การคลอด

click to edit

    1.  แรงผลักดัน (power)
      
  • -Uterine contraction
  1. 15 น. I=4’ D=35”s=+

10.00 น. I=3’ 45” D=40” S= +++

  1. 30 น. I=3’30” D=50” S = +++

10.50 น. I=2’ 15" D=55” S= ++++

    1.  ช่องทางคลอด (passage)
      
  • ช่องเชิงกราน (bony passage)
  • O : ผู้คลอดรายนี้มีส่วนสูง 157 cm

O : จากการสังเกตผู้คลอดรายนี้มีท่าเดินปกติ

S :
ผู้คลอดรายนี้ปฏิเสธการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บของช่องเชิงกราน

  • ช่องทางคลอดที่ยืดขยายได้ (Soft passage)
  • O : ตรวจภายในแรกรับ พบว่า ปากมดลูกนุ่มบาง
    80% ช่องทางคลอดปกติ
    1.  สภาวะร่างกายของผู้คลอด (physical
      
      condition)
  • S :
    จากการซักประวัติมารดารายนี้ปฏิเสธโรคประจำตัว
    มีอายุ 29 ปี

O : จากการสังเกตมารดามีสีหน้าไม่ค่อยสดชื่น

มีอาการอ่อนเพลีย หน้านิ่วคิ้วขมวด

    1.  สภาพจิตใจของผู้คลอด (psycholgocal
      
      condition)
  • S : มารดาให้ข้อมูลว่า ปวดมาก
    มดลูกหดรัดตัวแรงขึ้น เรื่อยๆ

O :
มารดามีการลูบหน้าท้องและฝึกบริหารการผ่อนลมหายใจเพื่อบรรเทาปวด

S :
มารดาบอกว่าตนเข้าใจว่าอาการปวดเป็นธรรมชาติของการคลอด
จึงส่งเสริมการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบรรเทาความเจ็บปวดและการเบ่งที่ถูกวิธี

    1.  สิ่งที่คลอดออกมา (Passangers)
      
    1.  Position ท่าของมารดา
      

การประเมินภาวะสุขภาพในระยะที่ 2

click to edit

  • 2.1 สังเกตอาการแสดงของมารดา
  • เหงื่อออกมากบริเวณเหนือริมฝีปาก
  • O: จากการสังเกตผู้คลอดมีอาการเจ็บครรภ์มากกระสับกระส่าย อยากเบ่งอุจจาระ
    มีเหงื่อออกบริเวณใบหน้า
  • เจ็บครรภ์มาก กระสับกระส่าย
  • รู้สึกอยากเบ่ง
  • ถุงน้ำคร่ำแตก
  • มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด
  • มีมูกเลือดออกทางช่องคลอด บริเวณฝีเย็บตุง
    ช่องคลอดและทวารหนักเริ่มเปิด
  • 2.2 ประเมินการหดรัดตัวของมดลูก
  • Duration 60-90 วินาที
  • Interval 2-3 นาที
  • Intensity Strong
  • แรงดันภายในโพรงมดลูก 80-100 mmHg
  • 2.3
    ประเมินความก้าวหน้าของการคลอดจากการตรวจภายใน
  • ปากมดลูกบาง 100%และเปิดหมด 10 cm.
  • O: ปากมดลูกบาง 100% เปิดหมด 10 cm.
    ส่วนนำทารกอยู่

ระดับ +1

  • ส่วนนำทารกอยู่ระดับ 0 ถึง +2
  • 2.4 ประเมินสภาพมารดาและทารก
  • ความดันโลหิตอาจพบความผิดปกติ
  • ความดันโลหิตสูงขณะเบ่ง
  • ชีพจรเร็ว
  • อัตราการเต้นของหัวใจทารกอาจเต้นช้า พบได้
    90% ของการคลอด
  • สังเกต Meconeum stained ในน้ำคร่ำ

click to edit

click to edit

    1.  เจ็บครรภ์เตือน (false labor pain)
      
  • มีอาการเจ็บครรภ์ 5
    ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาลและจากการสังเกตผู้คลอดรายนี้กุมมือบริเวณท้องน้อยเมื่อเจ็บครรภ์
    1.  ท้องลด (lightening)
      
  • มีอาการปวดถ่วงที่อุ้งเชิงกราน
    ปวดหลังไม่มีอาการ บวม
    1.  การเพิ่มของสารคัดหลั่งจากช่องคลอด
      
      (Vaginal mucous secretion)
  • เมื่อใกล้คลอดมีมูกปนเลือด
    1.  ปากมดลูกบางและสั้น (cervical dilatation
      
      and cervical affacement )
  • แรกรับมีการเปิดขยายของปากมดลูก 3 cm
    ความบาง 80%
    1.  ถุงน้ำคร่ำแตก (Rupture of membranes)
      
  • ผู้คลอดรายนี้มีถุงน้ำคร่ำแตกเวลา 10.50 น. วันที่
    17 มิถุนายน 2561

click to edit

click to edit

  • อาการแสดงเมื่อใกล้คลอด Premonitory signs
    1.  เจ็บครรภ์เตือน (false labor pain)
      
  • มีอาการเจ็บครรภ์ 5
    ชั่วโมงก่อนมาโรงพยาบาลและจากการสังเกตผู้คลอดรายนี้กุมมือบริเวณท้องน้อยเมื่อเจ็บครรภ์
    1.  ท้องลด (lightening)
      
  • มีอาการปวดถ่วงที่อุ้งเชิงกราน
    ปวดหลังไม่มีอาการ บวม
    1.  การเพิ่มของสารคัดหลั่งจากช่องคลอด
      
      (Vaginal mucous secretion)
  • เมื่อใกล้คลอดมีมูกปนเลือด
    1.  ปากมดลูกบางและสั้น (cervical dilatation
      
      and cervical affacement )
  • แรกรับมีการเปิดขยายของปากมดลูก 3 cm
    ความบาง 80%
    1.  ถุงน้ำคร่ำแตก (Rupture of membranes)
      
  • ผู้คลอดรายนี้มีถุงน้ำคร่ำแตกเวลา 10.50 น. วันที่
    17 มิถุนายน 2561
  • การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาในระยะที่ 1
    ของการคลอด
    1.  การเปลี่ยนแปลงเฉพาะที่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบริเวณส่วนต่างๆของมดลูกภายในโพรงมดลูกและเอ็นยึดมดลูก
      
  • -แรกรับวันที่ 17 มีนาคม 2561
    จากการซักประวัติมารดา G2P1A0 Last 2 ปี GA
    38+6 weeks by L.M.P. ตรวจภายในแรกรับ
    Cx.dilate 3 cm, eff 80%, membrane intact,
    station -1,Vertex presentation

vital sign ; BP : 108-118/61-80 mmHg ,

PR : 76-98 ครั้ง/นาที , RR : 20-22 ครั้ง/นาที

, BT=35.8-37.2 C

แสดงให้เห็นว่าผู้คลอดรายนี้เข้าสู่ระยะที่ 1
ของการคลอดในระยะ Latent

-Uterine contraction

  1. 15 น. I=4’ D=35”s=+

10.00 น. I=3’ 45” D=40” S = +++

  1. 30 น. I=3’30” D=50” S = +++

10.50 น. I=2’ 15" D=55” S = ++++

    1.  การเปลี่ยนแปลงระบบหัวใจและหลอดเลือด
      
  • blood pressure
  • BP : 108-118/61-80 mmHg
  • pulse
  • PR : 76-98 ครั้ง/นาที
    1.  การเปลี่ยนแปลงของระบบหายใจ
      
  • RR : 20-22 ครั้ง/นาที
    1.  การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินอาหารและการเผาผลาญพลังงาน
      
  • ตลอดการดูแลในระยะที่ 1 ของการคลอด
    ผู้คลอดขับถ่ายอุจจาระหลังจากสวนอุจจาระ
  • 5.การเปลี่ยนแปลงของระบบขับถ่าย
  • ตรวจ Urine albumin และ Urine sugar :
    Negative
  • 6.การเปลี่ยนแปลงของระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
  • หญิงตั้งครรภ์มีอาการปวดหลัง
  • 7.การเปลี่ยนแปลงทางจิตสังคม
    1. ความวิตกกังวลหรือความเครียด
  • หญิงตั้งครรภ์มีความเข้าใจจากคำแนะนำของพยาบาลในการตรวจภายในเพื่อประเมินความก้าวหน้าของการคลอดและรับรู้ความก้าวหน้าในการคลอดของตนเอง
    เช่น การเปิดของปากมดลูก
  • 2.ความกลัว
  • 3.ความอ่อนล้า
  • -จากการสังเกตสีหน้าของผู้คลอดสีหน้าอ่อนเพลียเล็กน้อยเวลาเจ็บครรภ์บิดตัวไปมา
    เปลี่ยนท่า ไม่ร้องโวยวาย
  • การบรรเทาความเจ็บปวดในระยะคลอด
  • ทฤษฎีการเริ่มต้นการคลอด
    1.  ทฤษฎีการยืดขยายของมดลูก (uterine
      
      stretch theory)
  • ผู้คลอดรายนี้มีอายุครรภ์ครบกำหนดทำให้มีการยืดขยายของมดลูก
    กระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัว
    1.  ทฤษฎีความดัน (pressure theory)
      
  • ทารกในครรภ์ของผู้คลอดรายนี้มีส่วนนำเป็น
    Vertex presentation ตรวจภายในพบ Station
    -1
    1.  ทฤษฎีการขาดฮอร์โมน progesterone (
      
      progesterone deprivation theory)
  • -ผู้คลอดรายนี้มีอายุครรภ์ 38+6 weeks
    เป็นผลให้ Hormone progesterone ลดลง
    ทำให้มดลูกหดรัดตัวและมีอาการเจ็บครรภ์
    1.  ทฤษฎีการกระตุ้นฮอร์โมน oxytocin
      
      (oxytocin stimulation theory)
  • -ผู้คลอดรายนี้อยู่ระยะท้ายของการตั้งครรภ์
    ทำให้ออกซิโตซินเพิ่มขึ้น
    กระตุ้นมดลูกหดรัดตัวเพิ่มขึ้น
    1.  ทฤษฎีฮอร์โมน Cortisol ของทารกในครรภ์
      
      (fetal cortisol theory)
  • ผู้คลอดรายนี้อายุครรภ์ครบกำหนด
    ทารกมีการาเจริญเติบโตเต็มที่ทำให้มีการหลั่งของ
    cortisol ขึ้น
    มีผลทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเริ่มหดรัดตัวและเกิดการเจ็บครรภ์
  • 7.ทฤษฎีการหลั่งฮอร์โมน prostaglandin
    (prostaglandin cascade theory)
  • -ผู้คลอดรายนี้ใกล้คลอด เยื่อหุ้มทารกสร้าง
    Prostaglandins

ทeให้มดลูกหดรัดตัวและมีอาการเจ็บครรภ์

  • ปัจจัยที่มีผลต่อการคลอดในระยะที่1
    1.  แรงผลักดัน (power)
      
  • -Uterine contraction
  1. 15 น. I=4’ D=35”s=+

10.00 น. I=3’ 45” D=40” S= +++

  1. 30 น. I=3’30” D=50” S = +++

10.50 น. I=2’ 15" D=55” S= ++++

    1.  ช่องทางคลอด (passage)
      
  • ช่องเชิงกราน (bony passage)
  • O : ผู้คลอดรายนี้มีส่วนสูง 157 cm

O : จากการสังเกตผู้คลอดรายนี้มีท่าเดินปกติ

S :
ผู้คลอดรายนี้ปฏิเสธการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บของช่องเชิงกราน

  • ช่องทางคลอดที่ยืดขยายได้ (Soft passage)
  • O : ตรวจภายในแรกรับ พบว่า ปากมดลูกนุ่มบาง
    80% ช่องทางคลอดปกติ
    1.  สภาวะร่างกายของผู้คลอด (physical
      
      condition)
  • S :
    จากการซักประวัติมารดารายนี้ปฏิเสธโรคประจำตัว
    มีอายุ 29 ปี

O : จากการสังเกตมารดามีสีหน้าไม่ค่อยสดชื่น

มีอาการอ่อนเพลีย หน้านิ่วคิ้วขมวด

    1.  สภาพจิตใจของผู้คลอด (psycholgocal
      
      condition)
  • S : มารดาให้ข้อมูลว่า ปวดมาก
    มดลูกหดรัดตัวแรงขึ้น เรื่อยๆ

O :
มารดามีการลูบหน้าท้องและฝึกบริหารการผ่อนลมหายใจเพื่อบรรเทาปวด

S :
มารดาบอกว่าตนเข้าใจว่าอาการปวดเป็นธรรมชาติของการคลอด
จึงส่งเสริมการให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบรรเทาความเจ็บปวดและการเบ่งที่ถูกวิธี

    1.  สิ่งที่คลอดออกมา (Passangers)
      
    1.  Position ท่าของมารดา