Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระบบหัวใจและหลอดเลือด, นางสาวนุสรา ทัดสี…
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาระบบหัวใจและหลอดเลือด
กลุ่มโรคหัวใจที่เกิดภายหลัง (acquired heart disease)
1.การติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจ infective endocarditis (IE)
สาเหตุ
เชื้อที่เป็นสาเหตุ ได้แก่ แบคทีเรีย เชื้อรา ริคเกทเซีย (rickettsia) หรือไวรัส
มักมีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย โดยเฉพาะเชื้อ Streptococcus viridans, Staphylococcus aureus
อาการและอาการแสดง
อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดเมื่อย เหนื่อยง่าย
เสียงฟู่ของหัวใจ (heart murmur)
การตายของสมอง
ม้ามโต กดไม่เจ็บ อาจพบตับโต
ภาวะซีด
มีไข้ ลักษณะไข้ต่ำ ๆ
การรักษา
ให้ยาปฏิชีวนะในขนาดสูงทางหลอดเลือดดำ
ควรติดตามเจาะเลือดส่งเพาะเชื้อในเลือดเป็นระยะ ๆ
ตรวจสอบหาแหล่งของการติดเชื้อที่ทำให้เกิด IE เช่น ฟัน ทางเดินปัสสาวะ
โรคหัวใจรูห์มาติค rheumatic heart disease (RHD)
อาการและอาการแสดง
major criteria
Carditis
polyarthritis
chorea หรือ sydenham’s chorea
subcutaneous nodules
erythema marginatum
minor criteria
มีไข้ต่ำ ๆ
polyarthralgia มีอาการปวดข้อโดยไม่มีอาการอักเสบ
เลือดกำเดาไหล
ปวดท้อง รู้สึกไม่สบาย อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย เหงื่อออกมาก เจ็บหน้าอกซีด และน้ำหนักลด
มีประวัติเคยเป็นไข้รูห์มาติค
การรักษา
ให้ยาสำหรับต้านการอักเสบของหัวใจและข้อ ได้แก่ salicylate และ steroid
2.1 ผู้ป่วยที่มี arthritis carditis ที่ไม่มีหัวใจโต ให้ยา salicylates
2.2 ผู้ป่วยที่มี carditis ที่มีหัวใจโตหรือมีอาการหัวใจวาย ควรให้ยาเพรดนิโซโลน 2 มิลลิกรัม
ให้นอนพัก โดยทั่วไปผู้ป่วยที่มี carditis และอาการหัวใจวาย ให้พักจนกว่าจะควบคุมภาวะหัวใจวายได้ ต่อมาค่อย ๆ เพิ่มการเคลื่อนไหวมากขึ้นในเวลา 3 เดือน
ให้ยาปฏิชีวนะสำหรับกำจัดเชื้อสเตร็ปโตคอคคัสกลุ่มเอ
ในผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจวาย ให้การรักษาโดยให้ยา digitalis
เกิดตามหลังไข้รูห์มาติค (rheumatic fever) ซึ่งมีการติดเชื้อที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพยาธิสภาพของอวัยวะต่าง ๆ ได้
Kawasaki disease (KD)
สาเหตุ
เชื้อแบคทีเรีย ไวรัส ริกเก็จเชีย และอื่นๆ
กระตุ้นให้เด็กบางคนตอบสนองทางอิมมูนผิดปกติ
อาการและอาการแสดง
ไข้ ตาแดง ปากแดง
การเปลี่ยนแปลงที่มือแดง เท้า ผื่น
ต่อมน้ำเหลืองที่โต
การพยาบาล
ประเมินการทำงานของหัวใจและปอดและหลอดเลือด
ประเมินการไหลเวียนเลือดของแขนขา
วัดชีพจ
ดูปฏิกิริยาข้างเคียงของยา
ตวงและบันทึกน้ำดื่ม ปัสสาวะ ในรอบ 24 ชั่วโมง
อาหารไม่เพียงพอทั้งทางปากและหลอดเลือดดำ
ชั่งน้ำหนักทุกวัน ดูอาการบวมของภาวะหัวใจวาย
ทำความสะอาดปาก ฟัน ปากแตกแห้ง
ระวังการติดเชื้อของผิวหนัง ผิวหนังจะเป็นผื่นหรือบวม
ลดความไม่สุขสบาย
จัดสภาพแวดล้อมให้เงียบสงบ
ลดความกลัวและวิตกกังวล
การดูแลสุขภาพที่บ้าน ต้องดูแลเรื่องหัวใจและหลอดเลือดต่อไป
การพยาบาลผู้ป่วยเด็กที่มีภาวะหัวใจวาย
สาเหตุ
ความผิดปกติของหัวใจที่ทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น
ความผิดปกติของหัวใจที่ทำให้หัวใจทำงานมากขึ้น
ความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของหัวใจลดลง
จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ ส่งผลให้ปริมาณเลือดไหลออกจากหัวใจลดลง
อาการและอาการแสดง
อาการของหัวใจซีกซ้ายวาย
หายใจเร็ว ปีกจมูกบาน หายใจลำบาก หน้าอกบุ๋ม
อาการของหัวใจซีกขวาวาย
หลอดเลือดดำที่คอโป่งพอง หน้าบวม ตาบวม ตับโต
การรักษา
Ianoxin
เพิ่มแรงในการบีบตัวของกล้ามเนื้อหัวใจ และทำให้หัวใจเต้นช้าลง
เพิ่มการขับปัสสาวะออกจากร่างกายมากขึ้น (diuresis) ทำให้ลดแรงต้านทานของหลอดเลือดส่วนปลาย (afterload)
กลุ่มโรคหัวใจแต่กำเนิด (congenital heart disease)
ชนิดไม่เขียว
กลุ่มที่มีการไหลลัดของเลือดจากหัวใจซีกซ้ายไปซีกขวา (left to right shunt)
Ventricular septal defect (VSD)
มีรูรั่วที่บริเวณผนังกั้นระหว่าง เวนตริเคิล
อาการและอาการแสดง
อาการเหนื่อยง่ายโดยเฉพาะเวลาดูดนม
มีเหงื่อออกมาก
ตัวเล็กหรือเลี้ยงไม่โต
พัฒนาการอาจจะปกติหรือล่าช้า
ติดเชื้อในระบบหายใจได้บ่อย ๆ
Atrial septal defect (ASD)
มีรูรั่วที่บริเวณผนังกั้นระหว่างเอเตรียม
อาการและอาการแสดง
มักจะไม่มีอาการแสดงหรืออาการที่ผิดปกติ
บางรายอาจจะมีการติดเชื้อในระบบหายใจ
การเจริญเติบโตช้า อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเวลาออกแรงหรือออกกำลังกาย
Patent ductus arteriosus (PDA)
มีเลือดไปปอดมาก ซึ่งมีความผิดปกติ คือ หลอดเลือด ductus arteriosus ยังเปิดอยู่ภายหลังเด็กเกิด
สาเหตุ
การเกิดก่อนกำหนด
ภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำ
การติดเชื้อ
อาการและอาการแสดง
PDA ขนาดเล็กมักจะไม่มีอาการผิดปกติ
PDA ขนาดใหญ่ มักจะมาด้วยอาการของหัวใจซีกซ้ายวาย
หายใจเร็ว
เหงื่อออกมากเวลาดูดนม เหนื่อยหอบ
น้ำหนักขึ้นช้า
กลุ่มที่มีการอุดกั้นการไหลของเลือด (obstructive lesions)
Aortic stenosis (AS)
มีการตีบของลิ้นเอออร์ติค หรือมีการอุดกั้นของทางออกของเวนตริเคิลซ้าย
อาการและอาการแสดง
ในพวกที่ลิ้นตีบมากอาจจะมีอาการอ่อนเพลียง่ายเวลาเล่น เจ็บหน้าอก
Pulmonary stenosis (PS)
มีการตีบของลิ้นพัลโมนารี หรือมีการอุดกั้นของทางออกของเวนตริเคิลขวา
อาการและอาการแสดง
moderate PS และ severe PS ภาวะหัวใจวาย หรืออาการเขียวเล็กน้อย
มีอาการเหนื่อยง่าย หรือเจ็บแน่นหน้าอก
เป็นมากขึ้นเวลาออกกำลังกาย
บางรายอาจจะมีอาการเป็นลมหมดสติ
Coarctation of aorta (CoA)
มีการคอดหรือการตีบแคบที่หลอดเลือดเอออร์ต้าตรงบริเวณหลอดเลือด ductus arteriosus มาเชื่อมกับหลอดเลือดเอออร์ต้า
อาการและอาการแสดง
หายใจแรงและเร็ว
เหนื่อยหอบ เหงื่อออกมาก
ดูดนมช้า เลี้ยงไม่โต
ตรวจพบชีพจรที่ขาทั้ง 2 ข้างเบากว่า
ชนิดเขียว
กลุ่มที่มีอาการเขียวที่มีเลือดไปปอดน้อย อาจมีภาวะสมองขาดออกซิเจนอย่างเฉียบพลัน
Tetralogy of Fallot (TOF)
มีเลือดไปปอดน้อยมีความผิดปกติ 4 อย่าง
การตีบของลิ้นพัลโมนารี (pulmonic stenosis)
ผนังระหว่างเวนตริเคิลมีรูรั่ว (VSD) ขนาดใหญ่
ตำแหน่งของลิ้นเอออร์ติคเลื่อนไปทางด้านขวา (overriding aorta หรือ dextroposition of the aorta)
มีการหนาตัวของเวนตริเคิลขวา (right ventricular hypertrophy)
อาการและอาการแสดง
อาการเขียวทั่วร่างกาย
ภาวะหัวใจวาย
Pulmonic atresia (PA) ลิ้นพัลโมนารี
Tricuspid atresia (TA) ลิ้นไตรคัสปิดตัน
กลุ่มที่มีอาการเขียวที่มีเลือดไปปอดมาก อาการเขียว และมีภาวะหัวใจวาย
Transposition of great arteries
มีเลือดไปปอดมากซึ่งพบได้บ่อยที่สุด มีความผิดปกติ คือ มีการสลับที่กันของหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ออกจากหัวใจ
อาการและอาการแสดง
ภายใน 2-3 วันแรกหลังเกิด หอบเหนื่อย
อาการของหัวใจวาย
การพยาบาล
การประเมินภาวะสุขภาพ
การซักประวัติ
การตรวจร่างกาย
การประเมินภาวะจิตสังคม
นางสาวนุสรา ทัดสี เลขที่40 รหัสนักศึกษา 62111301042