Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

เครื่องเสียง - Coggle Diagram

- - - - ภาคขยายกำลัง (power-amplifier or main-amplifier)
      - ภาคก่อนขยาย (pre-amplifier or control amplifier)
    - - Intregrated Ampเป็น AMP ที่ใช้ปรับแต่งเสียงได้ และขยายเสียงได้ในตัว เหมือนรวมเอา PRE
        AMP กับ POWER AMP ไว้ในตัวเดียวกัน
      - แบ่งตามคุณภาพของเสียง
      - เครื่องขยายเสียงชนิดใช้ในบ้าน
        (Home Use Amplifier)
        
        เครื่องขยายชนิดนี้จะเน้นคุณภาพมากกว่าประสิทธิภาพ ปัจจุบันเครื่องขยายที่ใช้
        ในบ้านนิยมทั้งชนิดประสิทธิภาพต่ำและสูง
      - เครื่องขยายเสียงชนิดสะพายไหล่/มือถือ (Megaphone) หรือที่เรียกกันว่า “โทรโข่ง”
      - เครื่องขยายเสียงชนิดติดรถยนต์ (Mobil Amplifier)
        
        เครื่องขยายเสียงแบบนี้จะมีขนาดเล็กจนถึงขนาดปานกลาง มีกำลังขยายไม่สูง
        สำหรับขยายสัญญาณต่อจากเครื่องขยายกำลังต่ำที่มีอยู่ในวิทยุ
      - เครื่องขยายเสียงแบ่งตามระบบการจัดวงจรขยายหรือคลาส
        
        Class A
        
        ถ้าเป็นเครื่องขยายเสียงระบบแบบหลอดอาจเรียกกว่าเครื่องขยายเสียงระบบไดรโอด ใช้เอ้าท์พุททรานซิสเตอร์เดี่ยวเป็นตัวทำให้กระแสไฟฟ้าไหลติดต่อกันตลอดเวลา
        
        Class B
        
        ใช้ทรานซิสเตอร์หรือหลอดสองตัวขยายสัญญาณที่ป้อนเข้าไปตัวละครั้งหนึ่งสัญญาณตัวหนึ่งขยายคลื่นบวกและอีกตัวขยายคลื่นลบ ต่อจากคลื่นบวกสลับกันไป
        
        Class AB
        
        ใช้วงจรขยายระหว่างกลางของคลาสเอกับคลาสบี โดยใช้เอ้าท์พุททรานซิลเตอร์สอง
        ตัว เช่นเดียวกับคลาสบีประสิทธิภาพของกำลังขยายจึงดีกว่าคลาสเอแต่
        ต่ำกว่าคลาสบี แต่สัญญาณที่
        ออกมายังคงมีความผิดเพี้ยนสูงจึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วๆไป
        
        Class C
        
        เครื่องขยายเสียงที่ใช้วงจรขยายระบบคลาสซีไม่ได้ทำเพื่อใช้ในการขยายเสียง (เพราะขยายรูปคลื่นเสียงที่สลับซับซ้อนไม่ได้) แต่ใช้สำหรับขยายคลื่นวิทยุเท่านั้น
        
        Class D
        
        หรือสวิตชิ่งแอมป์ (Switching Amplifier)
        
        Class G
        
        ใช้ทรานซิสเตอร์ทำงานแบบพุชพูล (Push Pull) แบบระบบคลาสบี แต่จะใช้สองคู่ ทำให้ทรานซิสเตอร์ทำงานได้ประสิทธิภาพสูงสุด
        
        Class H
        
        ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาของเครื่องขยายเสียทั่วๆไป เนื่องจากยิ่งเร่งสัญญาณแรงเท่าไร วงจรขยายก็จะดึงกระแสมากขึ้นๆซึ่งในเครื่องขยายเสียงทั่วไปจะเป็นภาคจ่ายไฟแบบแรงดันและกระแสคงที่ช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นกับเอ้าท์พุททรานซิสเตอร์ และช่วยประหยัดไฟฟ้า
  - - - แบ่งตามลักษณะของการทำงานหรือ
        การสั่นสะเทือนของไดอะแฟรม
        
        ลำโพงชนิดไดนามิก (Dynamic Loudspeaker) หรือ Moving Coil
        Loudspeaker จะประกอบด้วยขดลวดที่พันกันอยู่ อยู่บนทรงกระบอกที่เรียกว่า “วอยซ์คอยล์” (Vioce Ciol)วอยซ์คอยล์ อยู่ในช่อง
        แคบๆ ที่ประกอบด้วยเหล็กถาวร (Mangnet)
        
        ลำโพงอิเล็กโตรสติค (Eletrostatic Loudspeaker)
        ลำโพงชนิดนี้ต้องใช้ไฟในการตรึงขั้วในการใช้งานจะใช้ไฟฟ้าผ่านหม้อแปลงเพื่อลด
        แรงดันให้ต่ำลง แล้วแปลงไฟตรง(D.C.)กระแสสลับหรือที่เรียกว่าไฟเอซี (A.C.)มาตรึ่งขั่วเพลตซึ่งเป็นลักษณะเหมือนคอนเดนเซอร์(คาพาซิเตอร์)
        
        ลำโพงริบบอน (Ribbon loudspeaker)
        มีขนาดเล็กจึงให้ก าลังออกน้อย เหมาะสำหรับความถี่เสียงระดับสูงๆเท่านั้น คือประมาณตั้งแต่3,000 – 20,000 Hzดังนั้นจึงเหมาะสมที่จะใช้เป็นลำโพงเสียจงแหลมหรือทวีเตอร
        
        ลำโพงไฮไฟ (Hi-Fi Loudspeaker)
        เป็นลำโพงที่ให้ความถี่เที่ยงตรงสูง มีเสียงผิดเพี้ยนน้อยที่สุดมี
        คุณภาพสูง สามารถกระจายเสียงได้ตลอดย่านความถี่เสียง
        
        ลำโพงตู้เป็นลำโพงที่บรรจุอยู่ในตู้ลำโพง ซึ่งอาจจะเป็นลำโพงไฮไฟ ลำโพงเสียงทุ้ม ลำโพงเสียงกลาง หรือลำโพงเสียงแหลมก็ได้
      - แบ่งตามลักษณะการใช้งาน
        
        ลำโพงตู้ทรงสูง หรือซาวด์คอลัมน์
        (Sound Column Loudspeaker)
        ภายในตู้ทรงสูงนี้จะมีล าโพงประเภทเดียงกันอยู่หลายตัว
        
        ลำโพงมอนิเตอร์ (Monitor Address Loudspeaker)นี้ไม่ได้มีไว้สำหรับให้ผู้ชมได้ยินเสียงแต่มีไว้สำหรับนักร้อง ผู้แสดงหรือผู้ควบคุมเสียงให้ได้ยินเพื่อการตรวจสอบคุณภาพของเสียงในระบบเสียงที่กำลังใช้งาน
        
        ลำโพงพี.เอ (Public Address Loudspeaker)เป็นลำโพงที่ให้ความเข้ม(ความดัง)ของเสียงได้มาก เหมาะส าหรับบริเวณที่มีผู้ชมจำนวนมาก
        งานกลางแจ้ง หรือสนามเป็นต้นลำโพงพี.เอ อาจเป็นลำโพงกรวยกระดาษ
        ลำโพงปากแตร หรือลำโพงฮอร์น (Horn)
        
        ลำโพงปากแตร (horn)
        
        เป็นลำโพงที่ใช้งานกลางแจ้ง
        
        โครงสร้างเป็นโลหะ
        
        มีความแข็งแรง ทนทาน ทนแดดทนฝน
        
        มีกำลังเสียงมาก สามารถส่งเสียงไปได้ไกล
        
        ลำโพงเครื่องดนตรี (Musical Instruments Loudspeaker)
        เป็นลำโพงสำหรับขยายเสียงเครื่องดนตรีซึ่งจะใช้เฉพาะประเภท
        ของเครื่องดนตรีเช่นกีตาร์ไฟฟ้า กีตาร์เบส เป็นต้น
        
        ลำโพงใช้งานทั่วๆไป เป็นลำโพงที่ใช้งานประเภททั่วๆไป เช่นในวิทยุ ในโทรทัศน์ และในวิทยุเทปเป็นต้น เป็นลำโพงที่
        มีขนาดประมาณ 3-5 นิ้ว รับกำลังขับไม่ได้สูงนัก และมีราคาถูก
        
        Bluetooth Speaker, Bluetooth wireless speaker
      - แบ่งตามความสามารถในการเปล่งความถี่เสียง
        
        ลำโพงเสียงกลาง (midrange)
        
        ตอบสนองความถี่เสียงในช่วง 500-5,000 Hz
        
        ให้เสียงระดับกลางทั่วไป เช่น เสียงคนพูด
        
        มีเส้นผ่านกลางประมาณ 4-6 นิ้ว
        
        ลำโพงเสียงแหลม (tweeter)
        
        ตอบสนองความถี่เสียงสูงในช่วงประมาณ
        
        5,000 Hz ขึ้นไป
        
        ให้เสียงระดับเล็กแหลม
        
        ลำโพงเสียงทุ้ม (woofer)
        
        ตอบสนองความถี่เสียงในช่วง 25-250 Hz
        
        ให้เสียงทุ้มแบบนุ่มนวล ลุ่มลึก
        
        มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้วขึ้นไป
        
        ลำโพงฟูลเรนจ์(Full Range)
        
        เป็นลำโพงที่สามารถกระจายเสียงได้ดีตลอดย่าน
        ความถี่เสียงซึ่งจะอยู่ในย่านความถี่เสียงประมาณ
        50-17,000 Hz มีขนาดใหญ่พอๆกับลำโพงเสียงทุ้ม
        
        ลำโพงเสียงทุ้มต่ำsub-woofer
        
        ตอบสนองความถี่เสียงในช่วงต่ำมาก ประมาณ 50 Hz ลงมา ให้เสียงทุ้มมากและลึกหนักแน่นเป็นพิเศษ
        
        ลำโพงกรวยผสม (Multiway Loudspeaker)
        
        เป็นลำโพงที่มีกรวยหรือไดอะแฟรม 2-3 อันใน
        โครงตัวเดียวกัน
  - - - ไมโครโฟน ทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียง
        
        ประเภทของไมโครโฟน
        
        ไมโครโฟนปืน (Shotgun Microphone or
        Rifle Microphone)
        
        ไมโครโฟนจาน (Parabolic Microphone)
        
        ไมโครโฟนไม่มีสาย (Wireless Microphone,
        FM Microphone or Radio Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบบูม (Boom Microphone)
        
        ไมโครโฟนห้อยคอ (Neck Microphone or
        Lavalier Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบมือถือ (Hand Microphone)
        
        ไมโครโฟนริมปาก (Lip Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบตั้งโต๊ะ (Desk Microphone)
        
        ไมโครโฟนแบบสเตอริโอ (Stereo Microphone)
        
        USB Microphone
        
        Condenser Microphones
        
        Dynamic microphone
        
        Lavalier Microphone
        
        ไมโครโฟนแบบครอบศีรษะ
        (Headset Microphone)
        
        Microphones over-the-ear, earset
        
        True Wireless In-Ear
        
        ไมโครโฟนที่ใช้รวมกับเครื่องขยายเสียงภายในตัว เครื่องขยายเสียงชนิดพายไหล่ / มือถือ (Megaphone) หรือที่เรียกว่า “โทรโข่ง”
        
        ไมโครโฟนแบบซูม (Zoom Microphone)