เปียกและเปื้อนออก เช็ดตัวให้แห้งสะอาด จัดเสื้อผ้าใหม่ให้สวมใส่เพื่อความสุขสบายของร่างกาย
ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายผู้คลอด โดยการห่มผ้าเพื่อป้องกันอาการหนาวสั่น
ดูแลให้ผู้คลอดได้ดื่มน้ํา โดยอาจจะเป็นน้ําเปล่าหรือน้ําผลไม้
ส่งเสริมสัมพันธภาพของครอบครัว
ควรให้ผู้คลอดได้พักผ่อน ดูแลสิ่งแวดล้อมให้เงียบ ไม่มีแสงและเสียงรบกวน
การบันทึกรายงานการคลอดและอาการต่าง ๆ ของผู้คลอดในระยะ 2 ชั่วโมง หลังคลอดที่ตรวจพบโดยละเอียดในใบรายงานอาการ เพื่อเตรียมหลักฐานทางการพยาบาลในการส่งต่อ การดูแลในระยะหลังคลอดอย่างเหมาะสม
การย้ายผู้คลอดออกจากห้องคลอด ภายหลังดูแลครบ 2 ชั่วโมง โดยก่อนย้ายพยาบาลจะต้อง ประเมินสภาพที่สําคัญดังต่อไปนี้
ตรวจสอบการหดรัดตัวของมดลูก
ตรวจดูกระเพาะปัสสาวะ
ตรวจสอบสัญญาณชีพ
ทําความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์อีกครั้งด้วยน้ํายาฆ่าเชื้อ แล้ว เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้
2.1 การซ่อมแซมฝีเย็บผู้คลอดที่ได้รับการตัดฝีเย็บ (Episiotomy)
การเตรียมผู้คลอดเพื่อเย็บแผลฝีเย็บ
อธิบายให้ผู้คลอดทราบวัตถุประสงค์ และขั้นตอนของการซ่อมแซมแผลฝีเย็บเพื่อลดความวิตกกังวลและให้ความร่วมมือขณะเย็บ
จัดท่าสําหรับเตรียมเย็บแผล ให้ผู้คลอดวางขาทั้ง 2 ข้างบนขาหยั่ง
เมื่อเย็บแผลเรียบร้อยแล้ว
ตรวจดูแผลที่เย็บไว้ว่ามีปัญหาหรือไม่ ถ้าไม่มีปัญหาให้เอา tampon ออก
คลึงมดลูกไล่ก้อนเลือดอีกครั้งเพื่อเอาเลือดที่ค้างอยู่ในโพรงมดลูกออก
ตรวจสอบแผลอีกครั้งว่ามีเลือดออกหรือไม่
ทําความสะอาดบริเวณแผลด้วยน้ํายาฆ่าเชื้อ
สอดนิ้วตรวจทางทวาร คลําหาเส้นด้ายที่ผนังกั้นระหว่างช่องคลอดและทวารหนักเพื่อตรวจสอบว่า มีเส้นไหมผ่านเข้าไปในทวารหนักหรือไม่
การประเมินสภาพ
1.1 การตรวจร่างกายทั่วไป
สภาพทั่วไป อาการหนื่อย อ่อนเพลีย
สัญญาณชีพและอุณหภูมิร่างกาย
ผิวหนัง
ความเจ็บปวด (pain)
1.2 การตรวจร่างกายเฉพาะที่
มดลูก (uterus) โดยการตรวจดูการหดรัดตัวของมดลูกและระดับของมดลูก
จํานวนเลือดที่ออกทางช่องคลอด (bleeding per vagina)
ฝีเย็บ
กระเพาะปัสสาวะ ในระยะ 1-2 ชั่วโมงแรกหลังคลอดนี้กระเพาะปัสสาวะควรจะว่าง