Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
๖.๒ การสนทนาที่เสริมสร้างบุคลิกภาพ - Coggle Diagram
๖.๒ การสนทนาที่เสริมสร้างบุคลิกภาพ
คำนึงถึง
รู้จักเรียนรู้สังเกตคู่สนทนา
วางตัวด้วยท่าทีที่เหมาะสม
น้ำเสียงการพูดจา
เลือกแต่งกายให้เหมาะสมกับกาละเทศะ
บุคลิกภาพขั้นพื้นฐาน ต้องดูดีสง่างามทั้งการยืน เดิน และนั่ง
การสนทนาเพื่อสร้างสัมพันธภาพทางการพยาบาล
ทักษ 8 ประการ
๓. ความเอาใจใส่ (concern)
๔. การเคารพในความเป็นบุคคล (Respect) ของผู้อื่น
๒. ความห่วงใย (care)
๕.การเห็นใจเข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่น (Empathy)
๑. ความรักในเพื่อนมนุษย์ (Love)
๖. ความเชื่อถือ ไว้วางใจ (Trust)
๗. ความจริงใจ (Genuineness)
๘. ความเข้าใจ (Understanding)
อุปสรรคของการสนทนาที่พบบ่อย
๒. ผู้ฟัง
รับฟังเฉพาะในส่วนที่ตัวเองต้องการอยากจะฟังเท่านั้น
ไม่สามารถรับฟังข้อมูลที่แตกต่างจากตัวเองได้
ได้ตัดสินหรือเข้าใจว่าผู้พูดได้ยึดความคิดเห็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว
ผู้ฟังไม่มีสมาธิมากพอในการรับฟัง
๓. สภาพแวดล้อม ไม่เหมาะสม หรือให้เวลาไม่มากพอ
๑. ผู้พูด
ไม่มีความตั้งใจอย่างแท้จริงที่จะทำให้ผู้ฟังเข้าใจข้อมูล
ขาดทักษะและประสบการณ์
การสนทนาเพื่อสัมพันธภาพระหว่างบุคคล nterpersonal Relationships
Big talk การสนทนาสาระหนักๆ ที่สร้างสัมพันธภาพ
Small talk การพูดคุยเล็กๆ น้อยที่สร้างสัมพันธภาพ
ARE (Anchor, Reveal และ Encourage)
FORD ก็เป็นการเลือกประเด็นพื้นฐานเมื่อยามตัน เป็นประเด็นปลอดภัยที่ตกลงใครๆ ก็ต้องตอบได้และมีฐานบางอย่างร่วมกัน คือ ครอบครัว (Family) อาชีพ (Occupation) งานอดิเรก (Recreation) และความฝัน (Dream)
ARE เป็นเคล็ดวิชาที่ให้ฉวยใช้บรรยากาศและสิ่งรอบตัวมาสร้างบทสนทนา คิดขึ้นโดย Dr. Carol Fleming
Small talk การพูดคุยเล็กๆ น้อย ที่หลายคนอาจจะมองว่ามันเป็นเรื่องหยุมหยิมที่ต้องมา Chit Chat
(พูดคุยเล่นๆ พุดคุยไร้สาระ) แต่สิ่งนี้ก็อาจถือได้ว่าเป็นทักษะหนึ่งในการเข้าสังคม
การสนทนาที่สร้างเสริมสัมพันธภาพเพื่อการบริการสุขภาพ
การสนทนากับผู้ป่วยเด็ก
ช่วยให้เด็กเข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง
สะท้อนพฤติกรรมเท่าที่เห็น
ฟังอย่างตั้งใจ อย่าด่วนตัดสิน
บอกความรู้สึกให้เด็กรู้
บอกพฤติกรรมที่ต้องการและไม่ต้องการให้ชัดเจน
ให้ทางเลือกกับเด็ก
ชื่นชมความพยายามของเด็ก
ให้เด็กมีส่วนร่วมกับการวางแผน
พูดสร้างกำลังใจ
การสนทนากับผู้สูงอายุ
๔. พูดช้าลง ใช้คำพูดที่ชัดเจนไม่วกวน
๕. พูดเสียงดัง ฟังชัดและเหมาะสม
๓. ให้เวลาในการสนทนามากกว่าปกติทั่วไป
๖. พูดทีละประเด็น
๗. เว้นระยะและเปิดโอกาสให้ได้ซักถามหรือแสดงความคิดเห็น
๒. การทักทาย
๘. รับฟังให้มาก
๙. การสรุปและจดบันทึกความจำสั้นๆ
๑. การจัดสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสม
การสนทนากับวัยรุ่น
แยกสนทนากับวัยรุ่นเป็นการส่วนตัว การบอกเรื่องการรักษาข้อมูลส่วนตัว การซักประวัติทางจิตสังคม และการให้คำปรึกษาโดยการสร้างแรงจูงใจกับวัยรุ่น
เทคนิคการสนทนาและพูดคุยกับวัยรุ่น
๕. เป็นผู้ฟังที่ดี
๖. ใช้คำถามปลายเปิด
๔. แสดงบทบาทเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ
๗. สร้างความรับผิดชอบ
๓. หลีกเลี่ยงการตัดสินถูกผิด
๘. พยายามจดบันทึกเฉพาะที่จำเป็น
๒. บอกเรื่องการรักษาข้อมูลส่วนตัว
๙. มีบทสรุป
๑. สร้างความคุ้นเคย
๑๐. ให้ความสำคัญและหาข้อมูลเพิ่มเติมจากครอบครัว
การสนทนาที่สร้างเสริมสัมพันธภาพเพื่อการบริการสุขภาพ
การสนทนากับผู้ป่วยวิกฤติและญาติ
๑. เมื่อผู้ป่วยย้ายเข้าหอผู้ป่วยวิกฤต
การเปิดโอกาสให้ครอบครัวได้ระบายความรู้สึกและซักถามเกี่ยวกับการเจ็บป่วยและการรักษาผู้ป่วย
การให้ข้อมูลแก่ครอบครัว
-เทคนิคการฟัง (Listening):
รับฟังครอบครัวอย่างตั้งใจ ใส่ใจทั้งคำพูด สีหน้า ท่าทางการแสดงออก ใช้เพื่อเปิดโอกาสให้ครอบครัวได้เล่าความคิด ความรู้สึกของตนเอง
-เทคนิคการสะท้อนความรู้สึก (Reflection)
เทคนิคการให้ข้อมูล (Giving Information)
การให้ข้อมูลที่ถูกต้องและตรงกับความต้องการ
2.การสนทนากับญาติเรื่องไม่พึงประสงค์หรือแจ้งข่าวร้ายในผู้ป่วยมะเร็ง
๒. ประเมินการรับรู้ของผู้ป่วย (P-Perception)
๓. ประเมินว่าผู้ป่วยต้องการทราบข้อมูลอะไร (I-Invitation)
๑. เตรียมความพร้อมก่อนการสนทนา (S-Setting up)
4.ให้ความรู้ (K-Knowledge) ควรให้ข้อมูลที่เป็นความรู้ในสิ่งที่ผู้ป่วยต้องการ ทราบ หรือกังวลใจก่อนเป็นอันดับแรก
การสนทนาในห้องอุบัติเหตุและฉุกเฉิน
๓. Empathize รับฟังผู้ป่วยด้วยความเห็นอกเห็นใจ
๔. Educate ประเมินความรู้ความเข้าใจของผู้ป่วย
๒. Engage การสนทนาไม่ควรมีบรรยากาศที่เคร่งเครียดจนเกินไป
๕. Enlist พยายามชักจูงให้ผู้ป่วยเข้ามามีส่วนร่วมในการวางแผนการรักษากับทีมสุขภาพ
๑. Open แนะนำตัวเองแจ้งผูป่วยว่าจนเองมีบทบาทหน้าที่อะไร
๖. Close สรุป การวินิจฉัย ขั้นตอนการรักษา การพยาการณ์โรคอย่างสั้นๆ อีกครั้ง แนะนา การติดตามรักษา กับแพทย์ท่านอื่นในระบบผู้ป่วยนอกต่อไป