Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
End Stage Renal Disease(ESRD ) - Coggle Diagram
End Stage Renal Disease(ESRD )
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ปัญหาที่ 1 มีภาวะของเสียคั่งในร่างกาย เนื่องจากประสิทธิภาพการทำงานของไตลดลง
ปัญหาที่ 2 เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุผลักตกหกล้ม เนื่องจากเวียนศีรษะ หน้ามืด
ปัญหาที่ 3 เสี่ยงต่อการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื่องจากคลื่นไส้อาเจียน รับประทานอาหารไม่ได้
ปัญหาที่ 4 ไม่สุขสบาย เนื่องจากแน่นท้อง ปวดท้อง แน่นหน้าอก
ปัญหาที่ 5 ปฏิบัติกิจกรรมประจำวันไม่ได้เต็มที่ เนื่องจากมีอาการปวดเข่าจากข้อเข่าเสื่อม
ปัญหาที่ 6 มีโอกาสเกิดการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด เนื่องจากผิวหนังมีทางเปิดของเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
ปัญหาที่ 7 มีการดูแลสุขภาพตนเองไม่ดี เนื่องจากไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง
สาเหตุ
สาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือ โรคเบาหวาน รองลงมาคือโรคความดันโลหิตสูง ส่วนสาเหตุอื่น ได้แก่ โรคหลอดเลือดฝอยในไตอักเสบเรื้อรัง ความผิดปกติของไตและระบบทางเดินปัสสาวะ เป็นต้น
พยาธิสภาพ
เกิดจากการเสื่อมของไต และการถูกทำลายของหน่วยไต มีผลให้อัตราการกรองทั้งหมดลดลงและการขับถ่ายของเสียลดลง ปริมาณ ครีตินินและยูเรียไนโตรเจนในเลือดสูงขึ้น หน่วยไตที่เหลืออยู่จะเจริญมากผิดปกติเพื่อกรองของเสียที่มีมากขึ้น ผลที่เกิดทำให้ไตเสียความสามารถในการปรับความเข้มข้นปัสสาวะ ปัสสาวะถูกขับออกไปอย่างต่อเนื่อง หน่วยไตไม่สามารถดูดกลับเกลือแร่ต่างๆได้ ทำให้สูญเสียเกลือแร่ออกจากร่างกาย
อาการและอาการแสดง
ร่างกายเสียสมดุล น้ำและอิเล็กโตรไลต์ มีอาการยูรีเมีย เช่น อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ผิวแห้ง คัน คลื่นไส้อาเจียน สะอึกเป็นตะคริว นอนไม่หลับ อาจเกิดภาวะหัวใจวายเนื่องจากน้ำเกิน และภาวะความดันโลหิตสูง
การรักษา
การปลูกถ่ายไต (kidney transplantation : KT)
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (Hemodialysis : HD)
การล้างไตผ่านทางหน้าท้อง (Peritoneal dialysis : PD)
ภาวะแทรกซ้อน
โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคโลหิตจาง
โรคกระดูกพรุน
ภาวะน้ำท่วมปอด
ภาวะยูเรียหรือระดับยูเรียสูง
การพยาบาลที่สำคัญ
สังเกตและประเมินระดับความรู้สึกตัว จากของเสียคั่ง เช่น สับสน ชักเกร็ง หมดสติ คลื่นไส้อาเจียน เป็นต้น
2.ตรวจบันทึกสัญญาณชีพทุก 2 – 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลง
3.บันทึกสารน้ำเข้า-ออกทุก 8 ชั่วโมง และชั่งน้ำหนักวันละครั้ง เพื่อประเมินภาวะน้ำเกินในร่างกาย
4.ดูแลจำกัดน้ำดื่มไม่ควรเกินวันละ 1,000 ซีซี เพื่อลดการคั่งของน้ำและชะลอการเสื่อมของไต
5.ดูแล แนะนำและควบคุมปริมาณอาหารประเภทโปรตีน
6.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการล้างไตตามแผนการรักษา เพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย
7.ดูแลส่งเลือดตรวจทางห้องปฏิบัติการตามแผนการรักษาและติดตามผลอย่างต่อเนื่อง
การส่งเสริมสุขภาพ
1.ควบคุมอาหารและลดอาหารประเภทหวาน มัน เค็ม
2.ออกกําลังกายอย่างเหมาะสม เป็นประจําอย่างสม่ำเสมอการออกกำลังกายควรเป็นแบบ Aerobic Exercise เช่น โยคะ ไทเก็ก การเดิน วิ่งเหยาะๆ เต้นแอโรบิค เป็นต้น
3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
4.รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ และพบแพทย์ตามนัด
5.หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที